เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2562 พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า กรณีที่ นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ ได้ประเมินผลงานรัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจไทย คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข เป็นรัฐมนตรียอดเยี่ยม มีผลงานดีหลังจากทำงานมาเกือบครบ 1 ไตรมาส แบบบิ๊กเซอร์ไพรส์ ทั้งเรื่องการผลักดันไม่ให้ประชาชนร่วมจ่ายบัตรทอง การแก้ปัญหาลดความแออัดในโรงพยาบาล ด้วยการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในโครงการเทเลเมดิซีน ซึ่งเป็นการพัฒนาและประยุกต์ใช้งานบริการทางการแพทย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชนบท ต้องบอกว่าดีใจที่สังคมได้มองที่ผลงานของนายอนุทินอย่างแท้จริง แต่งานของรัฐมนตรียังมีอีกหลายส่วนที่กำลังเกิดเป็นรูปธรรม เช่น การผลักดันกัญชาเพื่อการแพทย์ การยกระดับ อสม.
"การทำงานของนายอนุทินนั้น ชี้ให้เห็นว่าเป็นคนตั้งใจทำงานมากคนหนึ่ง เน้นการเข้าถึงประชาชนเพื่อช่วยแก้ปัญหา พัฒนาโครงสร้างสาธารณสุข ทั้งหมดก็เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน" โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า ในส่วนของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่ถูกวิจารณ์ว่าแก้ปัญหาไม่ตรงจุด เช่น เรื่องที่ยืดหยุ่นให้รถตู้เดินรถต่อไปได้นั้น ขอชี้แจงว่า นายศักดิ์สยาม เป็นรัฐมนตรีคนหนึ่งที่ทำงานแบบไม่มีวันหยุด ลงพื้นที่ดูแลมอบนโยบายแก้ไขปัญหาจราจรในหลายพื้นที่ การแก้ปัญหารถตู้ ก็ไม่ได้บังคับให้เปลี่ยนมาเป็นไมโครบัสทั้งหมด แต่ให้ใช้การสมัครใจ แต่ขณะเดียวกันก็มีเสียงวิจารณ์ว่าโยนความเสี่ยงให้ประชาชนนั้น เรื่องนี้มีที่มาที่ไป เพราะการแก้ปัญหาต้องคิดถึงใจเขาใจเรา เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ ผู้ประกอบการมีรายได้ไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนรถจากรถตู้ไปเป็นรถไมโครบัสที่มีราคาสูง คันละประมาณ 2.2 ล้านบาท จากราคารถตู้อยู่ที่ 1.2 - 1.3 ล้านบาทต่อคัน หากใช้มาตรการบังคับ หากบังคับให้เปลี่ยน ก็อาจส่งผลให้รถในระบบลดน้อยลง เพราะผู้ประกอบการไม่มีกำลังซื้อรถไมโครบัส อาจจะทำให้ราคาค่าโดยสารแพงขึ้นได้ แล้วจะกระทบต่อค่าครองชีพประชาชนที่ต้องสูงขึ้น
เมื่อถามว่า มีการมองเป็นการโยนความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยให้ประชาชน พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า การไม่บังคับให้เปลี่ยนรถตู้เป็นไมโครบัส ไม่ใช่เป็นการโยนความเสี่ยงให้ประชาชน แต่เป็นการทำงานแก้ปัญหาอย่างเข้าใจ รู้สภาพความเป็นจริง ของทั้งผู้ให้และผู้รับบริการ ซึ่งนายศักดิ์สยามไม่ได้ละเลยเรื่องความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้บริการรถสาธารณะเลย ได้มีมีนโยบายชัดเจนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบสมรรถภาพพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะทั่วประเทศ จำนวน 1.2 ล้านคน และตรวจสภาพรถโดยสารสาธารณะทั่วประเทศจำนวนรวม 1.5 แสนคันใหม่ รวมถึงตั้งจุดตรวจรถโดยสารสาธารณะทั่วประเทศ 245 จุด ตรวจทุกวัน 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบก เข้มงวดบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดเด็ดขาด
"เห็นได้ว่าการทำงานของรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย มีการคิดวิเคราะห์อย่างรอบด้าน เพื่อลดผลกระทบเชิงลบแก่ทุกฝ่าย ก่อนที่จะดำเนินการจริง รัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยทุกคนมีหลักการทำงานที่คิดถึงประชาชนเป็นหลัก ต่างก็ยึดหลักการทำงานนี้ ทุกคนตั้งใจทำงาน มีผลงานให้เห็นตามหน้าสื่อตลอดการทำงานที่ผ่านมา" โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี