"ปธ.ชวน"เปิดการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียนครั้งที่42 แนะทบทวน4บทเรียนสำคัญสำหรับการทำงานด้านนิติบัญญัติ "จัดลำดับความสำคัญ-ทำงานด้วยกัน-ให้ความสำคัญกับประชาชน-เคารพหลักนิติธรรม"
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2562 ที่โรงแรมแชงกรีล่า ถ.เจริญกรุง นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในฐานะ ประธานสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ได้กล่าวเปิดการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ 40 ระหว่งวันที่ 25 - 30 สิงหาคมนี้ ว่า ผมมีความยินดีและเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับทุกท่านสู่ประเทศไทยในการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ครั้งที่ 40ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียนครั้งสุดท้าย เมื่อ 10 ปีที่แล้ว และในครั้งนี้ เราปลาบปลื้มที่ได้ต้อนรับครอบครัวอาเซียนของเราอีกครั้ง
นายชวน กล่าวต่อว่า เป็นเวลา 42 ปี ที่ AIPA ได้ทำหน้าที่เป็นเวทีที่จะส่งเสริมความร่วมมือในหมู่สมาชิกรัฐสภาอาเซียน จากการเริ่มต้นแบบเรียบง่าย เราได้เติบโตขึ้นจนแวดล้อมไปด้วยสมาชิกรัฐสภา 10 ประเทศ รวมทั้ง 12 รัฐสภาสังเกตการณ์จากทั่วโลก นี่คือความสำเร็จที่โดดเด่น เพราะสำหรับภูมิภาคที่กว้างใหญ่และหลากหลายเช่นของเรา การยืนอยู่ใต้ธงผืนเดียวกันมาได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ คือ บทพิสูจน์ถึงความใฝ่ฝันที่เรามีเหมือนกัน ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่าเราแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากเมื่ออยู่ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านความมั่นคงของเรา เศรษฐกิจของเรา หรือความเท่าเทียมทางสังคมของเรา
แต่ประวัติศาสตร์ยังคงถูกเขียนขึ้นอยู่ตลอดเวลา และเราต้องระมัดระวัง ด้วยเกรงว่าเราจะถูกกลืนหายไปในกระแสของการเปลี่ยนแปลง การเกิดขึ้นของลัทธิหัวรุนแรง ภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ภัยพิบัติจากการอพยพ และสภาวะเสื่อมโทรมจากการคอรัปชั่น ได้เตือนพวกเราว่าโลกยังไม่หยุดหมุน และถึงแม้เราจะดิ้นรนที่จะอยู่รอด ความท้าทายใหม่ก็คุกคามที่จะบั่นทอนความสำเร็จของเรา ในช่วงเวลาที่สับสนวุ่นวายนี้ ก็จะเกิดความอยากที่จะใช้การแก้ไขปัญหาแบบเร่งด่วนแต่ก็ไม่สามารถจะแก้ปัญหาที่แท้จริงได้ โดยการทำเช่นนั้น เราจะไม่ประสบความสำเร็จใดๆ นอกจากทำให้สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ยิ่งล่าช้า ซึ่งเมื่อเกิดขึ้น ก็จะทับถมในระดับสูงสุดบนความยากจนที่สุด ความอ่อนแอที่สุด และความเสี่ยงที่สุดของเรา
นั่นคือสาเหตุว่า หัวข้อของการประชุมใหญ่ฯ ในปีนี้ คือ “นิติบัญญัติร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล เพื่อประชาคมที่ยั่งยืน” ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติของอาเซียน เราเป็นหน่วยงานการปกครองที่ใกล้ชิดกับประชาชนของเรามากที่สุด และอยู่ในตำแหน่งเฉพาะตัวที่จะเห็นสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาที่เกิดกับประชาชนเหล่านั้น ด้วยการฟังเสียงของประชาชนบอกเล่า เราสามารถจะจัดการกับต้นเหตุที่แท้จริงและทำให้ประชาชนมั่นใจถึงความยั่งยืนของการกินดีอยู่ดี ผมเชื่อว่ามี 4 บทเรียนที่สำคัญที่ต้องระลึกไว้
บทเรียนแรก คือ เราต้องจัดลำดับความสำคัญ มักจะมีอะไรให้เราทำเกินกว่าที่ความสามารถของเราจะทำได้เสมอ ในฐานะนักนิติบัญญัติ ก็ขึ้นอยู่กับเราที่จะตัดสินใจว่าปัญหาไหนของประชาชนต้องอยู่ในลำดับต้น ๆ ดังนั้น เราต้องแน่ใจว่า ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดของเราจะเกิดประโยชน์มากที่สุดสำหรับมวลชน
