‘ศิริโชค’งงปมยกคำร้องผู้สมัครภูมิใจไทยจัดเลี้ยง จี้ กกต.ตอบ3ข้อสงสัย
25 สิงหาคม 2562 นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้แจ้งคำวินิจฉัยมาถึงตนในฐานะผู้ร้อง กรณีมีการจัดเลี้ยงในเขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดสงขลาของนายณัฐชนน ศรีก่อเกื้อ ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคภูมิใจไทย(ภท.) ซึ่งเป็นความผิดจัดเลี้ยงเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 73 วรรค 1(4)
โดย กกต.วินิจฉัยว่าผู้ถูกร้องได้จัดพิธีเปิดป้ายศูนย์อำนวยการเลือกตั้งเขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดสงขลา พรรคภูมิใจไทย มีการนิมนต์พระภิกษุมาทำพิธี ในพิธีมีญาติที่อยู่ในละแวกดังกล่าวมาร่วมพิธีประมาณ 20 คน มีการจัดทำอาหารเพื่อบริการแก่ผู้เข้าร่วมพิธีเท่านั้น ประกอบกับวันเปิดป้ายศูนย์อำนวยการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นวันก่อนการเปิดรับสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และไม่ปรากฏว่าผู้ถูกร้องได้พูดจูงใจผู้ร่วมพิธีเพื่อจะให้เลือกผู้ถูกร้อง จึงยกคำร้องในเรื่องนี้ เพราะเห็นว่าไม่ได้เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพ. ศ. 2561 มาตรา 73 วรรค 1(4)
ทั้งนี้ ตนมีข้อสงสัยใน 3 ประเด็น คือ 1.โดยปกติแล้ว กฎหมายเลือกตั้ง สส.จะมีผลบังคับใช้ เมื่อมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง สส. กรณีนี้แม้ กกต.จะอ้างว่ายังไม่ได้มีการเปิดรับสมัคร แต่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งแล้ว ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม การจัดเลี้ยงเกิดขึ้นในวันที่ 29 มกราคม เท่ากับ กกต.กำลังสร้างบรรทัดฐานว่าการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง สส. จะเริ่มนับหนึ่ง ในวันรับสมัครเลือกตั้ง ไม่ใช่วันประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งใช่หรือไม่
2.จากการไต่สวนของ กกต. ระบุชัดเจนว่ามีการจัดทำอาหารให้กับผู้ เข้าร่วมพิธีเปิดป้ายศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดสงขลา พรรคภูมิใจไทย แต่ที่ชี้ว่าไม่ผิด เป็นเพราะผู้เข้าร่วมพิธีคือญาติของผู้ถูกร้อง จึงมีคำถามว่าญาติผู้ถูกร้อง ไม่ใช่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอย่างนั้นหรือ เหตุใดจึงมีข้อยกเว้นในการจัดเลี้ยงให้กับญาติว่าสามารถทำได้
3.กกต.ให้เหตุผลในการยกคำร้องว่าไม่ปรากฏว่าผู้ถูกร้องพูดจูงใจผู้ร่วมพิธีเพื่อจะให้เลือกผู้ถูกร้อง แต่ในกฎหมายเลือกตั้ง สส. มาตรา 73 ระบุชัดว่าห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วยวิธีการดังต่อไปนี้ โดยวงเล็บ 4 กำหนดเกี่ยวกับเรื่องเลี้ยงหรือรับจัดเลี้ยงผู้ใด จะเห็นได้ว่ากฎหมายระบุเรื่องของวิธีการคือห้ามไม่ให้จัดเลี้ยงแต่จากคำวินิจฉัยนี้ กกต. กำลังวางมาตรฐานว่าจัดเลี้ยงได้ถ้าไม่พูดจูงใจ
“ผมคิดว่า กกต.ควรมีคำตอบในเรื่องนี้เพราะคำวินิจฉัยของ กกต.จะถูกใช้เป็นบรรทัดฐานในกรณีอื่นๆ หากข้อสงสัยของผมเป็นจริง เท่ากับในอนาคตผู้สมัครสามารถจัดเลี้ยงญาติได้โดยไม่มีความผิด สามารถจัดเลี้ยงใครก็ได้ถ้าไม่พูดจูงใจ และการจัดเลี้ยงก่อนวันรับสมัคร ไม่ถือเป็นความผิดใช่หรือไม่” นายศิริโชค กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี