ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
‘บิ๊กตู่’ย้ำชัด
แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ
กระจายเม็ดเงินไปทุกกลุ่ม
‘วิษณุ’เหน็บกลับฝ่ายค้าน
ยุค‘ปู’ให้คนอื่นไปตอบแทน
มั่นใจซักฟอกรบ.ไร้ปัญหา
รัฐบาลเดินหน้าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเต็มที่ ยืนยันดูแลเศรษฐกิจฐานราก รองรับความผันผวนโลก “บิ๊กตู่” ยันไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้านท้องถิ่นจ่อเทงบประมาณ 6 แสนล้านบาท ผุดโครงการทั่วประเทศ ร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจอีกแรงหนึ่ง ส่วนประเด็นฝ่ายค้านขออภิปรายรัฐบาลโดยไม่ลงมติ “วิษณุ”ยันนายกฯไม่จำเป็นต้องไปตอบก็ได้ เหน็บกลับยุคอดีตนายกฯ”ปู”ยังให้คนอื่นไปตอบในสภาแทน
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่รัฐบาลจะดำเนินการก็เพื่อรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง และพยุงไม่ให้เศรษฐกิจไทยปรับตัวลดลงกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งนี้จะต้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยเน้นการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และเพิ่มรอบการหมุนของเม็ดเงินให้กระจายไปยังกลุ่มต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มฐานรากซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ พร้อมกับเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่กำลังเกิดขึ้น เช่น ปัญหาภัยแล้ง และราคาพืชผลการเกษตร ซึ่งจะเชื่อมโยงกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะต่อไปด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เน้นย้ำเรื่องการพัฒนาโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง จะต้องดูแลประชาชนในระดับฐานราก ที่มีอยู่ร้อยละ 40 ของประชากรทั้งหมด เพื่อให้คนกลุ่มนี้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ควบคู่ไปกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เช่น ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่ส่งเสริมให้ภาครัฐและเอกชนร่วมกันลงทุน หรือ PPP ทำให้เกิดการจ้างงานคนในประเทศ ดึงดูดการลงทุน ส่งเสริมการท่องเที่ยว พร้อมยืนยันว่าการจัดทำงบประมาณปี 2563 จะไม่ละเลยเรื่องการแก้ไขปัญหาความยากจน และการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยอย่างแน่นอน
ท้องถิ่นควัก6แสนล้าน
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงแนวทางการนำเงินงบประมาณของท้องถิ่น มาใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการสำรวจงบประมาณที่เหลืออยู่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ยังไม่มีข้อผูกพันทางสัญญา หรือ รอการเบิกจ่าย ซึ่งคาดว่าจะไม่ถึง 6 แสนล้านบาท ตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ เพื่อขอความร่วมมือให้นำงบประมาณดังกล่าวพัฒนาในพื้นที่ หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ให้เกิดการหมุนเวียนใช้จ่ายในท้องถิ่นดังกล่าว โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งโครงการที่จะสามารถใช้จ่ายงบประมาณในปี 2562 ที่เหลือได้ จะต้องทำสัญญาภายในเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนตัวเชื่อมั่นว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง พร้อมที่จะให้ความร่วมมือตามแนวทางดังกล่าว ไม่มีใครที่จะยอมปล่อยให้เกิดเกียร์ว่าง เพื่อรอให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน เพราะทุกคนต้องการสร้างผลงานให้ประชาชนได้ประจักษ์ทั้งสิ้น
เดินหน้าประกันพืชผล
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจมีมติออกมาตรการหลายเรื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า มาตรการต่างๆเหล่านั้นจะถูกนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป โดยมาตรการดังกล่าวมีทั้งเรื่องการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เรื่องพืชผลการเกษตร การช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว การเร่งรัดการส่งออก การเร่งรัดการลงทุน และเรื่องที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายภาครัฐซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการทำให้เม็ดเงินลงสู่ระบบ และส่งผลให้เศรษฐกิจหมุนเวียนได้ สำหรับกระทรวงพาณิชย์ มีมาตรการเกี่ยวข้อง 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องของราคาพืชผลการเกษตรและ การเร่งรัดการส่งออก ซึ่งเราได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ที่ได้ประชุมสรุปให้มีวอร์รูมแบบรายตลาดและรายสินค้า อย่างเช่นตลาดอาเซียน ตลาดตะวันออกกลาง ตลาดอินเดียเราจะต้องบุกเบิกใหม่ รวมทั้งตลาดของประเทศจีนที่มีอีกหลายมณฑลซึ่งเรายังเข้าไปไม่ถึง อีกทั้ง ประเทศญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกส์ฤดูร้อนในปี 2563 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนจะทำงานร่วมกันให้เป็นรูปธรรม
ช่วยเกษตรกรทั่วประเทศ
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ส่วนปัญหาที่เกี่ยวกับราคาพืชผลการเกษตรนั้น จะมี 5 ตัวหลักที่ต้องดูแล ทั้งปาล์มน้ำมันซึ่งเราได้มีมติแล้วที่จะให้มีการประกันราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 4 บาท เกษตรกรครอบครัวละไม่เกิน 25 ไร่ ขณะที่เรื่องของยางพารานั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำลังเร่งรัดนโยบายการประกันรายได้ส่วนนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีข้าว ข้าวโพด และมันสำปะหลัง อย่างไรก็ตาม พืชผลการเกษตรหลายตัวราคาดีขึ้น เช่น ลำไยซึ่งตนได้พูดคุยกับเกษตรกรพบว่าพวกเขามีความพอใจ เพราะกระทรวงพาณิชย์ได้มีมาตรการกำหนดให้ล้งประกาศราคาในช่วงเช้า เพื่อให้เกษตรกรรู้และตัดสินใจในวันนั้นได้ว่าจะขายให้กับล้งหรือไม่ หรือจะเก็บไว้ไปขายในวันอื่น
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือกับสายการบินหลายแห่ง ในการอนุญาตผู้โดยสารสามารถโหลดน้ำหนักผลไม้อีก 20 กิโลกรัมต่อคนได้ฟรี โดยผู้โดยสารสามารถมารับกล่องบรรจุผลไม้ได้ที่ท่าอากาศยาน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้จัดเตรียมไว้ให้ เพื่อให้ทุกคนจะได้นำผลไม้ไปแจกจ่ายให้กับครอบครัวและญาติในพื้นที่ต่างๆ
ซักฟอกไม่กระทบการทำงาน
ขณะเดียวกัน นายจุรินทร์ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่มีการลงมติ ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณฯไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ
โดยระบุว่า เป็นสิทธิที่ทำได้ ตามที่รัฐธรรมนูญ อยู่ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะพิจารณาว่าญัตติถูกต้องหรือไม่อย่างไร ส่วนจะเป็นการซ้อมใหญ่ก่อนอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี2563หรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ทุกอย่าง หากเป็นไปตามขั้นตอนสามารถทำได้ซึ่งหากเป็นการพิจารณาร่างงบประมาณฯ ก็สามารถอภิปรายได้ทุกฝ่าย
ทั้งนี้ จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลหรือไม่ ที่ทำงานได้ไม่นาน ก็ถูกยื่นอภิปรายฯนั้น เห็นว่า การยื่นอภิปรายของฝ่ายค้านครั้งนี้ ไม่ได้มีการลงมติ ถือเป็นกระบวนการตรวจสอบตามปกติของระบบรัฐสภาที่ไม่ได้กำหนดเงื่อนเวลาในการทำงานของรัฐบาล พร้อมยืนยันจะไม่เป็นปัญหา หากยึดตามขั้นตอน
“วิษณุ”ชี้นายกฯไม่ต้องตอบเอง
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะให้ทางเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อแจ้งเหตุผลที่ไม่มาตอบกระทู้ว่าหากเขาส่งหนังสือถามมา จำเป็นต้องชี้แจง แต่ขณะนี้ไม่ทราบว่าหนังสือมาแล้วหรือยัง ที่ผ่านมาถ้ามีการส่งมาทางรัฐบาลไม่เคยไม่ตอบ
“ส่วนกรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตาม มาตรา 152นั้น นายกฯไม่จำเป็นต้องตอบด้วยตัวเอง อยู่ที่ว่าเขาตั้งคำถามๆใครเพราะมาตรา152 ไม่ใช่การถามตัวบุคคล เป็นการถามรัฐบาลเพื่อจะให้รัฐบาลตอบ หากใครเกี่ยวข้องก็ไปตอบ” รองนายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากถามเรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณนายกฯมอบคนอื่นไปตอบได้หรือไม่นายวิษณุ กล่าวว่าถึงอย่างไรนายกฯ ก็ต้องไปอยู่ดี เพราะเขาถามรัฐบาล นายกฯ เป็นหัวหน้ารัฐบาล ถ้าว่างก็ต้องไป และเชื่อว่าท่านจะไป เพียงแต่ว่า นายกฯ อาจจะตอบสองสามประโยค แล้วให้คนอื่นตอบเพราะคนที่รู้มีเยอะ
ส่วนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล ตาม มาตรา151นั้น เป็นการอภิปรายเฉพาะตัว แต่สามารถให้คนอื่นลุกขึ้นชี้แจงได้ ในอดีตที่ผ่านมาเคยมีอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่อง ส.ป.ก.4-01ต่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขณะดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ แต่ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ซึ่งเป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ รู้เรื่อง ก็ตอบ
ชี้ยุค”ปู”ให้คนอื่นแจงแทน
เมื่อถามว่าขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนายกฯ หนีสภา นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหา เพราะถ้านายกฯติดภารกิจ ก็ไปไม่ได้อยู่ดี ในอดีตมีมาตลอด คราวที่แล้ว สมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯเมื่อมีการถามเรื่องโรงแรมโฟร์ซีซั่นก็ให้คนอื่นไปตอบ พอไปชี้แจงฝ่ายค้าน เขาก็ถามคนมาชี้แจงแทนว่าเคยไปโรงแรมดังกล่าวหรือ ซึ่งคนมาชี้แจงไม่เคยไปโรงแรมโฟร์ซีซั่นจึงถูกฝ่ายค้านถามกลับว่าแล้วมาทำไม
ยันครม.ออกนโยบายหลายเรื่อง
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตที่รัฐบาล ยังไม่มีมติครม.เกี่ยวกับนโยบายและมาตรการต่างๆมีแต่การแต่งตั้งข้าราชการการเมืองเพราะหวั่นเรื่องปมถวายสัตย์ปฏิญาณหรือไม่นายวิษณุกล่าวว่านโยบายออกมาแล้วตั้งหลายเรื่องทั้งภัยแล้ง การรับมือสถานการณ์ฮ่องกง การติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุระเบิดใน กทม.มีการแต่งตั้งโยกย้ายปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด ไปแล้วและเรื่องต่างๆ หากเป็นโครงการอะไรต้องสอบถามหน่วยงานต่างๆก่อนซึ่งวันที่ 20 ส.ค.จะมีเรื่องเกี่ยวกับนโยบายออกมามากเพราะหน่วยงานเริ่มชี้แจงกลับมาแล้ว
พปชร.มั่นใจนายกฯชี้แจงได้
ด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวถึงกรณี สส.7พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา152 ของรัฐธรรมนูญ กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวคำถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญมาตรา161ว่า ตนมั่นใจว่าพล.อ.ประยุทธ์สามารถชี้แจงได้ตามกลไกระบบรัฐสภา ที่สำคัญเรื่องได้เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาแล้ว ทางที่ดีพรรคฝ่ายค้าน น่าจะรอการพิจารณาของกระบวนการตรวจสอบก่อนดีกว่า มายื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพราะฝ่ายค้านก็ไม่สามารถตัดสินเรื่องนี้ได้ซึ่งไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยและแทนที่รัฐบาลจะได้เอาเวลาไปทำงานให้กับประชาชนกลับต้องมาสาละวนอยู่กับเกมการเมืองในสภาของฝ่ายค้าน
นายธนกรกล่าวว่าเรื่องนี้พล.อ.ประยุทธ์ก็ยืนยันแล้วว่ามีขั้นตอนแก้ปัญหาอยู่แล้ว มีฝ่ายกฎหมายดูแลอยู่ก็ไม่เข้าใจพรรคฝ่ายค้านที่พยายามเอาเป็นเอาตายกับเรื่องนี้มาก ทั้งที่สุดท้ายแล้วก็ทราบแก่ใจดีว่าจะเป็นอย่างไร น่าเห็นใจพล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำอะไรก็ไม่ถูกใจไปเสียหมดในสายตาฝ่ายค้าน แต่ท่านก็ไม่ท้อถอย ยังคงมุ่งมั่นทำงานให้กับประเทศชาติและประชาชนต่อไป โดยเฉพาะการรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าซึ่งรัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาโดยจะเข้าครม.อังคารหน้า เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การกระตุ้นการท่องเที่ยงเมืองหลักเมืองรอง เมื่อเรื่องนี้ออกมาเชื่อว่าจะมีฝ่ายค้านออกมาโจมตีอีกไม่เชื่อก็คอยดูทั้งๆที่มาตรการจะเป็นการช่วยเหลือประชาชนทั่วประเทศ และทำให้เศรษฐกิจฐานรากหมุนตัวได้
ดักคอซัด‘บิ๊กตู่’อย่าหนีสภา
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม นำ ครม.เข้าถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วนตามมาตรา161ของรัฐธรรมนูญว่า เป็นการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้าน หากไม่ดำเนินการ อาจถูกมองว่า ปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ที่ผ่านมาดูเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ กำลังหลบเลี่ยง หนีปัญหา การกระทำสวนทางกับคำพูด บอกขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ก็รับผิดชอบได้เพียง แค่การไม่พูด ถึงเรื่องถวายสัตย์อีก บอกว่า ไม่กลัวสภา พร้อมมาชี้แจง แต่ที่ผ่านมา ก็หนีสภาตลอด ขนาดประธานสภาฯยังแฉเลยว่าพล.อ.ประยุทธ์ หนีสภา ไม่เคยแจ้งเหตุผล ไม่ลาให้ถูกต้อง
“ พรรคฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องหยิบเรื่องนี้มาใช้เป็นเครื่องมือโจมตีทางการเมืองกับนายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาล แต่ฝ่ายค้าน มีหน้าที่ตรวจสอบ เสนอแนะรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา อะไรที่ผิด ถ้าแก้ได้ก็กลับไปแก้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถหนีปัญหา หนีสภาได้ตลอด ทางที่ดีหันกลับมาแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง สิ่งใดทำผิดก็กลับไปดำเนินการให้ถูกต้อง อย่าประวิงเวลาโดยเฉพาะหากไม่แก้ไขก่อนที่จะมีการพิจารณา พรบ.งบประมาณปี2563หากเกิดปัญหาขึ้นมาจะส่งผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชน”นายอนุสรณ์ย้ำ
ปชป.ระดมสร้างแบรนด์สู้เลือกตั้ง
เช้าวันเดียวกันที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)จัดการระดมสมองสร้างสรรค์พรรคประชาธิปัตย์ ด้วยศาสตร์ 4DNAมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคฯเป็นประธาน โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) ส.ส.และอดีต ส.ส.อดีตส.ก.ส.ข.อดีตผู้สมัครพรรค หัวหน้าสาขาพรรค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด อดีตประธานสาขาพรรค เข้าร่วมสัมมนากันอย่างพร้องเพียง
โดนนายจุรินทร์กล่าวเปิดงานว่าเป็นการระดมสมองเพื่อสร้างสรรค์พรรคประชาธิปัตย์ด้วยศาสตร์4DNA เป็นการระดมความคิดเห็นรอบด้านแบบ360องศา หาคำตอบร่วมกัน เพื่อไปสู่การสร้างแบรนด์ ที่แข็งแกร่งให้พรรค ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมสำคัญ แล้วนำไปเป็นข้อสรุปร่วมกันว่าจะทำอย่างไรให้ประชาธิปัตย์แข็งแกร่งในทุกพื้นที่ เมื่อไหร่ที่แบรนด์ประชาธิปัตย์แข็งแกร่งก็จะสามารถนำพาพรรคและทำให้พรรคมีโอกาสที่จะให้เราได้รับเลือกตั้งในเขตนั้นๆและคะแนนฐานของพรรคได้มากขึ้น ช่วยสนับสนุนสมาชิกในการเลือกตั้งได้ แต่การสร้างแบรนด์ จะดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์คืออุดมการณ์ ทันสมัย
อีกทั้งย้ำว่าเราควรจะมีการพบกันอีกสักครั้งเพื่อระดมสมองเพื่อที่จะนำพาพรรคต่อไปโดย DNA จะนำไปใช้ในส่วนที่เป็นนามธรรมและรูปธรรมเพื่อให้เป็นแบรนด์ของประชาธิปัตย์ โดยพรรคจะมีการสร้างตึกขึ้นมาใหม่ก็จะนำไปสู่การออกแบบว่าต้องหน้าตาอย่างไรและสร้างออกมาเป็นอย่างไรเพื่อสะท้อน DNA ประชาธิปัตย์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี