‘สมชัย’แฉสื่อนอกเช็คเจอวิทยานิพนธ์นักการเมืองไทย‘ลอก’ แนะฟ้องทีมผู้ช่วยจัดทำ
17 กันยายน 2562 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โพสต์ข้อความต่อเนื่องผ่านทางเฟซบุ๊กเกี่ยวกับระบบการจัดทำและตรวจสอบวิทยานิพนธ์ของสถาบันการศึกษา มีเนื้อหาดังนี้
Plagiarism อ่านว่า พลา-เจีย-ริ-ซึ่ม
หมายถึง การลอกเลียนทางวิชาการ ศัพท์คำนี้ สมัยผมเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยยังไม่เป็นรู้จักกันนัก แต่พอมาในยุคสิบปีหลังนี้ มีการพูดถึงกันมากในแวดวงวิชาการ และถือเป็นการขัดจริยธรรมทางวิชาการอย่างร้ายแรง
เคยมีอาจารย์ถูกให้ออก เคยมีบัณฑิต มหาบัณฑิต ที่จบและรับปริญญาไปแล้ว ต่อมาพบว่างานวิทยานิพนธ์ของเขา ไปคัดลอกมาจากงานคนอื่น สภามหาวิทยาลัยถึงขนาดลงมติถอนปริญญาคืน หลังจากจบไปหลายปีจนมีตำแหน่งทางราชการใหญ่โต เป็นที่อับอายทั่วไป
คนที่ทำวิทยานิพนธ์เอง มักจะระมัดระวังในเรื่องนี้ แต่คนที่ไม่ทำเอง เช่นไปจ้างคนทำวิทยานิพนธ์ จะหลักหมื่นหรือหลักแสน ย่อมไม่ล่วงรู้ว่า มือปืนรับจ้างดังกล่าว ค้นเองเขียนเอง หรือไปแอบตัดปะมาจากที่ใด
สมัยก่อนจับกันยาก รายที่ผมกล่าวถึง เป็นเรื่องเนื่องจากอาจารย์ที่ปรึกษาที่บังเอิญไปเป็นกรรมการสอบให้กับอีกมหาวิทยาลัยหนึ่ง แล้วเกิดจำได้ว่าชื่อเรื่องคล้ายกัน เนื้อหาคล้ายกัน เลยมีการตรวจสอบพบว่า ไปลอกเขามาจริง เลยซวยไปถูกถอนปริญญา
แต่สมัยนี้ ด้วยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ มีโปรแกรมที่ใช้ในการตรวจสอบการคัดลอกวิทยานิพนธ์และผลงานทางวิชาการ เช่นโปรแกรม Turnitin ที่มาจาก Turn-it-in (จับมันใส่เข้ามาเลย) ที่เพียงแค่นำบทความหรืองานที่สงสัยว่า จะมีการคัดลอกหรือโจรกรรมทางวิชาการมาใส่ในโปรแกรมดังกล่าว ก็จะมีการวิเคราะห์ว่าไปซ้ำกับงานวิจัย หรือ วิทยานิพนธ์ของใครที่มีอยู่ในโลกนี้ ซ้ำตรงไหน กี่คำ กี่ประโยค คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ โปรแกรมดังกล่าววิเคราะห์ได้หมด
ถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า ผมใช้โปรแกรมนี้เป็นไหม แล้วกระมัง ใจเย็นๆ ติดตามไปเรื่อยๆครับ
นายสมชัย โพสต์ต่อเนื่อง ว่า โปรแกรมTurnitin (Turn-it-in) เริ่มทำงานเริ่มทำงานแล้ว ก่อนห้าปีที่แล้ว ยังไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการตรวจสอบการคัดลอกผลงานทางวิชาการ (Plagiarism) ความยากลำบากจึงต้องอยู่ที่อาจารย์ที่ปรึกษาในการประเมินเองว่า งานเขียนของนักศึกษานั้นมาจากการค้นคว้าเองหรือไปลอกใครมา
ปี ค.ศ. 1997 เป็นปีที่มีโปรแกรม Turnitin เริ่มออกมาใช้ ถึงปัจจุบันมีสถาบันการศึกษาที่ใช้โปรแกรมดังกล่าวกว่า 15,000 แห่งทั่วโลก มีคนใช้ที่เป็น อาจารย์ นักวิจัย และนักศึกษากว่า 30 ล้านคน สำหรับในประเทศไทยสถาบันการศึกษาต่างๆ เช่น ธรรมศาสตร์ จุฬา มหิดล เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลานครินทร์ ฯลฯ มีโปรแกรมดังกล่าวให้นักศึกษาใช้ฟรี
สนนราคาของโปรแกรมไม่ใช่ถูก ดูจากผลการประกวดราคาจ้างเหมาบริการประจำปีผ่านบริษัทในประเทศไทย ตกอยู่ประมาณ 6-7 แสนบาทต่อปีต่อหนึ่งสถาบัน เท่ากับโลกวิชาการต้องเสียเงินไปมิใช่น้อยกับการป้องกันการทุจริตทางวิชาการ แต่ก็ต้องยอมรับว่าของเขาดีจริง
เพียงแค่จับงานเขียนใส่มันเข้าไป (turn it on) นำวิทยานิพนธ์ที่เป็น full text ทั้งเล่ม submit เข้าไป ภายในเวลาไม่กี่นาที มันจะทำหน้าที่ตรวจเช็คข้อความกับฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์จากทั่วโลก มีซ้ำกับใครตรงไหนบ้าง และ hilight ด้วยสีต่างๆออกมาให้เห็น ของใครไม่ลอกผลออกมาจะขาวสะอาดอาจมีแต้มๆเป็นบางจุดที่มีคำซ้ำเล็กๆน้อยๆ แต่ถ้าใครลอกกันมา ไฮไลท์สีจะแวววับเต็มแทบทุกหน้ากระดาษ
ผมอ่านข่าวเมื่อคืน เห็นว่า BBC ไทยได้ทดลองเอางานวิทยานิพนธ์ของนักการเมืองไทยท่านหนึ่งไปเข้าโปรแกรมนี้ พบว่าในภาคการทบทวนวรรณกรรม มีการคัดลอกมาแบบย่อหน้าต่อย่อหน้าถึง 14 จุด
รอบ่ายๆ ว่างๆ ผมจะนำเสนอบ้างว่า ผลการทดสอบโปรแกรมนี้ ดีอย่างที่เขาว่าหรือไม่ครับ โปรดอดใจรอ
ถ้าจริงอย่าง BBC ว่า ผมแนะนำว่า ให้ท่านนักการเมืองแจ้งความเอาผิดต่อทีมอาจารย์ที่ปรึกษาหรือทีมผู้ช่วยจัดทำวิทยานิพนธ์ได้เลยครับ ธุรกิจรับจ้างทำแต่เที่ยวไปลอกใครต่อใครมา นี่ทั้งเอาเปรียบผู้ว่าจ้างและทำให้ผู้ว่าจ้างเสียหายอีก ไม่ควรเอาไว้ครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี