เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล “พีมูฟ” ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move) เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ทวงถามความคืบหน้าการแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่มีคดีความต่อสู้เรื่องสิทธิในที่อยู่อาศัยและทำกิน ซึ่งเคยเรียกร้องมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 19 ก.ค. 2562 แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ดังนี้
“ตามที่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ได้ยื่นหนังสือฯพณฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้เร่งรัดแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 โดยมีรายละเอียดตามที่อ้างถึงนั้น บัดนี้การดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าว ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด”
“ขปส. จึงขอความกรุณามายัง ฯพณฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เร่งดำเนินการ 1.เร่งแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม 2.ข้อเสนอกรณีเร่งด่วน เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาสั่งการเป็นกรณีเร่งด่วน โดยมีรายละเอียดตามเอกสารสิ่งที่ส่งมาด้วยแล้ว”
“กรณีข้อเรียกร้องเร่งด่วน 1.กรณีการปลูกสร้างสวนป่าคอนสารทับที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิและกรณีอื่น ๆ ให้เร่งรัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน โดยมีรายละเอียดเอกสารที่ส่งมาด้วย 2.กรณีอุทยานแห่งชาติไทรทองทับที่ทำกินและที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน ในพื้นที่อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ ให้มีมาตรการเยียวยาชาวบ้านให้มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้เพียงพอต่อการยังชีพได้”
“3.กรณีชุมชนหลังเวทีสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการไปที่นายกเทศมนตรีเทศบาลนครภูเก็ตให้ชะลอการบังคับคดี และให้นำปัญหาสู่กระบวนการแก้ปัญหาของ ขปส. 4.ชุมชนทับยาง ตำบลท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ให้นายกรัฐมนตรีสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ให้ยุติกระบวนการสอบเขตที่ดินเพื่อการซื้อขายที่ดินสาธารณะประโยชน์ จำนวน 1,500 ไร่ ในพื้นที่นี้เอาไว้ก่อน และให้เร่งตรวจสอบสถานะของที่ดินสาธารณะแปลงดังกล่าวว่า ออกชอบด้วยกฎหมายหรือไม่”
“5.กรณีนางแสงเดือน ตินยอด บ้านแม่กวัก ต.บ้านอ้อน อ.งาม จ.ลำปาง และคดีความกรณีอื่น ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ขอให้นายกรัฐมนตรีมีมาตรการดำเนินการดังนี้ (1) กรณีคดีที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้มีมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบให้สามารถมีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้เพียงพอต่อการยังชีพได้”
“(2) คดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของกระบวนการยุติธรรมให้หามาตรการในการจำหน่ายคดี (3) ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจออกคำสั่งทางปกครองตามกฎหมายป่าไม้ให้ชะลอหรือยกเลิก (ในกรณีที่ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ใช่เป็นการบุกรุกใหม่และเป็นผู้ยากไร้ตามคำสั่งที่ 66/2557) (4) ให้มีคณะทำงานรวบรวมกลั่นกรองและเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาคดีความที่เกิดจากปัญหาป่าไม้ที่ดินทั้งหมด”
“6.กรณีสิทธิสถานะบุคคล ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อปลดเงื่อนไขข้อจำกัดกรณีการขยายการสำรวจผู้ตกสำรวจทางทะเบียนของผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนและผู้ขึ้นทะเบียนผิดหลงใหม่ ในสมาชิก ขปส. เพื่อโอกาสให้บุคคลดังกล่าวมีโอกาสเข้าสู่กระบวนการดังกล่าวได้”
“7.ขอให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 เรื่อง พื้นที่เป้าหมายและกรอบมาตรการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าไม้ (ทุกประเภท) เนื่องจากแนวทางและมาตรการ ดังกล่าวไม่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ โดยมาตรการเร่งด่วนให้นายกรัฐมนตรีสั่งการไปยังกรมอทุยาน ฯ ให้มีชะลอการดำเนินการสำรวจการครอบครองที่ดินของชุมชน ตามมติ ครม. ดังกล่าวเอาไว้ก่อน”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี