เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2562 นายกรณ์ จาติกวณิช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวเมื่อค่ำวันที่ 13 ก.ย. 2562 เป็นห่วงกรณีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ทั่วทั้งกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่าจะกระทบต่อชุมชนที่อาศัยอยู่ดั้งเดิม เนื่องจากผู้พัฒนาโครงการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพียงตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ไม่ได้คิดเผื่อให้ตรงหรือใกล้เคียงกับสภาพการใช้งานจริง ดังนี้
“เราอยากเห็นเมืองหลวงเราเป็นอย่างไร!?..ตอนนี้กระแสการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. กำลังเริ่มมาแรง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเพราะถึงเวลาที่คนกรุงเทพต้องทบทวนว่าเราอยากเห็นเมืองหลวงเราเป็นอย่างไร วันก่อนผมได้มีโอกาสแสดงความเห็นในกระบวนการประเมินผลต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) ของโครงการคอนโดแถวบ้านแห่งหนึ่ง โครงการนี้อยู่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าหรือเส้นทางรถเมล์ และบริเวณโครงการปัจจุบันเป็นถิ่นบ้านเดี่ยวซอยหน้าโครงการจึงแคบมาก”
“ปัญหามีมาก แต่ที่อยากจะเล่าคือโครงการนี้เฟสแรกจะมีห้อง 250 ห้อง แต่มีการสร้างที่จอดรถเพียง 90 คัน วันนั้นผมจึงมีคำถามซื่อๆว่า แล้วรถยนต์อีก 160 คัน คุณจะให้เขาจอดตรงไหน (มีสมมุติฐานว่าทุกห้องจะมีรถยนต์เฉลี่ยห้องละ 1 คัน) ซึ่งทางโครงการก็อึกอัก และคำตอบที่ได้รับจำนวนที่จอดรถของโครงการตรงกับบทบัญญัติในกฎหมายของ กทม. ผมก็ชี้แจงกับเจ้าของโครงการว่า ถนนและซอยแถวนั้นแคบมากอยู่แล้ว คุณก็รู้ว่าสุดท้ายลูกค้าคุณก็ต้องไปหาที่จอดริมถนน ซึ่งคุณไม่ใช่ผู้เดือดร้อน แต่ชาวบ้านแถวนี้จะอยู่กันอย่างไร การทำธุรกิจที่ดีคุณต้องรับผิดชอบต่อสังคม”
“ยังไม่รวมถึงกรณีการดูแลสวัสดิภาพของชุมชนที่อยู่แต่เดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการขยะ การดูแลระบบสาธารณูปโภคที่จะมีผู้ใช้มากขึ้นตามมา และหลายๆ คนในชุมชนยังมีความกังวลต่อประเด็น ตึกสูง กับซอยแคบ เมื่อเกิดอุบัติภัยขึ้นมาการรับมือจะเป็นไปอย่างไร เรื่องนี้ก็อดคิดไม่ได้ ก็เห็นใจตัวเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่มารับฟังความเห็นในวันนั้นครับ เพราะนโยบายบริษัทก็คือเมื่อซื้อที่มาแล้ว ก็ต้องสร้างรายได้ให้มากที่สุดจากที่แปลงนั้นๆ”
“พอผมหันไปถามบริษัทที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม เขาก็บอกว่าปกติเกณฑ์การพิจารณาก็คือโครงการทำตามกฎหมายหรือไม่ ถ้าทำก็ผ่าน ผมก็ถามกลับว่าหากเกณฑ์มีแค่นั้น เราต้องมาทำ EIA อีกทำไม ในความคิดผมกฎหมายก็เรื่องหนึ่ง แต่ EIA ควรหมายถึงการประเมินประเด็นเพิ่มเติมทางด้านสิ่งแวดล้อมที่กฎหมายอาจไม่ครอบคลุม หากกทม. เรายังเดินอย่างนี้ต่อไป คุณภาพชีวิตคนกรุงเทพก็จะแย่ลงแย่ลง บริษัทที่สร้างคอนโดเขาไม่ได้มาอยู่กับผลของโครงการของเขา เจ้าของแต่ละบริษัทร่ำรวยอยู่สบายอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องของพวกเราที่ต้องตั้งคำถามว่า..เราต้องการกรุงเทพแบบไหน”
“ผมจึงอยากฝากให้ว่าที่ผู้สมัครทั้งหลาย กรุณาสื่อสารกับพวกเราให้ชัดครับ ว่ากับปัญหาอย่างที่ผมหยิบยกขึ้นมานี้ ท่านจะมีนโยบายอย่างไร ส่วนตัวผมมองว่าเราควรสร้างความสมดุลได้แล้ว ระหว่างโอกาสของนายทุนกับคุณภาพชีวิตประชากร”
ขอบคุณเรื่องจาก : https://www.facebook.com/KornChatikavanijDP/posts/10157650467149740
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี