‘ประยุทธ์’เคาะ
‘สมศักดิ์’นั่งเลขาสมช.
อนค.ชงปฏิรูปกองทัพ
ปลุก‘เลิกเกณฑ์ทหาร’
ใช้วิธีรับสมัครม.ปลาย
คณะกรรมการสถานการณ์ฉุกเฉิน เห็นชอบ ขยายเวลา “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” 3 จังหวัดชายแดนใต้ อีก 3 เดือน พร้อมขยับ กสทช.คุมจัดระเบียบ ซิมการ์ด แทน กระทรวง ดีอี ขณะ “บิ๊กตู่”
นั่งประธาน ประชุมสภาความมั่นคง เคาะชื่อ“พล.อ.สมศักดิ์” นั่ง เลขาฯสมช.คนใหม่ อนค.เปิดพิมพ์เขียวปฏิรูปกองทัพ ชงร่าง พ.ร.บ.เกณฑ์ทหาร ปลุก‘เลิกเกณฑ์ทหาร’ ใช้วิธีรับสมัครวุฒิ จบ ม.ปลาย ฝึกยาว5ปีฟุ้งได้กำลังพลคนหนุ่ม
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 สิงหาคม 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 3 /2562 มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย , นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมเห็นชอบขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตท้องที่ทุกอำเภอในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้น อ.แม่ลาน อ.เบตง จ.ยะลา , อ.สุไหงโกลก อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน-19 ธันวาคม 2562 เพื่อเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบการปรับลดพื้นที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ออกจากพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยนำ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2548 มาบังคับใช้ โดยจะเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาเห็นชอบต่อไป
ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จะประเมินพื้นที่ว่าพื้นที่ใดเข้าข่ายตามตัวชี้วัดจะปรับลดจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯได้อีกบ้าง
พล.อ.วัลลภ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบให้เปลี่ยนแปลงหน่วยงานรับผิดชอบในส่วนของการจัดระเบียบการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่และซิมการ์ดจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี.) มาเป็นคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจตามหน้าที่และอำนาจของกฎหมาย
ด้านพล.อ.ประวิตรกล่าวถึงการแต่งตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขคนใหม่ว่ายังไม่มีการแต่งตั้งโดย ให้รองหัวหน้าคณะทำงานฯทำหน้าที่แทนไปก่อน และให้พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหมดูภาพรวมเรื่องผู้แทนพิเศษ
มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่าในการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานซึ่งมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พร้อม พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเมื่อวันที่ 22ส.ค.ได้เห็นชอบเสนอชื่อ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นเลขาธิการ สมช.คนใหม่ หลังจาก พล.อ.วัลลภ จะเกษียณอายุราชการสิ้นเดือน ก.ย.นี้ โดยจะมีการนำรายชื่อเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
สำหรับพล.อ.สมศักดิ์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น19จะเกษียณอายุราชการในปี63 ถือเป็นนายทหารคนที่3 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)มาถึงรัฐบาลปัจจุบัน ที่โยกคนจากกองทัพมาเป็น เลขาธิการ สมช.ต่อจากพล.อ.ทวีป เนตรนิยมและพล.อ.วัลลภนอกจากนี้ในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ จะมี รองเลขาธิการสมช.เกษียณอายุราชการ 2 คน ทำให้ตำแหน่งว่างลง ซึ่งปรากฏชื่อพล.ท.ณตฐพล บุญงาม เจ้ากรมข่าวทหารนักเรียนเตรียมทหารรุ่น21ที่มีข่าวว่า จะถูกโยกมาเป็นรองเลขาธิการ สมช.อีกด้วยโดย พล.ท.ณตฐพล ยังเหลืออายุราชการอีก3 ปี
ขณะที่ พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) รับราชการทหาร ของพรรคอนาคตใหม่ ว่า สำหรับรายละเอียดหลักๆในเรื่องของการปฏิรูปกองทัพนั้น เรื่องที่ง่ายที่สุดคือการยกเลิกเกณฑ์ทหารแบบปัจจุบัน โดยจะใช้วิธีการสมัครใจแทน แต่ยังคงไว้ซึ่งวิธีการเกณฑ์ทหารยามเกิดศึกสงคราม ซึ่งอยู่คนละหมวดกัน ในส่วนของวิธีการรับสมัครนั้น ผู้สมัครต้องจบการศึกษาระดับมัธยมปลาย โดยมีระยะเวลาการฝึกอย่างน้อย 5 ปี เพื่อสร้างศักยภาพให้เข้มแข็ง จากเดิมที่ฝึกเพียง 1 ปีครึ่งเท่านั้น ก่อนจะปลดระวางไป ซึ่งเรามองว่าในแง่ของประสิทธิภาพนั้น คนที่มาฝึกอาจจะได้รับไปอย่างไม่เต็มที่
“หากคุณมีความสามารถก็สามารถสอบเลื่อนตำแหน่งตั้งแต่ยศนายสิบ ไปจนถึงพันโท ผ่านการสอบแข่งขันวาระละ 5 ปี ทำให้เราจะได้กองทัพที่หนุ่มและเข้มแข็ง ขณะที่ระยะเวลาการฝึกวาระละ 5 ปีนั้น จะทำให้จำนวนกำลังพลลดลง ซึ่งเราสามารถนำงบประมาณในส่วนนี้ไปเพิ่ม เงินเดือน และสวัสดิการต่างๆได้ประมาณ 2 เท่า รวมทั้งให้เป็นทุนการศึกษาจนสามารถเรียนได้จนจบปริญญาตรี ในร่างเรากำหนดจำนวนกองกำลังสำหรับสู้รบไว้คงเดิม แต่เปลี่ยนทหารที่เป็นกองกำลังประจำการ มาเป็นกองกำลังสำรองแทน” พล.ท.พงศกร กล่าว
พล.ท.พงศกร กล่าวอีกว่า หาก พ.ร.บ.ดังกล่าวบังคับใช้ ภายใน 6 ปี เราจะมีกำลังรบที่เข้มแข็ง ครบ 10 ปีเราจะมีทั้งกำลังรบ และกำลังสำรองที่เข้มแข็ง ตอนนี้เราร่างแล้ว เหลือเพียงหาตกแต่งจุดต่างๆให้สมบูรณ์ โดยการรับฟังความเห็นของประชาชน เพิ่มเติม เพื่อปรับให้สมบูรณ์ก่อนนำเสนอเข้าสภาต่อไป ซึ่งคาดว่าเราจะสามารถยื่นได้ในการประชุมรัฐสภาครั้งแรก ในสมัยประชุมหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี