ไฟเขียวตั้งกมธ.35คณะ
แบ่งเค้กลงตัว
8พรรคได้เก้าอี้ถ้วนหน้า
10มุ้งเล็กแห้วอีกตามเคย
ฝ่ายค้านเตรียม20ขุนพล
ดาหน้าถล่มบิ๊กตู่18กันยา
ประธานสภาฯ แบ่งเค้กเก้าอี้ ประธานกมธ.ลงตัวแล้ว 35 คณะ ดับฝัน 10 พรรคเล็กวืด ชี้ขัดรัฐธรรมนูญ’60 “พิเชษฐ สถิรชวาล” หน.ประชาธรรมไทย ขอแยกห้องทำงาน น้อยใจ 10 พรรคเล็ก ไม่ได้อะไรเลยขณะที่ “สนธิรัตน์” ปลอบใจให้เก้าอี้ กมธ. ด้าน วิปฝ่ายค้านพร้อมซักฟอก 18 กันยายน จี้นายกฯต้องอยู่ฟังด้านรบ.ไม่ตั้งองครักษ์เชื่อนายกฯเอาตัวรอดได้แน่ ชี้ต้องไปจบที่ศาลรธน.อยู่ดี “เทพไท” ชงตั้งกมธ.ศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อวันที่ 6กันยายน ที่อาคารรัฐสภา เกียกกาย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการการประชุม ภายหลังนัดทุกพรรคการเมืองประชุมจัดสรรโควตาคณะกรรมาธิการ(กมธ.) สามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร ที่มีจำนวน 35คณะ โดยมีตัวแทนจากพรรคการเมือง อาทิ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) , นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย (ภท.), นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) , นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ในฐานะรองประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) พรรคประชาธิปัตย์ และนายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ หัวหน้าพรรคพลเมืองไทย ในฐานะผู้ประสานงาน 10พรรคเล็ก
พรรคเล็กแห้ว ปธ.กมธ.ขัดรธน.
ขณะที่ประเด็นการร้องขอตำแหน่งประธานกมธ.ฯของกลุ่มพรรคการเมืองขนาดเล็กนั้น ข้อสังเกตของคณะทำงานระบุว่า ตามรัฐธรรมนูญไม่มีบทบัญญัติที่ระบุถึงการรวมกลุ่มของกลุ่มการเมือง ดังนั้นการคำนวณจำนวนประธาน กมธ.ที่พึงมีของแต่ละพรรค ต้องยึดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา128 วรรคแปด โดยไม่นำการรวมกลุ่มพรรคการเมืองมาคำนวณเพื่อหาจำนวนตำแหน่งประธาน กมธ.
นายสมบรูณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยหลังประชุมตัวแทนพรรคการเมืองพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพื่อจัดสรร กมธ.สามัญประจำสภา 35คณะ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ว่า บรรยากาศไปอย่างราบรื่น ต่างจากการจัดสรรสัดส่วน กมธ.สมัยก่อนที่ใช้เวลาร่วมเดือนและไม่เป็นไปตามข้อกังวลที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ ถึงการต่อรองตำแหน่งประธาน กมธ.ในคณะสำคัญ ส่วนกรณี 10พรรคเล็กร่วมรัฐบาลขอสัดส่วน กมธ.1คณะนั้น นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญ60 ตัดคำว่ากลุ่มการเมืองออก ดังนั้นการจัดสรรต้องเป็นไปตามจำนวน สส.และจะบรรจุวาระการประชุมเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการ 35คณะในวันที่ 11กันยายน จากนั้นวันที่ 12กันยายน จะประชุมเลือกประธานและคณะกรรมาธิการแต่ละคณะ
แบ่งเค้กลงตัวตั้งปธ.กมธ.35คณะ
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปัดส่วนประธาน กมธ.ทั้ง 35 คณะ ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 10 คณะ ได้แก่ กมธ.การพลังงาน , กมธ.การศึกษา , กมธ.ป.ป.ช. ,กมธ.การศึกษา จัดทำ และติดตามการบริหารงบประมาณ ,กมธ.การต่างประเทศ ,กมธ.กิจการองค์กรศาล รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน ,กมธ.กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ,กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค ,กมธ.การอุตสาหกรรม และ กมธ.ป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย พรรคพลังประชารัฐ 8 คณะ ได้แก่ กมธ.การตำรวจ , กมธ.การสื่อสารและโทรคมนาคม และดิจิตอลเศรษฐกิจ ,กมธ.การเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน ,กมธ.กิจการสภาผู้แทนราษฎร ,กมธ.การทหาร , กมธ. การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม , กมธ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และยาเสพติด ,กมธ.การวิทยาศาสตร์และเทคโนโยยี วิจัย และนวัตกรรม พรรคอนาคตใหม่ 6 คณะ ได้แก่ กมธ.การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ,กมธ. กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ,กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ,กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ ,กมธ.การแรงงาน ,กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ
พรรคประชาธิปัตย์ 4คณะ ได้แก่ กมธ.การพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญหา,กมธ.การเกษตรและสหกรณ์ ,กมธ.การสวัสดิการสังคม ,กมธ.แก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ พรรคภูมิใจไทย 4 คณะ ได้แก่ กมธ.คมนาคม ,กมธ.ท่องเที่ยว ,กมธ.กีฬา ,กมธ.การสาธารณสุข พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คณะ ได้แก่ กมธ.การส่งเสริมแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม พรรคเสรีรวมไทย 1 คณะ ได้แก่ กมธ.การปกครอง หรือ กมธ. ป.ป.ช.พรรคประชาชาติ 1 คณะ ได้แก่ กมธ.การกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการปกครองรูปแบบพิเศษ
‘พิเชษฐ’น้อยใจขอแยกห้องทำงาน
นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย เปิดเผยว่า พรรคประชาธรรมไทยขอประกาศแยกตัว เพราะตนรู้สึกเบื่อแล้ว เมื่อรวมเป็นสัดส่วนพรรคเล็ก 10 พรรค ไม่เกิดประโยชน์ ไม่เป็นอิสระ ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นกลุ่มอีกต่อไป จึงขอประสานกับเจ้าหน้าที่แยกห้องการทำงานออกเป็นพรรคเดียว เดิมทีตั้งใจจะร่วมกลุ่มกันเพื่อขอตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร ให้นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านอิสระ แต่ก็ไม่ได้ ซึ่งนายมงคลกิตติ์ก็รู้มาก่อนแล้วว่า จะมีการอ้างรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้ตำแหน่งประธานกมธ.แก่พรรคเล็ก ส่วนตนจากนี้ก็คงจะไปหารือกับทางฝ่ายค้านเกี่ยวกับ กมธ.อุตสาหกรรมที่ตนมีประสบการณ์ต่อไป
แห้วทุกอย่างอยู่คนเดียวดีกว่า
“ผมผิดหวังเหมือนกับการจัดตั้งรัฐบาล ที่ 10 พรรครวมกัน ควรได้รัฐมนตรีว่าการหรือรัฐมนตรีช่วยการ พอมาถึงการแต่งตั้งผู้ช่วยรัฐมนตรีตัวแทนจาก 10 พรรคเล็กก็ได้ไม่ครบอีก มาเที่ยวนี้ประธานกมธ.ก็เหมือนเดิม ผมผิดหวังก็ขอแยก” หัวหน้าพรรคประชาธรรรมไทย กล่าว
ปลอบใจให้เก้าอี้กรรมาธิการฯ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร.กล่าวถึงการแบ่งโควต้าตำแหน่งประธานกมธ.35คณะ ซึ่ง10พรรคเล็กไม่ได้ตำแหน่งประธาน ว่า อะไรที่ไม่เข้าใจกันก็สามารถพูดคุยกันได้ เพราะตอนนี้เข้าสู่การจัดสรรตำแหน่งประธานกรรมาธิการแล้ว โดยจะมีบทสรุปว่าแต่ละพรรคจะได้โควตาเท่าใด เพียงแต่พรรคเล็กอาจไม่ได้ตำแหน่งประธานฯเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องดูแลกันในตำแหน่งกรรมาธิการ เชื่อว่าจะไม่มีปัญหามาทวงตำแหน่งในภายหลัง เพราะเราได้พูดคุยหารือกันอย่างต่อเนื่อง
‘สุทิน’จี้นายกฯต้องอยู่ฟังซักฟอก
ด้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า เชื่อว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะไม่ปรับการบรรจุญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติกรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณตามที่พรรคฝ่ายค้านเสนอขอให้เลื่อนเป็นวันที่ 17กันยายน ซึ่งพรรคฝ่ายค้านพร้อมยอมรับ แต่ยังมีประเด็นที่กังวลกรณีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะไม่รับฟังคำถามและข้อเสนอแนะของส.ส.พรรคฝ่ายค้านในที่ประชุมสภาฯ ตลอดการประชุม เพราะนายกฯ ระบุว่ามีภารกิจ
ถ้าหนีขาดวุฒิภาวะ-ไม่รับผิดชอบ
‘ที่นายกฯ บอกว่าจะฟังไม่ต่อเนื่องเพราะต้องออกไปทำงานนั้น ถือเป็นการแสดงความไม่รับผิดชอบต่อสภาฯที่มีวาระพิจารณาตามมาตรา152 เพียงปีละ1ครั้ง สะท้อนให้เห็นการขาดวุฒิภาวะที่นายกฯ ต้องรับผิดชอบต่อสภาฯรวมถึงจงใจหนีการกระทำความผิด ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะไม่เสนอให้พักการประชุมเพื่อรอให้นายกฯเข้าฟังการอภิปราย เพราะสงสารประชาชนที่รับฟังการอภิปรายและไม่ต้องการให้ปัญหาของนายกฯ กลายเป็นปัญหาของสภาฯ” นายสุทิน กล่าว
ฝ่ายค้านเตรียม20ขุนพลไว้ถล่ม
นายสุทิน กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์หน้า สส.7พรรคร่วมฝ่ายค้าน เตรียมหารือเพื่อกำหนดบุคคลที่จะอภิปรายในญัตติดังกล่าว เบื้องต้น ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอตัวบุคคลแล้ว 10 คน ขณะที่พรรคเพื่อไทย เตรียมเสนอผู้อภิปราย 10คน ทั้งนี้ อาจขอหารือกับนายวิรัช รัตนเศรษฐ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธานวิปรัฐบาล เพื่อตกลงไม่ให้ สส.พรรคร่วมรัฐบาลประท้วงจนเกินงาม
ไม่ตั้งองครักษณ์-บิ๊กตู่เอาตัวรอด
ขณะที่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร(วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมืออภิปรายนายกฯปมถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน ว่า วิปรัฐบาลไม่ได้เตรียมพร้อมมากนัก เพราะกรณีนี้เป็นการอภิปรายโดยฝ่ายค้าน ซึ่ง ครม.จะเป็นผู้ตอบ แต่หากฝ่ายค้านอภิปรายประเด็นซ้ำซาก ไม่ตรงประเด็น รวมไปถึงมุ่งแต่โจมตีทางการเมือง สส.ฝ่ายรัฐบาลก็จำเป็นต้องประท้วง เพื่อให้การอภิปรายเป็นไปตามหลักและราบรื่นต่อไป ทั้งนี้ จะไม่มีองครักษ์พิทักษ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถตอบข้อซักถามได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นหัวหน้ารัฐบาล ขณะเดียวกันฝ่ายค้านก็ต้องระมัดระวังคำพูดด้วย เพราะกรณีนี้อยู่ในขั้นพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ สำหรับวันอภิปรายนั้น ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะมาประชุมกันอย่างครบถ้วนตามหน้าที่และส่วนตัวเห็นว่าประเด็นในการอภิปราย ไม่ใช่เรื่องน่าห่วงสำหรับรัฐบาล เพราะเป็นการอภิปรายโดยไม่ลงมติ และผู้อภิปรายต้องคำนึงด้วยว่า หากมีการพูดแล้วพาดพิงกันจนก่อให้เกิดความเสียหาย แล้วจะรับผิดชอบอย่างไร
ชี้ปมถวายสัตย์จบที่ศาลรธน.
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านระบุพรรค พปชร.ทำไอโอด้วยการโจมตีฝ่ายค้านว่ามุ่งแต่จะอภิปรายนายกฯ โดยไม่สนใจประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม นายชัยวุฒิ กล่าวว่า คิดว่าอยู่ที่มุมมอง เพราะบางคนอาจเข้าใจว่า ส.ส.มีหน้าที่ทำงานฝ่ายนิติบัญญัติ ขณะที่บางคนอาจมองว่าเวลานี้ควรไปช่วยเหลือประชาชน อย่างไรก็ตาม พรรค พปชร.เข้าใจดีว่าการอภิปรายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 นั้น เป็นหนึ่งในกลไกรัฐธรรมนูญ โดยรัฐบาลพร้อมให้มีการตรวจสอบ แต่ก็ไม่สามารถห้ามมุมมองของคนอื่นได้ นอกจากนี้ ประเด็นดังกล่าว แม้จะมีการอภิปรายในวันที่ 18 กันยายน แต่ทุกอย่างจะจบสิ้นกระบวนความที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งการอภิปรายเป็นเพียงการรับฟังข้อเสนอและข้อท้วงติง รวมถึงรับฟังการชี้แจง แต่เรื่องนี้จะจบได้ที่ศาลรัฐธรรมนูญ
ปชป.ชงตั้งกมธ.ศึกษาแก้ไขรธน.
นายเทพไท เสนพงศ์ สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยื่นหนังสือถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่าน นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาฯ เพื่อเสนอญัตติเรื่องขอให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 โดย นายเทพไท กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ประชุม สส.พรรคปชป.มีมติให้ดำเนินการในเรื่องนี้ ซึ่งพรรคมีจุดยืนชัดเจนตอนทำประชามติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 2560 ช่วงที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคปชป.ที่ได้ประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ2560เพราะมีข้อบกพร่องหลายประการที่ควรแก้ไขและเป็น1ใน3เงื่อนไขของพรรคในการเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลก็ยอมรับเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลนี้ ที่จะให้ศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในการยื่นญัตติขอให้สภาฯตั้งคณะกมธ.วิสามัญฯ มี สส.ของพรรคเข้าชื่อรับรองเสนอญัตติ รวม 25คน
ด้าน นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ญัตติของ นายเทพไท สภาจะตรวจสอบรายชื่อผู้รับรอง จากนั้น จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาว่าเป็นญัตติด่วนหรือธรรมดา หากถูกต้องจะบรรจุเข้าสภาต่อไป
กกต.ประกาศยุบ’ประชาชนปฏิรูป’
บ่ายวันเดียวกัน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องพรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ลงนามโดย นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้งระบุว่า ตามที่นายทะเบียนพรรคการเมืองโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้มีประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2561 เรื่อง รับจดทะเบียนจัดตั้ง พรรคประชาชนปฏิรูป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 นั้น นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ได้มีหนังสือแจ้งต่อนายทะเบียน พรรคการเมืองว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาชนปฏิรูป ครั้งที่ 10/2562 เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2562 ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้เลิกพรรคประชาชนปฏิรูปตามข้อบังคับ พรรคประชาชนปฏิรูป พ.ศ. 2561 ข้อ 122 กรณีดังกล่าวจึงเป็นเหตุให้พรรคประชาชนปฏิรูป สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ตามมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (7) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 คณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงประกาศให้พรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ตามมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (7) และวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 3 กันยายน พ.ศ.2562
เปิดกรุ2อดีตสนช.-8 สว.ต่างอู้ฟู่
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้แก่ 1.สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)กรณีพ้นจากตำแหน่ง 2ราย คือพล.อ.อ.ชูชาติ บุญชัย อดีตสมาชิก สนช.มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 14,885,820 บาท และพล.อ.อ.ทรงธรรม โชคคณาพิทักษ์ อดีตสมาชิก สนช.และคู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 76,492,482 บาท 2.สมาชิกวุฒิสภา(สว.)กรณีเข้ารับตำแหน่ง 8 รายได้แก่ นายเฉลียว เกาะแก้ว ส.ว. คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิ้น 285,589,822 บาท นายถาวร เทพวิมลเพชรกุล มีทรัพย์สิน 1,072,509 บาท หนี้สิน 49,902 บาท, นางทัศนา ยุวานนท์ ส.ว. และคู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 145,413,744 บาท นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ส.ว. และคู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 10,433,151 บาท หนี้สิน 300,000 บาท พล.อ.วสันต์ สุริยมงคล ส.ว.และคู่สมรส มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 124,194,728 บาท พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ และคู่สมรส มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 128,687,047 บาท นางเบญจรัตน์ จริยาธาราสิทธิ์ และคู่สมรส มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 34,620,506 บาท ส่วนใหญ่เป็นที่ดิน ในจ.นครราชสีมาและสระบุรี นายอมร นิลเปรม และคู่สมรส มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 143,292,637 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินลงทุนของคู่สมรส 59,990,000บาท ที่ดิน 45,671,914 บาท ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร และ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
เปิดทรัพย์สิน 8 สส.หน้าใหม่
และ3.สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง 6ราย คือ ร.อ.จองชัย วงศ์ทรายทอง ส.ส. ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 38,501,320 บาท น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส. หนองคาย พรรคเพื่อไทย คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 1,492,809 บาท, พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 15,728,291 บาท นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 24,339,772 บาท นายรณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส. ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ คู่สมรส(ไม่ได้จดทะเบียน) มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 12,443,864 บาท นายสินิตย์ เลิศไกร ส.ส. สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ คู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน124,408,405 บาท ทรัพย์สิน ส่วนใหญ่เป็นที่ดินเกือบทุกอำเภอใน จ.สุราษฎร์ธานี 90โฉนด
ลุ้นเซฟ 3อนค.กับอีก71สส.20ก.ย.
มีรายงานข่าวแจ้งว่าในวันที่ 20 ก.ย.ทางป.ป.ช.เตรียมเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตำแหน่งของ ส.ส.อีก74คน ซึ่งในจำนวนนั้นมีบุคคลที่สังคมเฝ้าจับตา อาทิ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยะบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี