'ช่อ'ทวง'พุทธิพงษ์'จัดการเฟคนิวส์ จวกแนวคิด'บิ๊กแดง'อันตราย

'ช่อ'ทวง'พุทธิพงษ์'จัดการเฟคนิวส์ จวกแนวคิด'บิ๊กแดง'อันตราย

วันอังคาร ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2562, 16.18 น.

"ช่อ"ทวง"พุทธิพงษ์"จัดการเฟคนิวส์ แนะศูนย์ต่อต้านฯควรอิงคู่มือยูเนสโก จวกแนวคิด"บิ๊กแดง"คล้ายยุคก่อนเกิด6ตุลาฯ

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2562 ที่พรรคอนาคตใหม่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) แถลงกรณีการจัดการปัญหาเฟคนิวส์ ว่า ในสัปดาห์ที่แล้วตนได้สอบถาม นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เรื่องการจัดตั้งศูนย์เฟคนิวส์ ว่าควรที่จะมีประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมมากขึ้นไม่ใช่เฉพาะหน่วยงานรัฐ รวมไปถึงคำอธิบายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ถึงประเด็นการใช้เฟคนิวส์ในประเด็นทางการเมือง กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นเมื่อ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ มีการพูดถึงสงครามพันทาง และการที่พรรคการเมืองหนึ่งล้างสมองคนรุ่นใหม่ ซึ่งพุ่งเป้ามาที่พรรคอนาคตใหม่อย่างชัดเจน แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อก็ตาม เป็นเรื่องที่มีปัญหามากถึงการมองเรื่องเฟคนิวส์ของภาครัฐ และประชาชนเริ่มวิตกกังวลถึงการเผยแพร่เฟคนิวส์ด้วยเช่นกัน เพราะมีการใช้เฟคนิวส์ในการเมือง เมื่อกล่าวหา และวิพากษ์วิจารณ์รัฐ สำหรับพรรคอนาคตใหม่ก็ติดตามการตั้งศูนย์การป้องกันเฟคนิวส์อย่างต่อเนื่อง


น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า นายพุทธิพงษ์ยืนยันว่าศูนย์ต่อต้านเฟคนิวส์นี้จะทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง และระมัดระวังว่าจะไม่เป็นการใช้อำนาจไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนหรือสื่อมวลชน เราได้เห็นว่าทางกระทรวงได้เริ่มการทำงานในส่วนนี้แล้ว จาการที่นายพุทธิพงษ์ ออกมาตอบโต้กรณีข่าวที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ไปพูดเรื่องเศรษฐกิจไทย นายพุทธิพงษ์กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า การเผยแพร่ข่าวดังกล่าวเป็นการเผยแพร่เฟคนิวส์ แต่ก็ได้รับการวิจารณ์จากนักวิชาการว่า นายพุทธิพงษ์อาจจะต้องไปทำความเข้าใจเรื่องความหมายของคำว่าเฟคนิวส์ให้ชัดเจนกว่านี้ เพราะข่าวที่เกี่ยวข้องของนายสมคิด เป็นข่าวเก่าที่เป็นความจริง เพียงแต่นำมาเผยแพร่ซ้ำอีกครั้งหนึ่งเท่านั้น ฉะนั้น การดำเนินงานของศูนย์นี้จึงมีปัญหาอย่างชัดเจน

เมื่อมองย้อนกลับมาฝ่ายค้านอย่างพรรคอนาคตใหม่ ก็ถูกโจมตีบ่อยครั้ง ทั้งการตัดต่อคลิปเสียง จนนำมาสู่แฮชแท็ก "เนชั่นโป๊ะแตก" จนถึงทุกวันนี้ ก็ไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ หรือกรณีที่พรรคฝ่ายค้านถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ ที่ผ่านมา ซึ่ง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้แชร์ข่าวปลอมนี้ด้วย เราจึงอยากจะถามว่า นายพุทธิพงษ์มีแนวคิดจะจัดการเรื่องเหล่านี้อย่างไร

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า นายพุทธิพงษ์เคยให้สัมภาษณ์ว่า การจัดการข่าวปลอม หรือข่าวลวงต่างๆ จะจัดการเมื่อมีผลกระทบต่อประชาชนโดยภาพรวมเป็นหลัก เช่น ข่าวปลอมการประกาศเหตุฉุกเฉินหลังเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ หมายความว่า ข่าวที่กล่าวหาว่ามีคนนั้นคนนี้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิด กระทรวงดีอีถือว่าไม่กระทบต่อประชาชนโดยรวม เท่ากับข่าวปลอมเรื่องการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้ง 2 ข่าว เป็นข่าวปลอมเหมือนกัน เพราะการกล่าวหาใครแบบนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ได้รับข้อมูลเท็จ อันจะนำไปสู่การสร้างความแตกแยกและการเกลียดชังในสังคม และประเทศชาติ ขอเรียกร้องว่า การใช้เฟคนิวส์ใส่ร้ายบุคคล หรือพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง นายพุทธิพงษ์ควรพิจารณ์ในประเด็นนี้ใหม่ เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนเช่นกัน

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า อีกอย่างคือ นายพุทธิพงษ์เคยเปิดเผยว่าจะให้สำนักข่าวหรือสื่อมวลชนเข้าในมีส่วนร่วมเพื่อแยกแยะข่าวปลอมร่วมกับศูนย์ต่อต้านเฟคนิวส์นั้น แต่ทางกระทรวงควรเปิดเผยว่าสำนักข่าวที่โดนเรียกไปให้ข้อมูลนั้นมาจากไหนบ้าง เพราะสำนักข่าวในไทยมีการเลือกการนับถือคนที่อยู่ในการเมืองต่างกัน และควรให้ประชาชนตรวจสอบรายชื่อสื่อทั้งหมดอย่างโปร่งใส สุดท้ายคือ ศูนย์ต่อต้านเฟคนิวส์ควรอิงกับคู่มือต่อต้านเฟคนิวส์ของยูเนสโก เพราะเป็นคู่มือที่ได้รับการยอมรับว่ามีความเป็นกลาง และมีความเป็นสากล

"หนึ่งเรื่องสำคัญในเนื้อหาของคู่มือนี้ คือ ไม่สามารถให้รัฐเป็นผู้จัดการเฟคนิวส์ เพราะจะเกิดปัญหาที่เรียกว่า Ministry of Truth หรือกระทรวงสัจจะ ที่รัฐจะเป็นผู้ตัดสินว่าข่าวใดจริงข่าวใดปลอม มีความเสี่ยงที่จะใช้อำนาจในทางมิชอบ โดยไปละเมิดสิทธิของสื่อและประชาชนในการแสดงความคิดเห็น โดยอิงกับผลประโยชน์ของตัวเอง ยกตัวอย่าง การวิจารณ์รัฐบาล ซึ่งอาจจะถูกตีตราว่าเป็นข่าวปลอม ทั้งที่อาจจะไม่ปลอมก็ได้" น.ส.พรรณิการ์ กล่าว

ทั้งนี้ เราอยากจะฝากถามถึงนายกฯ , รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง รวมถึง ผบ.ทบ.ด้วยว่า พวกท่านพูดอยู่เสมอว่าคนที่ปล่อยข่าวปลอมเป็นคนที่ไม่หวังดี ทำลายชาติบ้านเมือง ตนมองว่าเป็นเรื่องแบบกำปั้นทุบดิน เพราะเราอยากทราบว่ารัฐบาลจะจัดการคนที่ปล่อยข่าวลวงข่าวปลอมอย่างไร มากกว่าที่จะเอาแต่กล่าวหาคนปล่อยข่าวแบบนั้น โดยให้ประชชาชนเชื่อว่าไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่เพื่อปกป้องประชาชน อย่าให้ประเทศไทยเดินหน้าไปจบแบบเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 หรือเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ที่ข่าวปลอมทำให้เกิดความเข้าใจผิด จนประชาชนต้องหันมาฆ่ากันและนองเลือด

เรายืนยันว่า พรรคอนาคตใหม่ไม่เคยมีความคิดเป็นปฏิปักษ์ต่อกองทัพ เพราะประเทศยังจำเป็นที่จะต้องมีกองทัพและทหาร เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศและปกป้องประชาชน แต่สิ่งที่เราอยากเห็น คือ การให้ทหารทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ เป็นกองทัพที่ไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง และหันไปพัฒนาศักยภาพของตัวเอง แต่สิ่งที่ พล.อ.อภิรัชต์ กำลังทำอยู่ ปฏิเสธไม่ได้ว่ากำลังเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง โดยสภาวะปกติที่รัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือกองทัพ เป็นเรื่องที่ควรจะเป็น และ ผบ.ทบ.ไม่มีสิทธิออกความเห็นทางการเมือง โดยเฉพาะประเด็นทางการเมืองที่ชี้เฉพาะไปที่พรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง

"ถ้าดูย้อนกลับไปในอดีตจะพบว่าแนวคิดของ พล.อ.อภิรัชต์ มีความคล้ายกับแนวคิดของ ผบ.ทบ.ช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มาก ทั้งเพลงปลุกใจ และการโฆษณาชวนเชื่อว่า นักศึกษาและคนรุ่งใหม่ในยุคนั้นมีแนวคิดอันตราย ไม่เป็นไทย และเป็นอันตรายกับสถาบันหลักของประเทศ ตนอยากบอกว่า สิ่งที่ พล.อ.อภิรัชต์ ทำ เป็นสิ่งที่อันตรายมาก" น.ส.พรรณิการ์ กล่าว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top