บทเรียนที่สอง เราต้องทำงานด้วยกัน ทั้งที่อยู่ในกลุ่มประเทศของเราหรือกับเพื่อนร่วมงานของเรา เช่นเลขาธิการอาเซียน การร่วมมือเป็นสิ่งจำเป็นหากเราต้องการประสบความสำเร็จในอนาคตระยะยาว ในช่วงก่อนหน้า ในการประชุมหารือระหว่างคณะผู้แทนสมัชชารัฐสภาอาเซียนกับผู้นำอาเซียน เราได้เสนอให้มีเวทีการประชุมเพื่อให้มีการประสานงานกิจกรรมต่างๆ ของอาเซียนกับเลขาธิการสมัชชารัฐสภาอาเซียนขึ้น ซึ่งประธานอาเซียนได้รับข้อเสนอดังกล่าว ดังนั้น เรามาร่วมกันเริ่มต้นมุ่งไปสู่การร่วมมือนั้น
บทเรียนข้อที่สาม เราต้องให้ความสำคัญกับประชาชนก่อนสิ่งอื่นใด ไม่ว่าเราจะมองไปยังคนในประเทศของเรา หรือผู้อยู่อาศัย ๖๔๗ ล้านคนของอาเซียน หรือมากไปกว่านั้นที่พลเมืองของโลก มันสำคัญที่เราจะวัดความสำเร็จของเราจากความเป็นอยู่ของพวกเขา ถ้าเราเพิ่มขีดความสามารถให้พวกเขาสามารถยืนด้วยตนเองได้โดยการให้โอกาสและความมั่นคง ประชาคมจะเติบโตและคงทนได้ตามธรรมชาติ
บทเรียนที่สี่ เราจำเป็นต้องเคารพหลักนิติธรรม ในฐานะสมาชิกสภานิติบัญญัติ กฎหมายเป็นแก่นแท้ของเรา เรารักษาระเบียบของสังคมผ่านกฎหมาย แต่ในอีกด้านหนึ่ง กฎหมายคือวิธีที่สังคมดูแลประชาชน ไม่มีประเทศใดสามารถหยิบยื่นให้พลเมืองของเขามีความมั่งคั่งเท่ากันได้ แต่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครควรจะได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย
"ขอให้ผมได้เล่าถึงช่วงเวลาที่ประเทศไทย ซึ่งแม้จะอยู่ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย ได้ประสบกับความทุกข์จากปัญหาความไม่ยุติธรรมอย่างชัดเจน เมื่อฝ่ายบริหารได้เลือกปฏิบัติ ในทางต่อต้านต่อกลุ่มคนที่มีทรรศนะทางการเมืองแตกต่างจากพวกเขา แต่ก็ยังคงมีความหวัง เมื่อสภานิติบัญญัติสามารถปกป้องการเลือกปฏิบัติของฝ่ายบริหารได้ และรักษาไว้ซึ่งความเท่าเทียมทางกฎหมาย ผมได้รับเกียรติในการทำหน้าที่ทั้งการเป็นผู้นำฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ หากขาดการถ่วงดุลอำนาจ สินบนและฉ้อราษฎร์บังหลวงจะกัดกร่อนสังคมจากภายใน ประชาคมที่ไม่รักษาหลักนิติธรรมจะไม่สามารถมีความเท่าเทียมกันได้อย่างแท้จริง" นายชวน กล่าว
นายชวน กล่าวด้วยว่า ประชาชนชาวอาเซียนมีความอุดมสมบูรณ์ทั้งทางวัฒนธรรมและภูมิศาสตร์ นั่นคือสาเหตุที่นิยามของประชาคมที่ยั่งยืนเพียงแบบเดียวนั้นไม่สามารถใช้ได้ทุกที่ ไม่มีวิธีการหนึ่งเดียวที่จะแก้ปัญหาทุกอย่างได้ แต่นั่นก็หมายถึงว่า ทำไมสมัชชารัฐสภาอาเซียนถึงมีบทบาทสำคัญที่ต้องแสดง ผมยอมรับว่า ในประเทศไทย คนไทยทราบเกี่ยวกับ AIPA และความรับผิดชอบด้านต่างๆ ของเราน้อย แต่หากว่า ในสัปดาห์นี้เราสามารถแก้ปัญหาบางประเด็นที่เชื่อมโยงโดยตรงกับชีวิตของประชาชนได้ เราจะได้ที่นั่งในใจและความชื่นชมจากพวกเขา ความสามารถของเราในการเปิดรับความหลากหลาย เคารพในความแตกต่างนั้น และยังคงขับเคลื่อนต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคงจะสร้างให้ ASEAN มีคุณค่าสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป ดังนั้น ผมขอทวนถึงความซาบซึ้งอย่างจริงใจของผมต่อการเข้าร่วมการประชุมใหญ่ฯ ของท่านอีกครั้งหนึ่ง ผมหวังว่าท่านจะร่วมปรึกษาหารือกันอย่างเกิดผลในสัปดาห์นี้ ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ ผมขอเปิดการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน ณ บัดนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี