วางคิวงานล่วงหน้าแน่น
‘บิ๊กตู่’ไม่ว่าง
งดไปสภาตอบถวายสัตย์ฯ
ผู้ตรวจการถกนัดแรก27สค.
ครม.เคาะ3.1แสนล.ฟื้นศก.
เติมเงินคนจน-ปล่อยสินเชื่อ
“บิ๊กตู่”ส่อไม่ไปสภาตอบปมถวายสัตย์ฯ ขอดูเวลาก่อน บอกวางงานไว้เยอะ คิวล่วงหน้าแน่น เลขาฯนายกฯเผยได้หนังสือจากผู้ตรวจฯเตรียมแจงเป็นลายลักษณ์อักษร“ปธ.ผู้ตรวจการฯ”รอบิ๊กตู่แจงปมถวายสัตย์ฯ ย้ำนำพิจารณา 27 สิงหาคม ขณะที่สภาฯบรรจุซักฟอกบิ๊กตู่ถวายสัตย์ฯกันยายน ด้าน“ครม.”ไฟเขียวมาตรการ กระตุ้นศก.3.16 แสนล้านเพิ่มเงินให้ผู้มีรายได้น้อย เผย’เศรษฐกิจใหม่’บางส่วนหันร่วมรัฐบาล
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ปฏิเสธตอบคำถามกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติในเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ จะไปตอบเอง หรือไม่ โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า”โนคอมเม้น ไม่มีคำตอบ ไม่ตอบแล้ว”
บิ๊กตู่ย้ำมีงานล่วงหน้า ไม่ไปตอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้ามีเวลาว่างจะเดินทางไปตอบที่สภาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าในวันพุธนี้ ตนมีงานที่ได้วางแผนมาล่วงหน้าแล้วว่า จะไปตรวจกำลังพลทางเรือที่ จ.ระยองซึ่งเป็นงานใหญ่พอสมควรจึงต้องไป แต่เรื่องดังกล่าวนี้ ตนจะดำเนินการเอง ทั้งนี้ ยังไม่รู้และยังไม่ทราบว่า จะไปเมื่อใดและเช้าวันเดียวกันนี้ ก็ยังไม่เห็นว่าทางสภาได้รับการตั้งกระทู้ หรือ รับการอภิปรายดังกล่าว ซึ่งยังไม่มีการกำหนดมา เพราะการถามกระทู้นั้น จะต้องให้เวลาล่วงหน้าซึ่งตนไม่ได้ มีปัญหาอะไร
ขอดูเวลาไปสภา-อ้างคิวงานเยอะ
เมื่อถามว่าล่าสุดทางสภาแจ้งว่าจะบรรจุวาระการอภิปรายซักฟอก นายกฯตามมาตรา 152ในเดือนกันยายนนั้นพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าก็ต้องไปดูก่อนว่า ทำได้หรือไม่เพราะนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรชี้แจงมาแล้ว แต่เข้าใจว่าเรื่องนี้สังคมให้ความสนใจซึ่งตนเองก็สนใจ ไม่ใช่ไม่สนใจ แต่ก็มีงานเยอะแยะ ดังนั้นจึงอยากให้อะไรก็ตาม ที่สามารถชะลอไปได้บ้าง หรือ ลดแรงกดดันไปได้บ้าง ส่วนจะทำได้หรือไม่ ก็ไม่ทราบแต่ต้องเข้าใจว่าอะไรสำคัญหรือไม่สำคัญแต่ก็สำคัญทั้งหมด เพียงแต่ต้องจัดระเบียบให้ดีก็แล้วกันซึ่งเรื่องนี้ตนจะไม่ตอบ พอแล้ว
แจงผู้ตรวจฯเป็นลายลักษณ์อักษร
ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องนี้อยากให้จบที่กระบวนการยุติธรรมใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าเดี๋ยวก็ว่ากันไปตนพูดไปแล้ว เมื่อถามว่าจะเดินทางไปชี้แจงต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ด้วยตัวเองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถาม จากนั้นผู้สื่อข่าวถามได้อีกว่าผู้ตรวจฯได้ส่งหนังสือมาถึงนายกฯแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ก็หันไปสอบถามนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีว่า“หนังสือถึงแล้วหรือไม่”ทางเลขานายกฯได้แจ้งว่า“หนังสือถึงเรียบร้อยแล้ว”เมื่อถามว่านายกฯจะชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรใช่หรือไม่กล่าวว่าเป็นไปตามระเบียบขั้นตอนเช่นนั้น
เตรียมบินประชุมยูเอ็น21-28กย.
ทั้งนี้ นายกฯ ยังเปิดเผยด้วยว่าระหว่างวันที่ 21-28 ก.ย.จะเดินทางไปประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญครั้งที่74 (UNGA 74) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยจะมีภารกิจพบคนไทยในสหรัฐอเมริการ่วมประชุมสหรัฐอเมริกา-อาเซียนและภารกิจต่างๆอีก 3-4 อย่างจึงต้องเดินทางไปหลายวันรวมถึงจะพบปะนายโดนัลด์ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาด้วย ซึ่งเป็นการเดินทางไกลถึง8 วัน ตนจึงแจ้งให้ทราบไว้ก่อนพร้อมกล่าวติดตลกว่า“อย่าคิดถึงผม”
ผู้ตรวจฯรอบิ๊กตู่แจงปมถวายสัตย์
ก่อนหน้านี้ พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าวถึงการพิจารณาคำร้องที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยขอให้พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองวินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมนำคณะรัฐมนตรีกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญมาตรา161เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินอยู่ระหว่างแสวงหาข้อเท็จจริงและรอการชี้แจงกลับมาของ พล.อ.ประยุทธ์ หลังจากที่ผู้ตรวจได้ส่งหนังสือสอบถามข้อเท็จจริงไปรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยตามปกติจะต้องส่งหนังสือชี้แจงกลับมาภายใน 30วัน แต่หากเป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อนก็จะให้เวลา 15วัน
ทั้งนี้วันที่ 27 สิงหาคมนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาในที่ประชุมของผู้ตรวจการแผ่นดินโดยหลักการพิจารณาเราจะมาดูเรื่องของข้อเท็จจริงว่าถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา161รวมทั้งมาตราอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย ยืนยันว่าจะนำเข้าที่พิจารณาวันที่27 สิงหาคมนี้ และเป็นไปไม่ได้ที่จะนำเข้าพิจารณาก่อนหน้านั้น
เผยก.ย.ถกซักฟอกปมถวายสัตย์
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา เกียกกาย นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษานายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา152 กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำครม.กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญว่า เรื่องดังกล่าวนายชวนและนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรหารือกันแล้วเห็นว่าได้บรรจุญัตติดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุม เพราะเสนอมาอย่างถูกต้องตามขั้นตอน แต่บรรจุไม่ทันภายในเดือนสิงหาคมนี้ เนื่องจากช่วงปลายเดือนสิงหาคม ทางสภา ติดการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน(AIPA)ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพโดยนายชวนบอกว่า10ปีประเทศไทยจะวนมาเป็นเจ้าภาพสักครั้งจึงต้องให้ความสำคัญดังนั้นคงจะบรรจุญัตติอภิปรายทั่วไปได้ในเดือนกันยายน
ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานคณะรัฐมนตรี(ครม.)ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน เรื่องเวลาที่จะเปิดอภิปรายทั่วไป เพราะครม.ต้องมีความพร้อมมาตอบเพราะมีเรื่องเกี่ยวข้องโดยเฉพาะตัวนายกรัฐมนตรีที่จำเป็นต้องมาตอบด้วยตัวเองเพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพล.อ.ประยุทธ์โดยตรง
ครม.ทุ่ม3.16แสนล้านกระตุ้นศก.
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม.ว่าที่ประชุมครม.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 3.16 แสนล้านบาท โดยหลังจากนี้จะผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการทันและ รวมทั้งจะมีการชี้แจงทำความเข้าใจประชาชน สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพ เศรษฐกิจชะลอตัวและภัยแล้ว ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ1.ผู้มีรายได้น้อย ที่ถือบัตรสวัสดิการรัฐได้รับเงินเพิ่มคนละ 500บาทต่อเดือน เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการรัฐเดือนละ500บาทและเพิ่มเงินเลี้ยงดูบุตรของผู้ถือบัตรสวัสดิการรัฐเดือนละ300บาท
2.เกษตรกรรายย่อยและเกษตรกรที่ประสบภัยแล้งจะได้ลดดอกเบี้ยเงินกู้ภัยแล้งของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)รวมทั้งพักหนี้ภัยแล้งลูกค้า ธ.ก.ส. ได้รับสินเชื่อช่วยเหลือผู้ประภัยของ ธ.ก.ส.และได้รับการสนับสนุนต้นทุนค่าปลูกข้าวนาปีปีการผลิต2562/63 3.กระตุ้นการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ โดยในภาคการท่องเที่ยวมีมาตรการชิมช้อปใช้ ส่วนภาคอกชนได้รับการหักรายจ่ายลงทุน 1.5เท่า เพิ่มวงเงินผ่านกองทุนของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ธพว.) บริหาร กองทุนวงเงิน 10,000 ล้านบาท รวมทั้งการค้ำประกันสินเชื่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) วงเงิน 150,000ล้านบาท สินเชื่อผ่านธนาคารกรุงไทยและธนาคารออมสินวงเงินรวม 100,000ล้านบาทและสินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยต่ำวงเงินรวม 52,000ล้านบาท
เคาะ3มาตรการกระตุ้นศก.
น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่าครม.มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในเดือนสิงหาคม-กันยายน2562โดยการโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์(e-Money)กับ 3 มาตรการ คือ 1.มาตรการพยุงการบริโภคของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพให้แก่ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14.6 ล้านคนในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวให้ได้รับเงิน 500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน 2.มาตรการมอบเงินช่วยเหลือสำหรับผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพิ่มเติม 500บาทต่อคนต่อเดือนให้แก่ผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เป็นระยะเวลา2 เดือน(มีผู้ได้รับสิทธิ5ล้านราย)
และ3.มาตรการช่วยเหลือการเลี้ยงดูบุตรแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้รับสิทธิภายใต้โครงการเงินอุดหนุน เพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายการเลี้ยงดูบุตรให้แก่ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยให้ได้รับเงินช่วยเหลือในการเลี้ยงดูบุตรเพิ่มเติม300บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา2เดือน(ผู้ลงทะเบียนโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดกว่า 800,000 ราย)
พร้อมจ่ายเงินบัตรสวัสดิการฯ
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวอีกว่า กรมบัญชีกลางได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่เพื่อให้การจ่ายเงินตามมาตรการดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถนำเงินไปซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ ร้านค้าประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่รับชำระเงินผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) Mobile Application ถุงเงินประชารัฐ ร้านค้าทั่วไปที่รับชำระเงินผ่านเครื่อง EDC แบบพร้อมการ์ด (Prompt Card) หรือสะสมไว้ใช้จ่ายเมื่อจำเป็น สะสมไว้เป็นเงินออมในบัตร อีกทั้ง สามารถถอนเป็นเงินสดได้จากตู้ ATMของบมจ.ธนาคารกรุงไทย
ซึ่งการถอนเงินผ่านตู้ ATM ช่วงเวลานี้ อาจไม่ได้รับความสะดวก เนื่องจากเป็นช่วงการจ่ายเงินเดือนและบำเหน็จบำนาญ แต่ผู้มีสิทธิ์ไม่ต้องกังวลใจ เนื่องจากเงินในกระเป๋า e-Money ดังกล่าวไม่จำกัดเวลาการใช้จ่าย สามารถถอนวันใดก็ได้ หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Call Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 02-109-2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 02-270-6400 กด 7 ในวันและเวลาราชการ
นายกฯให้บิ๊กป้อมตักเตือน’สิระ’
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแถลงหลังการประชุม ครม.ถึงการกำชับพฤติกรรม ส.ส.พลังประชารัฐอย่างไรหลังเกิดกรณี นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ลงพื้นที่ตรวจสอบคอนโดในพื้นที่กะรน จ.ภูเก็ต จนมีปากเสียงกับตำรวจในท้องที่จนเกิดเสียงวิจารณ์ว่าอาจกระทบภาพลักษณ์รัฐบาลว่าได้มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคไปแก้ปัญหาแล้ว โดยตักเตือนพูดคุยทำความเข้าใจ อาจจะหลุดอะไรไปบ้างบางอย่าง ด้วยความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง การที่ ส.ส.จะไปที่ไหนก็ตาม ถ้าตัวเองคิดว่า มีอันตรายอะไรต่างๆก็ทำเรื่องเป็นหนังสือขอไปที่ตำรวจให้มาดูแล เพราะไม่ใช่ภารกิจโดยตรงของตำรวจ ไม่ใช่แบบ นายกฯหรือรัฐมนตรีไป นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ฮึ่มอย่าให้เกิดอีก-ต้องรอบคอบ
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวว่าเรื่องการตรวจสอบโครงการ อาจจะพูดไวไปนิด แต่ก็เป็นการดีไปช่วยกันตรวจสอบ แต่การจะไปชี้ให้ใครไปจับกุมใครตรงนี้ ไม่ใช่ขั้นตอน ขอให้ช่วยกันรักษาความสัมพันธ์อันดีกันไว้หน่อย ไม่ว่ากับประชาชน สังคม อะไรต่างๆทำอะไรต้องรอบคอบ ก็ต้องตักเตือนกัน วันนี้ทราบว่าพรรคพลังประชารัฐได้ขอโทษแล้ว ขณะเดียวกันนายสิระก็ชี้แจงแล้ว บางเรื่องถ้าชี้แจงได้ รับฟังได้ก็จบไปและอย่าให้เกิดขึ้นอีก ตนได้ย้ำไปแล้ว เพราะไม่ต้องการให้ความไม่เข้าใจแบบนี้ออกต่อไปในอนาคต
บิ๊กป้อม’ชี้’สิระ’ไม่กระทบพรรค
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ต่างให้ความเห็นพฤติกรรมของนายสิระ เจนจาคะส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับตำรวจ ระหว่างลงพื้นที่ จ.ภูเก็ตว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่กระทบกับภาพลักษณ์ของพรรคแน่นอน อย่างไรก็ดี ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า การลงพื้นที่นายสิระก็ไม่ได้ไปในนามของพรรคพลังประชารัฐและพรรคพลังประชารัฐไม่มีนโยบายให้ ส.ส.ลงพื้นที่ข้ามเขตพื้นที่ของตนเอง
‘สิระ’ขอโทษเสียงดังขอปรับปรุง
ด้าน นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ยอมรับว่า เป็นคนพูดจาเสียงดัง แต่ขอยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจจะต่อว่าใคร หากเสียงของตนดังเกินไปก็ต้องขอโทษด้วย ผมน้อมรับทุกคำวิจารณ์ แต่นี่คือเนื้องานจริงที่ผมลงพื้นที่ เพื่อคนไทยทุกคน อย่าเพิ่งตัดสินผมเพียงแค่บางช่วงบางตอน ปัญหาของประเทศยังมีอีกมากมาย ที่ต้องลงไปช่วยแก้ไขเท่าที่ทำได้ ขอบคุณทุกคำแนะนำ คำตำหนิและคำวิจารณ์ ผมยินดีรับฟังและพร้อมปรับปรุงแก้ไข และ ขอขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ให้กำลังใจ
รับ’เศรษฐกิจใหม่’บางส่วนซบรบ.
ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน)ยมีนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน เป็นประธานการประชุม มีตัวแทน 7พรรคร่วมฝ่ายค้านร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง หลังมีข่าวว่าพรรคเศรษฐกิจใหม่ จะย้ายขั้วไปร่วมรัฐบาล แต่ในการประชุมวิปฝ่ายค้านได้มีนายนิยม วิวรรธนดิฐกุล รองหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ เข้าร่วมประชุมด้วย
นายนิยม กล่าวถึงกระแสข่าวการย้ายขั้วว่า วันที่ 22 ส.ค. ตนกับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตหัวหน้าพรรคฯจะแถลงความชัดเจนเรื่องนี้แต่ยอมรับว่าพรรคเศรษฐกิจใหม่ มีส.ส.6คน แต่มีบางส่วนจะย้ายไปร่วมรัฐบาลแต่ตนกับนายมิ่งขวัญจะยังคงทำงานเป็นฝ่ายค้านต่อไป รายละเอียดรอฟังแถลงเป็นทางการ
‘วิรัช’ยินดีต้อนรับ’เศรษฐกิจใหม่’
ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล ระบุว่า ยังไม่ทราบความชัดเจนเรื่องที่ จะมีส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ ย้ายขั้วมาร่วมรัฐบาล ตามหลักการ พรรคพลังประชารัฐยินดีทำงานกับทุกฝ่ายและยินดีต้อนรับหากพรรคเศรษฐกิจใหม่จะเข้าร่วมรัฐบาล ตอนนี้รัฐบาลมีเสียงทั้งหมด 253 เสียง หากตัดเสียงประธาน รองประธานสภาผู้แทนฯออกไป3เสียงจะเหลือ250เสียง ถือว่าเป็นเสียงที่พอดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี