เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2562 ที่ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ร่วมวงเสวนา “Next Station ประชาธิปไตยไทย ปักหมุดเลือกตั้งท้องถิ่น” จัดขึ้นโดยสถาบันพระปกเกล้า
ทั้งนี้ นายธนาธร กล่าวตอนหนึ่งว่า เหตุผลที่พรรคอนาคตใหม่จะลงการเมืองท้องถิ่น อย่าแรกคือ เราไม่ได้มาจากการต้องการฐานเสียง แต่มาจากความต้องการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ดีขึ้น มาจากความต้องการที่จะปฏิรูประบบราชการรวมศูนย์ และเราต้องการสร้างประชาธิปไตยจากพื้นฐาน ทำให้ประชาชนเห็นว่าอำนาจ งบประมาณ ประชาธิปไตย และความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนเป็นเรื่องเดียวกัน และสุดท้ายเราอยากจะสร้างเมืองดีๆ จังหวัดที่น่าอยู่ บ้านเกิดที่น่าอยู่ให้กับคนไทยทุกคน ซึ่งทุกวันนี้ยังมีความเข้าใจผิดอีกเยอะมาก
"ผมไปที่ไหน พี่น้องมักจะมาถามว่าเลือก ส.ส.คนนี้มาแล้วทำไมบ้านเมืองไม่ดีขึ้นเลย ถ้าใครทำการเมืองระดับชาติไปเดินตลาด จะเจอคำถามนี้ทุกคน คำตอบง่ายๆ ส.ส.กับประชาชนนี่ไกลกันมาก เพราะความจริง ส.ส.ไม่ได้มีหน้าที่บริหารพื้นที่ อยู่ๆ ส.ส.จะไปสั่งหน่วยงานต่างๆไม่ได้ ส.ส.คือฝ่ายนิติบัญญัติ ถ้า ส.ส.จะทำ วิธีที่ทำได้คือการไปตั้งกระทู้ถามหรือตั้งข้อปรึกษาหารือในสภา มันต้องขึ้นไปถึงตรงนั้นถึงจะลงไปถึงจังหวัดของตัวเองได้"นายธนาธร กล่าว
และว่า กลไกที่ ส.ส.จะแก้ปัญหาให้กับประชาชนไกลมากและไม่ตอบสนองกับปัญหาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใกล้ชิดกับประชาชนมากกว่า แต่สิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดคือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งเป็นนักการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน มีศักดิ์ศรีและเกียรติยศ แต่อาชีพนี้ในปัจจุบันต้องไปรายงานนายอำเภอ รายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งๆที่คนเหล่านั้นไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง นี่คือรูปแบบของรัฐที่ทำงานไม่ได้
ทั้งนี้ ตนขอยกตัวอย่างให้เห็นถึงปัญหาของรัฐราชการรวมศูนย์ กรณีทะเลน้อย จ.พัทลุง-สงขลา เป็นทะเลสาบน้ำจืด ปัญหาที่เกิดขึ้นคือวัชพืชในทะเลสาบเต็มไปหมด คนที่มีครื่องจักรจะจัดการได้คือกรมโยธาธิการและผังเมือง แต่เข้าไปทำไม่ได้เพราะอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ในสังกัดของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอำนาจงบประมาณอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย คุณจะแก้ปัญหาทะเลน้อยสุดท้ายแล้วต้องกลับไปที่กรุงเทพฯ ผ่านกรมโยธาฯ ไปกระทรวงทรัพย์ฯ ไปมหาดไทย
"การจะจัดการปัญหานี้เรื่องเดียวต้องวิ่งผ่านกี่กระทรวง แล้วกระทรวงทุกวันนี้มาจากคนละพรรคกันไม่เคยคุยกัน สุดท้ายคนที่มีอำนาจในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ มีแต่นายกรัฐมนตรีสั่งการได้ นี่คือปัญหาที่มาจากการออกแบบสถาปัตยกรรมทางการเมืองที่รวมศูนย์ทุกอย่างไว้ที่ส่วนกลาง และถ้าเราไม่ปฏิรูประบบรัฐราชการที่รวมศูนย์อำนาจจริงๆ ประเทศเราเดินต่อไปไม่ได้ รูปแบบรัฐปัจจุบันที่รวมอำนาจไว้สู่ศูนย์กลางพาประเทศเราไปไกลกว่านี้ไม่ได้"นายธนาธร กล่าว
และว่า ตนอยากให้เรากลับมาตรึกตรองว่าอะไรคือความสัมพันธ์ที่ควรจะเป็นระหว่างท้องถิ่นกับรัฐส่วนกลาง ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องควรไม่มีใครสำคัญกว่าใคร ไม่มีใครอยู่เหนือใคร สถานะเท่ากัน ศักดิ์และศรีเท่ากัน แบ่งงานกันตามที่ตกลงไว้ อะไรที่ไมได้เขียนห้ามไว้ท้องถิ่นต้องมีอิสระที่จะทำได้ แต่ทุกวันนี้ ท้องถิ่นต่ำต้อยกว่า ต้องรายงานต่อราชการส่วนกลาง เราต้องต่อสู้ทางความคิดก่อน ว่าท้องถิ่นและส่วนกลางศักดิ์ศรีเท่ากัน เพียงแต่แบ่งงานกันทำ
นอกจากนี้ นายธนาธร ยังชูข้อเสนอเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ตั้งกระทรวงท้องถิ่น และมีข้อเสนอเรื่อง พ.ร.บ.จัดการตนเองทีละจังหวัด ซึ่ง 3 ตัวนี้มีปัญหาหมดเลย คือ 1.ข้อเสนอเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ถ้าทำได้ก็จะยังคงเกิดความตึงเครียดและขัดแย้งกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อยู่ดี แม้ผู้ว่าจะมาจากการเลือกตั้งฯ แต่ยังต้องขึ้นอยู่กับกฎกระทรวง ถ้าเลือกตั้งผู้ว่าฯอย่างเดียว แต่ไม่เอาอำนาจมาฝั่งนี้ด้วยจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้
2. ข้อเสนอการมีกระทรวงท้องถิ่นยิ่งมีปัญหา สิ่งที่ตนอยากให้คิด คือ เราต้องการอิสระหรือเราต้องการการขึ้นตรงกันแน่ ทุกวันนี้ท้องถิ่นคิดจะทำอะไรต้องให้ส่วนกลางอนุมัติแผน ถามว่าส่วนกลางรู้ไหมว่าบ้านของท่านมีอะไรดี ไม่รู้หรอก ท่านไม่ได้ต้องการการขึ้นตรงต่อ ท่านต้องการอิสระ ในฐานะที่เท่ากัน ท่านมีฐานะที่ได้รับการแต่งตั้งจากประชาชน ไม่ควรต้องขึ้นตรงต่อใคร การมีกระทรวงจะทำให้ปัญหายิ่งแล้วใหญ่ ท้องถิ่นจึงไม่ควรต้องอยู่ในสายบังคับบัญชาการของหน่วยงานราชการ
และ 3. ข้อเสนอเรื่องจังหวัดจัดการตนเอง ซึ่งตนเชื่อว่าทุกที่มีศักยภาพ วิถีชีวิต ทรัพยากรธรรมชาติที่แตกต่างสวยงามกันหมด ดังนั้น ไม่มีจังหวัดไหนพิเศษกว่าจังหวัดไหน สิ่งที่คิดกันว่าเป็นความพิเศษคือความปกติ ดังนั้น เป็นอำนาจปกติที่ทุกจังหวัดพึงมีอยู่แล้ว ปัญหาคือ การทำรายจังหวัดจะไม่สำเร็จ ต้องทำเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่ไปพร้อมๆกัน เริ่มจากเรื่องง่ายที่สุดคือ เปิดเผยฐานภาษีเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่มเท่าไหร่ ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ภาษีรายได้นิติบุคคล ที่เก็บในจังหวัดท่านได้เท่าไหร่ แล้วต้องมาแบ่งกับส่วนกลางกันใหม่ ให้อำนาจ ให้ภาษีท้องถิ่นเป็นคนจัดการบริหารเอง ค่อยๆดึงอำนาจ ถ่ายเทอำนาจ ถ่ายเทงบ ถ่ายเทคนมาที่ท้องถิ่น
“เราจะก้าวหน้าไปไกลกว่านี้ไม่ได้เลยถ้าแข็งแต่หัวแล้วข้างล่างอ่อนแอ ประเทศจะเข้มแข็งก้าวหน้าไปได้ต้องเริ่มจากส่วนที่เล็กที่สุด ดังนั้น สิ่งที่พรรคอนาคตใหม่อยากเสนอคือการดึงภาษีให้ท้องถิ่นนำมาบริหารได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องเอาไปรวมที่กรุงเทพฯแล้วค่อยแบ่ง ไม่ต้องเอาไปรวมในสภาแล้วไปแย่งกันในสภา เราต้องค่อยๆดึงอำนาจมาจากรัฐราชการทีละอำนาจทีละตัว เพื่อเปิดให้ท้องถิ่นค่อยๆเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของตัวเอง แต่การจะทำได้ก็ต้องแก้ที่รัฐธรรมนูญเนื่องจากการรัฐประหารตั้งแต่ปี 49 และปี 57 การกระจายอำนาจถูกดึงถอยหลัง เราจึงต้องหยุดการสืบทอดอำนจของคสช.ต้องแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อยุติการรวมศูนย์อำนาจที่กรุงเทพ ดึงอำนาจกลับมาสู่ท้องถิ่น”นายธนาธร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี