“บิ๊กตู่” ลงพื้นที่ จว.พิษณุโลก ประชุมร่วม ผู้ว่าฯ 17 จว.ภาคเหนือ สั่งการ ดูแลปชช.ให้ปลอดภัย พร้อมเยียวยาพื้นที่เกษตรที่เสียหาย หลังน้ำลดให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 เวลา 13.30 น. ที่ห้องสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด หาแนวทางช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดภาคเหนือ โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ร่วมหารือด้วย
โดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯกล่าวว่า รัฐบาลตั้งใจแก้ปัญหาน้ำอย่างยั่งยืน ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกัน รวมถึงเกษตรกรด้วย วันนี้ตั้งใจเดินทางมาติดตามปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกและสุโขทัย เพราะเป็นพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมมาโดยตลอด ต้องมาหาแนวทางมาร่วมกัน ทั้งเก็บกักน้ำไว้ใช้ในที่ลุ่ม ปรับเปลี่ยนอาชีพ ส่งเสริมอาชีพประมง อาชีพเลี้ยงสัตว์ และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำคลองชมพู และโครงการพัฒนาลุ่มน้ำวังทอง โครงการที่มีความเร่งด่วนสามารถทำก็ให้พิจารณาดำเนินการก่อน โดยต้องหาแนวทางในการเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ทั้งเร่งเยียวยาในส่วนพื้นที่การเกษตรที่เสียหายตามหลักเกณฑ์ที่มีอยู่ ทั้งนี้ ขอให้น้อมนำแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติ โดยเฉพาะการจูงน้ำไปเก็บไว้ และในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงห่วงใยและสั่งให้ดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด ซึ่งขอแสดงความเสียใจต่อประชาชนที่สูญเสียซึ่งสั่งให้ความช่วยเหลือโดยด่วนแล้ว
ด้าน รมว.มหาดไทย ระบุในที่ประชุมว่า ความเสียหายครั้งนี้รวมแล้วกว่า 6 แสนกว่าไร่ ส่วนใหญ่เป็นที่นา รวมทั้งมีการรายงานผู้เสียชีวิตรวม 16 ราย จึงต้องยกระดับการแจ้งเตือน น้ำหลากมาฉับพลัน เพื่อให้พร้อมรับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที ทุกฝ่ายต้องติดตามสถานการณ์พายุและมีการแจ้งเตือนภัยอย่างใกล้ชิด ติดตามประเมินสถานการณ์ ปรับแผนการทำงานที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ให้มีการระบายน้ำที่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการเร่งอพยพประชาชนให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัยโดยด่วน กรณีมีน้ำท่วมสูง หลังน้ำลดก็ให้เร่งแก้ปัญหาเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ตลอดจนพิจารณาตามแนวทางนายกรัฐมนตรีให้จูงน้ำไปเก็บไว้ใช้ประโยชน์ในช่วงฤดูแล้ง และแนวทางใหม่ คือการนำน้ำไปเก็บในที่เอกชนหรือที่ของประชาชน ให้เป็นพื้นที่รับน้ำ โดยต้องมีการฟื้นฟูเยียวยาอย่างเหมาะสมด้วย ทั้งนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 10ทรงพระราชทานแนวทางว่า จะต้องให้ประชาชนกลับมามีชีวิตปกติให้เร็วที่สุด โดยให้ท้องถิ่นและป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยลงไปช่วยดูแลก่อนเลย โรงครัวพระราชทานนำส่งอาหารถึงบ้านสำหรับบางคนที่ต้องเฝ้าบ้าน
ขณะที่ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กรมชลประทานได้จัดเวรเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง และเร่งฟื้นฟูเยียวยาภายหลังน้ำลดทุกพื้นที่ โดยมีการเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ได้ข้อมูลภายในหนึ่งสัปดาห์ รวมทั้งให้กรมประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจพื้นที่ที่จูงน้ำเข้าไปเก็บ การนำสัตว์น้ำไปปล่อยในพื้นที่เพื่อเป็นอาหารสำหรับประชาชน รวมถึงการนำพันธุ์พืชอายุสั้นมอบให้เกษตรกรเพาะปลูกเพื่อสร้างรายได้และอาชีพให้กับประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ นายกฯได้กำชับข้าราชการระดับจังหวัดจะต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทุกส่วนราชการที่ขึ้นกับผู้ว่าราชการจังหวัดต้องทำงานอย่างเข้มแข็งต้องไม่มีการทุจริต มาตรการรองรับภัยต้องมีแผนดำเนินการตั้งแต่ก่อนเกิดภัย การประชาสัมพันธ์ต้องแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ ให้เฝ้าระวังและปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง การอพยพประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งเร่งดำเนินการเยียวยาหลังน้ำลด การสนับสนุนเครื่องจักรเครื่องมือ รวมทั้งต้องเตรียมการพร้อมรับพายุลูกใหม่ที่จะเกิดขึ้น ทั้งการประกาศแจ้งเตือนทางวิทยุและสื่อโชเชียลต่าง ๆ ผ่านทางโทรศัพท์ หากพื้นที่น้ำหลาก เจ้าหน้าที่ต้องรีบดำเนินการตัดไฟทันที เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน ระวังสัตว์มีพิษ ทั้งนี้ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ ทั้ง 3 ส่วน คือ งบกลางใช้เร่งด่วน งบฟังก์ชั่น และงบท้องถิ่น ขอให้ดำเนินการตามห้วงเวลาและเป้าหมายที่กำหนด นายกรัฐมนตรียังพร้อมรับพิจารณาโครงการเกี่ยวกับน้ำของทุกจังหวัด ขอเพียงให้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามขั้นตอนและจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วน ก่อน จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้เดินทางต่อไปยัง อ. วังทอง เพื่อมอบสิ่งของพระราชทานฯ ผู้ประสบภัยด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี