"ไพบูลย์"สมัครสมาชิกพปชร.เรียบร้อย เตรียมเข้าพรรคพรุ่งนี้ ยื่น"ชวน"แก้ทะเบียนส.ส.เพิ่มอีกหนึ่งเสียงในสภา ยันใช้กม.ปิดปากเฉพาะคนที่พาดพิงรุนแรงเท่านั้น
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 ที่รัฐสภา เกียกกาย นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป แถลงข่าวถึงการสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ไปยื่นเอกสารเพื่อแสดงเจตนาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ต่อ นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรคฯ พร้อมกับชำระค่าสมัครสมาชิกพรรคแบบตลอดชีพ 2,000 บาท โดยได้รับใบเสร็จรับเงินจากทางพรรค และมีชื่อในทะเบียนของพรรคแล้ว ทำให้มีผลเป็นสมาชิกพรรคโดยสมบูรณ์แล้ว
พร้อมกันนี้ ยังได้ยื่นหนังสือต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อแจ้งถึงการเปลี่ยนแปลงพรรคที่สังกัดด้วย โดยได้ยื่นเอกสารประกอบต่อประธานสภาฯ จำนวน 4 รายการ ได้แก่ 1.สำเนาประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องพรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองที่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ณ วันที่ 6 กันยายน 2562 2.สำเนาหนังสือรับรองการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ 3.สำเนาใบเสร็จรับเงินค่าสมัครสมาชิกพรรคพลังประชา และ 4.สำเนาใบสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า การยื่นหนังสือต่อประธานสภาฯมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สภาฯ ดำเนินการแก้ไขข้อมูลในทะเบียน ส.ส.เปลี่ยนเป็นสังกัดพรรคพลังประชารัฐ และเปลี่ยนแปลงเพิ่มจำนวน ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ จากเดิม 116 มาเป็น 117 คน เพื่อประโยชน์ในการคำนวณสัดส่วน ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐในสภาฯ ต่อไป
"พรุ่งนี้ (10 ก.ย.) จะเดินทางเข้ามาประชุมพรรคพลังประชารัฐครั้งแรกเวลา 15.00 น.และในวันที่ 18 ก.ย.จะร่วมอภิปรายในนาม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ด้วย เนื่องจากได้ดำเนินการตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว" นายไพบูลย์ กล่าว
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีทั้ง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ เตรียมยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบ จะมีผลให้สภาฯ ชะลอการเปลี่ยนทะเบียนจำนวน ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะมีผล เพราะการดำเนินการของพรรคประชาชนปฏิรูปได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง โดยสมบูรณ์แล้ว ส่วนการดำเนินการของนายเรืองไกร และนายศรีสุวรรณ เป็นคนละขั้นตอนไม่เกี่ยวข้องกัน จึงคิดว่าจะไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีการฟ้องร้องกับบุคคลที่แสดงความไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคประชาชนปฏิรูป จะเข้าข่ายการเป็นใช้กฎหมายปิดปากหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ถ้าส่วนตัวจะใช้กฎหมายปิดปากจริง คงจะต้องฟ้องร้องดำเนินคดีกับทุกคนที่แสดงความคิดเห็น แต่ที่ผ่านมาเห็นว่ามีหลายคนที่แสดงความคิดเห็นนอกกรอบของกฎหมาย จึงจำเป็นต้องใช้สิทธิตามกฎหมายเพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน ส่วนบุคคลอื่นที่แสดงความคิดเห็นในกรอบของกฎหมาย หรือการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ตนเองก็ไม่ได้ดำเนินการฟ้องร้อง เพราะเห็นว่าการแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิเสรีภาพตามกฎหมาย
เมื่อถามว่า การที่เข้ามาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้ขัดกับเจตนารมณ์ของประชาชนที่ลงคะแนนให้กับพรรคประชาชนปฏิรูปหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าคนที่เลือกและลงคะแนนให้กับพรรคประชาชนปฏิรูปส่วนใหญ่ จะเห็นด้วยกับการดำเนินการของตน เพราะเป็นการทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ขณะที่คนที่ไม่เห็นด้วยกับตนน่าจะเป็นคนที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับพรรคประชาชนปฏิรูป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี