“สภาชุดนี้มีคนรุ่นใหม่เกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์” นี่คือคำพูดของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนรุ่นใหม่ ที่ทำหน้าที่มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แต่เมื่อย้อนไปดูปูมหลังของผู้ชายคนนี้กลับพบว่า เขามีประสบการณ์ทางการเมืองมากกว่า 10 ปี โดยเริ่มมาจากการเป็นคณะทำงานช่วยงานของ สส.อภิชาต ศักดิเศรษฐ์ เมื่อปี2548 ด้วยวัยเพียง 19 ปี ผ่านการหล่อหลอมทางการเมืองทั้งจากบิดาที่เป็นถึงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช และมารดาที่เป็นประธานพัฒนาสตรีของจังหวัด ทำให้ก่อนการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.ในเที่ยวนี้ เขาสวมบทบาท “สจ.” ที่มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุข ของประชาชนในระดับท้องถิ่น แต่ในวันนี้ หนังสือพิมพ์แนวหน้า จะพาไปพูดกันถึงหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สส.เขตจ.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กับผู้ชายที่ชื่อว่า ชัยชนะ เดชเดโชเขาคนนี้มีความตั้งใจอย่างไรในการพัฒนาประเทศ

l ทำไม “ชัยชนะ เดชเดโช” ถึงอยากลงเล่นการเมือง

ผมมีความชอบทางการเมืองมานาน เนื่องจากทางบ้านเองมีพื้นฐานครอบครัวเป็นครอบครัวทางการเมืองอยู่แล้ว แต่ว่าการเป็นครอบครัวนักการเมืองใช่ว่าจะต้องทำงานการเมือง ใช่ว่าจะชอบการเมืองเสมอไปเพราะต้องยอมรับว่า คนที่เข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น หนึ่งคือ ต้องมีจิตใจที่เป็นสาธารณะ และสอง ต้องมีความรับผิดชอบ ถ้าเมื่อไหร่คุณไม่มีสองสิ่งนี้ แต่กลับต้องเป็นเพราะโดนบังคับ คุณพ่อคุณแม่บังคับเพราะเป็นลูกนักการเมือง เป็นเพราะความจำเป็น สุดท้ายประชาชนจะเสียโอกาส

สำหรับผมที่มาเป็น สส. เพราะมีความสนใจทางการเมืองตั้งแต่เด็ก และอยากร่วมขับเคลื่อนให้ประเทศนี้เคลื่อนตัวออกจากวิกฤติ เป็นประเทศที่ก้าวไปสู่ยุคใหม่ เป็นประเทศที่ประชาคมโลกยอมรับ จึงอยากจะเข้ามาเล่นการเมือง และอยากนำเสนอในสิ่งที่คิดไว้ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาทางการศึกษา การกระจายอำนาจ การพัฒนาคุณภาพชีวิต ของประชาชนให้ดีขึ้น สอนคนให้พึ่งพาตนเองได้มากกว่านี้

คุณพ่อของผม นายวิฑูรย์ เดชเดโช เคยเป็น นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนคุณแม่ของผม นางกนกพรเดชเดโช ก็เป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฯและประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดฯ เป็นเวลา 20 กว่าปี มีคุณลุง นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อย่างที่บอกไปแล้วว่า ผมสนใจการเมืองมาตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้น จึงมักติดสอยห้อยตามคุณพ่อไปไหนมาไหนด้วยกัน อยากเรียนรู้ อยากศึกษาว่า การเมืองเป็นอย่างไร และหลังจากที่คุณพ่อเสียชีวิต เมื่อปี 2552 ผมก็มีประสบการณ์ทางการเมืองอยู่บ้างแล้ว เนื่องจากเคยช่วยงานของท่านมาก่อนซึ่งครอบครัวผมเองก็ได้ให้คำแนะนำว่า เราเป็นนักการเมืองที่ดี เราจะต้องไม่โกหกประชาชน สิ่งไหนที่จะช่วยพวกเขาได้ก็ต้องบอกว่าได้ อะไรที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ก็ต้องบอกว่าไม่ได้ เพราะไม่มีใครในโลกนี้ที่สามารถทำได้ทุกเรื่อง ที่สำคัญ การเป็นนักการเมืองที่ดี จะต้องอยู่เหนือผลประโยชน์ และการช่วยเหลือประชาชน ก็ต้องมีเหตุและผล และสอนให้ผมเรียนรู้สิ่งที่คุณพ่อสร้างเอาไว้ สอนให้มีความนอบน้อม และเข้าใจประชาชน นี่คือสิ่งที่ครอบครัวหล่อหลอมผมมา

l สส.ในนามคนรุ่นใหม่กลุ่ม นิวเดม (NEW Dem)

ผมเองก็อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มานาน โดยช่วยงานคุณลุง ตั้งแต่อายุประมาณ 19 ปี เช่นเดียวกับคุณพ่อก็เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งก็ช่วยงานของพรรคมาโดยตลอด จึงได้แสดงความจำนงให้ผู้ใหญ่ในพรรคทราบว่า จะลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้ใหญ่ก็เห็นความมุ่งมั่นและตั้งใจทำงาน ผนวกกับช่วงนั้น พรรคได้มีการก่อร่างสร้างองค์กรใหม่ รองรับคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาทำงานทางการเมือง ซึ่งก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนิวเดม และเข้าไปช่วยขับเคลื่อนงานของกลุ่มด้วย ดังนั้นเมื่อกลุ่มนิวเดมเปิดตัวขึ้นมาแล้ว ก็มีคนรุ่นใหม่ตอบรับพอสมควร

โดยขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ อยู่ในยุคเปลี่ยนผ่านจากคนรุ่นเดิมไปสู่คนรุ่นใหม่ ซึ่งสิ่งที่คนรุ่นเก่า สร้างคุณงามความดีไว้เราก็ต้องคงไว้ สิ่งที่คนรุ่นใหม่เข้าไปทำก็ คือ ต้องเปลี่ยนแปลงให้ทันโลกและทันสมัย ดังนั้น ต้องยอมรับว่า การเมืองมันเปลี่ยนไปแล้ว เพราะสื่อโซเชียลมีเดีย การเลือก สส. ในวันนี้ เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่คนเลือกเพราะเขาคาดหวังว่า “คุณจะทำได้หรือไม่”

l กระแสตอบรับจากการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา

ในการเลือกตั้งที่ผ่านมานั้น ต้องยอมรับว่า กระแสของพรรคพลังประชารัฐในภาคใต้มาแรงมาก ดังนั้น กลยุทธ์ในการหาเสียงของผมก็คือ การขายความเป็นตัวตนของเรา คนก็ยอมรับในฐานะที่เป็นลูกชายของนายกฯ วิฑูรย์ เดชเดโช และก็มีคนที่รักคุณแม่เยอะมาก อีกทั้งชาวบ้านก็ยอมรับในความเป็นคนรุ่นใหม่ของผมเองที่กล้านำเสนอสิ่งใหม่ๆ

สำหรับความประทับใจของผมในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งนั้น ทุกวันๆ ผมต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่
เพื่อออกพบปะประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาด สายหน่อยก็เดินเคาะตามประตูบ้านทุกหลังในเขตเลือกตั้ง และเมื่อไปหาเสียงที่ไหนหรือไปหาใครก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่เขาก็ให้กำลังใจ มีอะไรเขาก็มามอบให้โดยสิ่งที่พวกเขาคาดหวังกับคนรุ่นใหม่อย่างผมนั้น อย่างแรกเลยก็คือ ขออย่าทิ้งประชาชน ขอให้เข้าไปดูแลราคาพืชผลทางการเกษตร และขอให้พัฒนาจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเมืองศูนย์กลางของภาคใต้ให้ได้ ซึ่งสิ่งที่ได้เสนอเพื่อตอบโจทย์ความ
คาดหวังดังกล่าวนั้น ผมคิดว่า ประชาชนเองก็มีความสุข และต่างมีความคาดหวัง โดยภายหลังจากที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง 24 มีนาคมที่ผ่านมา ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ทำงานทุกวันออกพบปะประชาชนตลอด และนำเสนอโครงการที่จะแก้ไขปัญหาในเขตเลือกตั้ง (อ.ร่อนพิบูลย์ อ.ลานสกา อ.ช้างกลาง อ.นาบอน) มาโดยตลอด

l ความตั้งใจในฐานะนักการเมืองรุ่นใหม่

ต้องยอมรับว่า ประเทศไทยทุกวันนี้เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ก็หวังที่จะให้รัฐอุ้มไว้ หวังที่จะให้รัฐเข้ามาดูแล แต่ต้องยอมรับว่า ทุกครั้งที่รัฐเข้าไปดูแลนั้น ผมเห็นว่า มันไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืน เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น เช่น ราคา
พืชผลทางการเกษตรตกต่ำ รัฐก็จะเข้าไปอุ้ม ซึ่งผมคิดว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาที่มั่นคง คือ การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน เช่น จะทำอย่างไรให้พี่น้องเกษตรกรสามารถแปรรูปผลผลิตได้ ขายของทางออนไลน์เป็น สามารถประสานไปยังผู้บริโภคได้ ไม่ต้องหวังพึ่งพ่อค้าคนกลาง ทำอย่างไรให้สามารถส่งออกต่างประเทศได้ ทำอย่างไรให้พี่น้องชาวสวนมีจีเอพี จีเอ็มพี เป็นของตัวเองที่ชัดเจน ที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมคาดหวัง

ต่อมา เรื่องการศึกษาไทย ต้องยอมรับว่า ทุกรัฐบาลระบุว่าการศึกษาไทยล้มเหลว และขาดทุนในการลงทุนทางการศึกษา แต่ในทางกลับกันสถาบันติวเตอร์ต่างๆ กลับมีกำไร และโตขึ้นทุกๆ วัน สถานที่เรียนพิเศษเพิ่มขึ้น ดังนั้นวันนี้รัฐต้องทบทวนแล้วว่า เราขาดทุนเพราะอะไร อะไรคือแก่นแท้ของการศึกษา ต้องยอมรับว่า โครงสร้างราชการไทยมีปัญหาเรื่องค่าตอบแทน ที่ไม่สมดุลกับความเป็นจริง ทำให้ครูผู้สอนไม่อยากจะสอนนักเรียนในห้องเรียนอย่างเต็มที่ อยากสอนพิเศษนักเรียนที่บ้านมากกว่า และถ้านักเรียนคนไหนไม่เรียนพิเศษ ก็เหมือนกับว่า นักเรียนคนนั้นจะได้เกรดที่ต่ำลงไปอีก ผมจึงมองว่า เป็นสิ่งที่อยากเข้าไปผลักดัน เนื่องจากการศึกษาที่ดีนั้นจะต้องลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ และในต่างประเทศหลายๆ ประเทศ ไม่มีการเรียนพิเศษ แต่มีวิธีการสอนที่ทำให้เด็กมีผลการเรียนที่ดีขึ้น ดังนั้น ประเทศจะพัฒนาได้ก็ต้องพัฒนาเรื่องการศึกษาก่อน เมื่อคนมีการศึกษาที่ดี ก็จะมีอาชีพที่ดี เมื่อมีอาชีพที่ดี ต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี ประเทศถึงพัฒนาได้

และประเด็นเรื่องการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ต้องยอมรับว่า ประเทศไทยพยายามแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นมาหลายยุคหลายสมัย แต่ผมมองว่า เราแก้ปัญหานี้ไม่ตก เพราะเราตั้งองค์กรอิสระขึ้นมาเยอะแยะมากมาย แต่มีอำนาจซ้ำซ้อนคล้ายคลึงกัน เช่น ผู้ตรวจการแผ่นดิน ผู้ตรวจเงินแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ซึ่ง 3 องค์กรนี้ ไม่มีความแตกต่างกัน เพราะฉะนั้น จึงมองว่า ปัญหาการคอร์รัปชั่น จุดเริ่มต้นอยู่ที่ค่าตอบแทน เพราะว่า ระบบราชการให้ค่าตอบแทนที่ให้กับคนทำงาน แต่ใช้งานคุ้ม กลายเป็นว่า ข้าราชการจะต้องหาเงินเพิ่ม ก็เลยเข้าสู่วงจรของการคอร์รัปชั่น การแก้ไขปัญหาดังกล่าว ก็ทราบอยู่แล้วว่า วันนี้ระบบเงินใต้โต๊ะมีอยู่เท่าไหร่ ก็อยากจะให้ตัดเปอร์เซ็นต์ตรงนั้น มาเพิ่มเป็นค่าตอบแทนให้กับข้าราชการ เพราะเท่าที่สังเกตและติดตามข่าว ส่วนใหญ่ คนเก่งๆ มีความรู้ความสามารถกลับตกอยู่ในองค์กรเอกชนเนื่องจากภาครัฐมีค่าตอบแทนที่ไม่สมเหตุสมผล

ดังนั้นจึงคิดว่า ปัญหาเริ่มต้นคือค่าตอบแทนที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำให้คอร์รัปชั่นเกิดขึ้น

l บทบาทของคนรุ่นใหม่กับการทำงานในสภา

สภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ มีคนรุ่นใหม่เข้ามาเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ คนรุ่นใหม่แต่ละคนก็มีความถนัดในแต่ละด้านแตกต่างกันไป ซึ่งก็มีการพูดคุยกันโดยตลอด อย่างผมเองมีความสนใจในเรื่องการกระจายอำนาจและท้องถิ่น เพราะเคยเป็นสมาชิกสภาจังหวัดมาก่อน ก็ได้อภิปรายในสภาว่า เรื่องการกระจายอำนาจนั้น จะต้องผลักดันให้ท้องถิ่นสามารถจัดการตนเองได้ เรื่องราคาพืชผลทางการเกษตรก็พยายามเสนอแนะรัฐบาลว่า ควรจะแก้ปัญหาอย่างไรให้ยั่งยืน โดยนักการเมืองรุ่นใหม่แต่ละคน ต่างก็นำปัญหาของพี่น้องประชาชน และนำจุดเด่นและความสนใจของแต่ละคน มาพูดกันในสภา ก็ถือเป็นสิ่งที่นักการเมืองรุ่นใหม่ ได้สร้างมิติใหม่ให้กับสภาผู้แทนราษฎร

l สภาชุดนี้ยังต้องปรับปรุงเรื่องอะไร

ผมไม่อยากให้ประชาชนมองว่า สภาเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ หรือเป็นสถานที่ที่มาเถียงกัน ซึ่งสิ่งที่นักการเมืองรุ่นใหม่พยายามพูดกันในสภา คือ การพูดในสิ่งที่เป็นรูปธรรม และจับต้องได้ ไม่ใช่มาสร้างวาทกรรมสวยๆ หรูๆ แล้วมาเถียงกัน ทำให้เสียเวลา ซึ่งตรงนี้ประชาชนเขารู้สึกเบื่อ โดยประชาชนต้องการให้ผู้แทนราษฎร นำปัญหาที่ประชาชนเดือดร้อนในแต่ละพื้นที่มานำเสนอเพื่อหาแนวทางในสภาแห่งนี้ อีกทั้งเราใช้อำนาจทางนิติบัญญัติเพื่อออกและกลั่นกรองกฎหมาย ก็ต้องออกกฎหมายที่มีความสำคัญ และเป็นไปได้ให้กับประเทศไทย

ผมว่าวันนี้สภาฯ มีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น เพราะทุกคนพูดในเรื่องเหตุและผลกันมากขึ้น อีกทั้งก็มีคนชมท่านชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรกันเยอะ เพราะท่านเป็นนักการเมืองที่มีประสบการณ์สูง และด้วยบารมีทางการเมืองของท่าน ทุกคนให้ความเคารพนับถือ ที่สำคัญสภาชุดนี้มีคนใหม่เข้ามาอยู่เยอะ นักการเมืองรุ่นใหม่ก็อยากเสนอในสิ่งที่เขาคาดหวังที่จะทำให้กับประเทศชาติ ซึ่งท่านชวน ก็เปิดโอกาสให้มีการปรึกษาหารือถึงปัญหาของประชาชนได้อย่างเต็มที่

l สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากเข้ามาทำงานทางการเมือง

ถ้าเด็กวัยรุ่น หรือคนรุ่นใหม่คนไหนสนใจเข้ามาทำงานทางการเมือง ก็สามารถแสดงความจำนงที่พรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคการเมืองไหนก็ได้ แสดงความจำนงที่จะมาเรียนรู้แนวทางการทำงานทางการเมือง เพราะว่า ทุกวันนี้ สต๊าฟ
หรือทีมงานที่ติดตามการทำงานของ สส. ส่วนใหญ่ก็ใช้บรรดาวัยรุ่น เพราะวัยรุ่นมีไอเดียที่ดี ทีมงานของผมก็ใช้วัยรุ่น หากคนไหนสนใจก็ขอให้มาลงชื่อเอาไว้

คนรุ่นใหม่ในยุคนี้มีความกล้าแสดงออกสูง กล้าแสดงตัวว่า เขาก็เป็นส่วนหนึ่งของประเทศชาติและอยากจะพัฒนาประเทศ รวมทั้งเวทีที่แสดงออกของคนรุ่นใหม่ก็มีเยอะขึ้นดังนั้นจะเห็นได้ว่า ทุกวันนี้ การเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เกิดผลสัมฤทธิ์ส่วนใหญ่ก็มาจากคนรุ่นใหม่แทบทั้งสิ้น