บิ๊กตู่กำชับคณะรัฐมนตรี
รับมือฝ่ายค้าน
ซักฟอกใหญ่18กันยายน
สั่งเตรียมข้อมูลพร้อมชี้แจง
ซูเปอร์โพลสับนักการเมือง
แก้รัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง
“บิ๊กตู่” กำชับคณะรัฐมนตรีมีความพร้อมเตรียมรับมือการอภิปรายของฝ่ายค้านในวันที่ 18 กันยายน ยืนยันไปชี้แจงด้วยตนเองแน่ ด้านซูเปอร์โพลสำรวจความเห็นของชาวบ้านระบุนักการเมืองจ้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ส่วนกมธ.35 คณะ ประเดิมงานแรก ถลุงงบค้างท่อ แจกกมธ.หัวละแสน หลังพบงบเหลือจ่าย87.5ล้าน แบ่งเค๊กคณะละ2.5ล้าน บี้ใช้ให้หมดสิ้น ก.ย.นี้ เพื่อไม่ต้องส่งคืนคลัง
เมื่อวันที่ 15กันยายน นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร หรือวิปรัฐบาล กล่าวถึงการรับมือฝ่ายค้านในการเปิดอภิปรายนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา152 ในวันที่ 18 กันยายน ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้กำชับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้ ครม.ทุกคนไปร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียงในวันที่ 18 กันยายนนี้ เพราะถือเป็นการอภิปราย ครม.ทั้งคณะ ใน 2 ประเด็น 1.การถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ 2.การแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยไม่แจ้งที่มาในการใช้จ่ายงบประมาณ ด้วยเหตุนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จึงได้แจ้งไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงบประมาณ ฯลฯ ให้จัดเตรียมข้อมูลเพื่อรองรับการตอบการอภิปรายของฝ่ายค้านไว้ด้วย
นายเทวัญ กล่าวว่า ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางไปร่วมประชุมในวันดังกล่าว แต่ยังไม่ทราบว่าจะตอบคำถามด้วยตัวเองหรือมอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตอบแทน ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือเรื่องดังกล่าวในการประชุม ครม.วันที่ 17 กันยายนนี้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการตอบคำถามจากฝ่ายค้านนั้น จะไม่มีปัญหาใดๆ เพราะเป็นสิ่งที่รัฐบาลสามารถชี้แจงได้อยู่แล้ว จึงไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะเป็นการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ และประเด็นในการอภิปรายนั้น ก็อยู่ในกรอบจำกัด ไม่หลากหลายมากนัก เมื่อรัฐบาลชี้แจงได้ ทุกอย่างก็น่าจะจบ
พปชร.วอนฝ่ายค้านเพลาๆปาก
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การเมืองเริ่มมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งการนำปัญหาเข้าสู่การพิจารณาแก้ไขในสภาฯ เป็นเรื่องที่ดีและถูกต้องแล้ว แต่อยากให้เพลาๆ การเล่นเกมส์การเมืองตอบโต้ไปมาหรือการโจมตีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมลงบ้าง เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไรกับพี่น้องประชาชน พรรคร่วมฝ่ายค้านน่าจะเอาเวลาหลังจากทำงานในสภาฯ ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนจะดีกว่า อย่างน้อยชาวบ้านยังสามารถปรึกษาปัญหาต่างๆ กับส.ส.ได้ ซึ่งในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ก็ได้กำชับให้ส.ส.ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่
นายธนกร กล่าวอีกว่า อยากให้ฝ่ายค้านเข้าใจการทำงานของรัฐบาลด้วยว่า ช่วงนี้ประเทศกำลังประสบปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากสงครามการค้าโลก หรือปัญหาน้ำท่วม จึงไม่ใช่เวลาที่จะมาทะเลาะกันอยากให้ทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจกันช่วยชาวบ้านดีกว่า ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าพล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่ทำงานช่วยเหลือประชาชนทุกพื้นที่อย่างเดียว พยายามที่จะหลีกเลี่ยงการตอบโต้ทางการเมือง แต่พรรคร่วมฝ่านค้านก็ไม่หยุดพยายามสร้างเรื่องโจมตีพล.อ.ประยุทธ์รายวัน
ย้ำบิ๊กตู่ช่วยคนไทยทุกคน
สำหรับกรณีที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า น้ำท่วมอีสานแต่พล.อ.ประยุทธ์กลับลงใต้นั้น นายธนกรกล่าวว่า อยากถามว่าใช้สมองส่วนไหนคิด พล.อ.ประยุทธ์เพิ่งลงไปช่วยมา และได้สั่งการให้ผู้ว่าฯทำงานเต็มที่ และการลงไปพื้นที่น้ำท่วมบ่อยก็ใช่ว่าจะดี เพราะนายกฯ อยากให้ข้าราชการในพื้นที่ทำงานกันอย่างเต็มที่ ไม่เหมือนอดีตนายกฯ ของนายอนุสรณ์ ที่เคยปราศรัยที่จ.นครสวรรค์เมื่อปี2548 ว่า จังหวัดไหนมอบความไว้วางใจให้ผู้สมัครไทยรักไทยจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ส่วนจังหวัดไหนไว้วางใจน้อยเอาไว้ทีหลัง ต้องเป็นไปตามคิว นี่คือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ทำงานเพื่อคนไทยทุกคนไม่ว่าจะเลือกใคร เพราะประเทศไทยเป็นของทุกคน
กมธ.35คณะจ่ายงบค้างท่อ87.5ล.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า หลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้แต่งตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร ทั้ง 35 คณะ โดยมีการแบ่งโควต้า ประธานกรรมาธิการ พรรครัฐบาล 18 คณะและพรรคฝ่ายค้าน 17 คณะ ไปเรียบร้อยแล้วกรรมาธิการแต่ละคณะ ได้มีการ ประชุมกัน โดยเรื่องแรกที่จะดำเนินการคือการใช้จ่ายงบประมาณค้างท่อ ในปีงบประมาณพ.ศ. 2562 ที่คณะกรรมาธิการทุกชุดต้องใช้ให้หมดภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ โดยสัดส่วนงบประมาณที่เหลืออยู่ของคณะกรรมาธิการ รวม 87.5 ล้านบาท แบ่งเป็นคณะ 2.5 ล้านบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า กรรมาธิการแต่ละคณะเตรียมแจกจ่ายเงินให้ ส.ส.ที่เป็นกรรมาธิการคนละ 1 แสนบาท ให้นำงบไปใช้ ให้เสร็จก่อนสิ้นเดือนก.ย.นี้ เพื่อใช้งบประมาณที่เหลือให้หมด จะได้ไม่ต้องส่งเงินคืนคลัง เพราะเกรงว่าหากมีงบประมาณเหลือในปีนี้ ปีหน้าจะถูกตัดงบประมาณจึงต้องใช้ให้หมด เป็นสิ่งที่หน่วยงานราชการทุกหน่วยดำเนินการกันมาตลอด ทำให้ช่วงใกล้สิ้นปีงบประมาณจะมีการจัดสัมมนากันบ่อยครั้งเพื่อใช้งบประมาณให้หมด โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์และความคุ้มค่าที่จะได้รับจากการใช้งบประมาณ
สับนักการเมืองแก้รธน.เพื่อตัวเอง
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล หรือ SUPER POLL เปิดเผยผลสำรวจความเห็นของประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,014 คน ระหว่าง 10 – 14 กันยายนนี้ เรื่องมาตรา 144 แห่งรัฐธรรมนูญไทย 2560 ที่ว่าด้วยเรื่อง การห้าม ส.ส. ส.ว. และคณะรัฐมนตรี แปรญัตติงบประมาณดัดแปลง หรือ แก้ไขเพิ่มเติมรายการหรือจำนวนในรายการ ว่าคนไทยได้อ่านรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าวและทราบถึงสาระสำคัญในมาตรานี้หรือไม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.2 ไม่เคยอ่าน มาตรา 144 แห่งรัฐธรรมนูญปี 60 ในขณะที่ร้อยละ 11.8 เคยอ่าน เรื่อง การห้าม ส.ส. ส.ว. และคณะรัฐมนตรี ดัดแปลงงบประมาณหรือแก้ไขเพิ่มงบประมาณ เพิ่มรายการเป็นต้น
ทั้งนี้ยังพบว่าเกินครึ่งหรือร้อยละ 53.0 ระบุเหตุผลที่นักการเมืองต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญคือ เปิดช่องโกง เปิดช่องจัดสรรงบประมาณลงพื้นที่หาเสียงของตนเอง ในขณะที่ร้อยละ 47.0 ต้องการให้เป็นประชาธิปไตยมากกว่า นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.4 ไม่เคยอ่านรัฐธรรมนูญฉบับใดเลย ในขณะที่เพียงร้อยละ7.4 เคยอ่านรัฐธรรมนูญปี 40 แบบอ่านบางส่วนถึงอ่านละเอียด ในขณะที่ร้อยละ 6.7 เคยอ่านรัฐธรรมนูญปี 50 และร้อยละ 12.7 เคยอ่านรัฐธรรมนูญปี 60
ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงเพราะประชาชนส่วนใหญ่กำลังสนใจเฉพาะเรื่องใกล้ตัวกระจัดกระจายกันไป เพื่อหาทางให้ตัวเองอยู่รอดได้ทำให้ไม่ได้มองถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติและบ้านเมืองที่ฝ่ายการเมืองมักจะมีวาระซ่อนเร้นในความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะมาตรา 144 ที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เคยอ่าน ทั้งที่เป็นมาตราที่ป้องกันไม่ให้นักการเมืองหาทางโกงหรือ โยกงบประมาณไปลงพื้นที่หาเสียง อย่างที่ในอดีตถูกนักการเมืองแปรญัตติดัดแปลงรายการโยกงบประมาณเอาใจฐานเสียงของตนเอง ซึ่งเป็นต้นตอของความเหลื่อมล้ำ ความแตกแยกของประเทศ
พท.ส่งผู้สมัครสส.นครปฐม
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมส่งผู้ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมในเขตเลือกตั้งที่5 จ.นครปฐม และเขต2 จ.กำแพงเพชร ว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคจะหารือกันเพื่อกำหนดตัวบุคคลในที่ 15กันยายน เบื้องต้นมีผู้เสนอตัวสมัครเข้ามาเขตละ 2-3 คนแล้ว อย่างไรก็ตามทางพรรคเพื่อไทยยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้กับพรรคอนาคตใหม่พี่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมในเขตเลือกตั้งที่ 5 จ.นครปฐม
‘ธรรมนัส’นัดสื่อ16กย.คาดฟ้องดะ
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูผา ลิกค์ ผช.เลขานุการรมว.เกษตรฯ ได้ทำหนังสือแจ้งต่อสื่อมวลชนว่าร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ แจ้งสื่อแถลงข่าวพร้อมทีมกฏหมาย คือ พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ พล.ต.ต.วรยุทธ อินทรสุวรรณในวันที่ 16ก.ย.เวลา14.30น.ที่ห้องประชุมชั้น25 อาคารทีพีแอนด์ที ถ.วิภาวดีรังสิต ซอยวิภาวดีรังสิต19 ก่อนหน้านี้ ร.อ. ธรรมนัส ระบุว่า จะฟ้องร้องกลับบุคคลที่ทำให้เกิดความเสียหายจากกรณีเรื่องคุณสมบัติและวุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอก
ร้องปปช.สอบศาลรธน.เลือกปฎิบัติ
ด้าน นายเรื่องไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ เปิดเผยว่าการที่สำนักงานศาลรัฐธรมนูญเผยแพร่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่รับคำร้องของตนที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนุญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา49 ว่าด้วยเรื่องการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา161และการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีไม่เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 162 โดยให้เหตุผลว่า การกระทำของพล.อ.ประยุทธ์ ตามมาดรา161และมาตรา 162ยุติไปแล้วจึงไม่รับคำร้อง แต่หากไปเปรียบเทียบกับกรณีที่ใกล้เคียงกันคือการร้องเรียนการกระทำของพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร นายปียบุตร และกรรมการบริหารพรรค ตามรัฐธรรมนูญมาตรา49 เช่นเดียวกัน
ซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้นั้น ดังนั้นการที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่รับเรื่องของตนนั้น แต่รับเรื่องการกระทำของพรรคอนาคตใหม่ จึงมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นการเลือกปฏิบัติแบบสองมาตรฐานหรือไม่ จึงต้องร้องขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ตรวจสอบตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) ว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าหรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ และเข้าข่ายเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่ ‘ผมจะขอให้ปปช.ตรวจสอบกรณีที่ระบุว่า การถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ไม่อยู่ในอำนาจการตรวจสอบขององค์กรตามรัฐธรรมนูญใดนั้น ซึ่งไม่ได้มีการอ้างอิงบทกฎหมายใดมารองรับ จะเป็นการกระทำที่ชอบ หรือไม่ด้วย โดยจะไปยื่นหนังสือด้วยตนเอง ที่สำนักงานป.ป.ช. สนามบินน้ำ ในวันที่ 16กันยายนนี้ เวลา 10.10น.’ นายเรืองไกรกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี