“จาตุรนต์”ชูหลักการ “บิ๊กตู่”ต้องไปตอบสภาปมถวายสัตย์ปฏิญาณ แม้เรื่องส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจริง สภาฯยังพิจารณาได้ ไม่ใช่ชี้นำ แต่ทำหน้าที่คนละส่วนกัน
16 สิงหาคม 2562 นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ได้ไปชี้แจงตอบกระทู้สดฝ่ายค้านยื่นถามการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ ว่า ยังไงพล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องชี้แจงเรื่องนี้ต่อสภาผู้แทนราษฎร ไม่ชี้แจงไม่ได้ การไม่ยอมมาชี้แจงต่อสภาถึง 2 ครั้งติดต่อกัน ในครั้งแรกก็อาจพอฟังได้ว่าติดภารกิจจำเป็น แต่พอมาสัปดาห์นี้ ข้ออ้างอะไรก็ฟังไม่ขึ้น เชื่อว่าคงไม่มีอะไรนอกจากกลัวชี้แจงไม่ได้ แต่เมื่อไม่มาชี้แจงในเรื่องสำคัญอย่างนี้ต่อเนื่องกัน ก็มีปัญหาว่าแล้วต่อๆไปจะทำงานกับสภาอย่างไร จะมาชี้แจงเรื่องอื่นๆหรือไม่ จะมีความรับผิดชอบต่อสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่
“ล่าสุดดูเหมือน พล.อ.ประยุทธ์และเนติบริกรคู่ใจจะเตรียมหาทางออกเรื่องนี้ไว้ด้วยการอ้างว่าเรื่องนี้จะไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ และในระหว่างที่มีการส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ คงอ้างว่าสภาไม่ควรอภิปรายหรือพูดถึงเรื่องการถวายสัตย์ไม่ครบอีกต่อไป และความจริงเรื่องการถวายสัตย์ไม่ครบนี้ ไม่จำเป็นต้องจบที่ศาลรัฐธรรมนูญที่เดียว หากมีคนร้องไปที่ ป.ป ช.แล้ว ป.ป ช.เห็นว่าผิด พ.ร.บ.ป.ป.ช. และป.ป.ช.อาจฟ้องไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็ได้ แต่ไม่ว่าเรื่องจะไปที่ศาลใด สภาผู้แทนราษฎรก็ยังสามารถพิจารณาเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบนี้ได้อยู่ดี” นายจาตุรนต์ กล่าว
ทั้งนี้ มีการอธิบายเรื่องสภาไม่ควรพูดถึงเรื่องใดๆที่อยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่คราวที่มีการพูดเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของนายกฯมาแล้ว ดูเหมือนประธานสภาก็วินิจฉัยไปทำนองนั้น แต่ตนเข้าใจว่าเนื่องจากเรื่องนั้นมีการอภิปรายไปแล้วพอสมควรก่อนที่เรื่องจะไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ ส.ส.ทั้งหลายจึงไม่ได้ติดใจที่จะพูดถึงเรื่องคุณสมบัตินายกฯอีกเท่าไรนัก ซึ่งก็เลยทำให้ไม่ได้มีการพูดกันว่าสภาไม่ควรพูดถึงเรื่องที่กำลังมีการพิจารณาอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญจริงหรือไม่
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เมื่อเรื่องใดที่สภากำลังพิจารณากันอยู่เกิดไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ สภาไม่ควรอภิปรายเรื่องนั้นอีกต่อไป นั้นเป็นความเห็นที่ไม่ถูกต้อง ไม่สอดคล้องกับหลักของการแบ่งแยกอำนาจและการจัดความสัมพันธ์ระหว่างอำนาจอธิปไตยทั้งสาม ซึ่งขณะนี้มีคนเสนอเรื่องไปให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาซึ่งต่อไปอาจส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ แต่ถึงแม้เรื่องไปถึงขั้นนั้นแล้ว สภาก็ยังสามารถพิจารณาเรื่องนี้ได้ เพราะเป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของนายกฯและคณะรัฐมนตรี(ครม.)ซึ่งสามารถพิจารณาได้ในหลายแง่มุม โดยไม่มีปัญหาเรื่องการชี้นำแต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่เป็นการทำหน้าที่คนละส่วนกัน ส.ส.ยังจะเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและครม.ด้วยเรื่องนี้ได้แน่นอน
“ส.ส.อาจตั้งกระทู้ถามนายกฯเพื่อจะได้รู้ว่าจริงๆแล้วเกิดอะไรขึ้น นายกฯจะยืนยันได้หรือไม่ว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ หรือส.ส.จะเสนอญัตติอภิปรายทั่วไปที่ไม่ต้องมีการลงมติก็ได้ หรือต่อไปจะอภิปรายไม่ไว้วางใจในเรื่องนี้ด้วยก็ได้ สิ่งที่อภิปรายในสภาไม่ใช่การชี้นำและย่อมไม่มีผลผูกพันต่อการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ถ้ามีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญๆอาจนำเอาไปใช้ประกอบการพิจารณาคดีหรือไม่ก็ได้ ไม่ใช่เรื่องที่จะถือว่าสภาจะไปขัดแย้งอะไรกับศาลรัฐธรรมนูญ ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตน” นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ ระบุว่า ปกติองค์กรอิสระเช่นป.ป.ช.หรือศาลรัฐธรรมนูญเมื่อเห็นว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคนใดมีมูลว่าทุจริตหรือมีเหตุสงสัยว่าจะกระทำการขัดรัฐธรรมนูญ ก็อาจสั่งให้นักการเมืองคนนั้นหยุดการปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนได้ แต่ไม่มีรัฐธรรมนูญมาตราใดที่บัญญัติว่าหากมีการพิจารณาในศาลรัฐธรรมนูญว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคนใดกระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่แล้วให้สภาผู้แทนราษฏรหยุดการปฏิบัติหน้าที่หน้าที่ในเรื่องนั้นไว้ก่อน ซึ่งเรื่องนี้มีเพียงการช่วยหาทางให้พล.อ.ประยุทธ์ไม่ต้องจนแต้มตกม้ากลางสภา แต่เล็งผลทำให้พล.อ.ประยุทธ์ไม่ต้องถูกตรวจสอบใดๆจากทั้งสภา สื่อมวลชนและประชาชนอีกเลยไม่ว่าวิถีทางใด
“เขาอยู่กับการไม่ต้องถูกตรวจสอบมาจนเคยตัวกันหมดแล้ว ก็หวังว่าสภาผู้แทนราษฎรจะไม่ปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ รอดจากการตรวจสอบของสภาและประชาชนไปได้ด้วยการบิดเบือนหลักการอย่างที่เขาพยายามทำกันอยู่” นายจาตุรนต์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี