ผู้นำฝ่ายค้าน ' เปิดฉากอภิปรายตาม ม.152 ชี้การถวายสัตย์ฯมีปัญหาความไม่ครบถ้วนตามรธน. อัด 'บิ๊กตู่'ไม่มีความเป็นวุฒิภาวะ ไม่รับฟังความเห็นข้อท้วงติงจากหลายฝ่าย
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 18 กันยายน 2562 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดประชุมเพื่อพิจารณาญัตติเพื่อการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ และกรณีที่ในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาไม่ได้ระบุถึงที่มาของงบประมาณ
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเปิดอภิปรายตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ โดยย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำถวายสัตย์ปฏิญาณตน โดยต้องเป็นไปตามมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญ แต่กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณตนของพลเอกประยุทธ์ไม่ครบถ้วนถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ จึงมีปัญหาเรื่องความครบถ้วนถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลายฝ่ายก็เสนอทางออก แต่นายกรัฐมนตรีก็ยังเพิกเฉย จึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่ต้องเปิดอภิปราย
นายสมพงษ์ ยังย้ำถึงหลักการของการถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้าสถาบันอันเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ เพื่อเป็นการยืนยันถึงการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ถวานสัตย์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณตนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 บัญญัติไว้ จะกล่าวยาวกว่าหรือน้อยกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ไม่ได้ และอิงจากข้อความในหนังสือที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เคยเขียนในหนังสือ ว่าการถวายสัตย์ปฏิญาณตน จะต้องเป็นวาจาด้วยถ้อยคำที่กฎหมายกำหนด
นายสมพงษ์ ย้ำว่า ถ้อยคำ "ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติการซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย" เป็นถ้อยคำที่ขาดไปแต่สำคัญอย่างยิ่งยวด แต่เมื่อนายกรัฐมนตรีไม่ได้กล่าวถ้อยคำนี้ จึงถือเป็นการกระทำขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง ซึ่งพลเอกประยุทธ์เองก็เคยผ่านการถวายสัตย์ปฏิญาณตนมาหลายรอบ แต่มีเจตนาใดที่ถวายสัตย์ปฏิญาณตนครั้งนี้ไม่ครบถ้วน เหตุใดจึงไม่ใช้เอกสารที่สำนักนายกรัฐมนตรีจัดเตรียมไว้ให้
นายสมพงษ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อนเข้ารับหน้าที่ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ฝ่ายค้านเห็นว่าไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ยกตัวอย่างนโยบายการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานและโครงสร้างคมนาคม ซึ่งเป็นโครงการที่ต้องใช้เงินมหาศาล แต่ไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดถึงงบประมาณในการดำเนินนโยบาย
นายสมพงษ์ ยังกล่าวสรุปย้อนไปถึงพฤติกรรมที่ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่การฉีกรัฐธรรมนูญด้วยการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทั้งการถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนและการไม่ชี้แจงรายละเอียดงบประมาณในการดำเนินนโยบาย ถือเป็นการกระทำผิดรัฐธรรมนูญโดยชัดแจ้ง ซึ่งบทเรียนเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีไม่แสดงถึงความมีวุฒิภาวะ ไม่รับฟังข้อท้วงติงจากทุกฝ่าย จนก่อให้เกิดความเสียหายเป็นลูกโซ่ทำให้ประเทศขาดความเชื่อมั่น เพราะจงใจกระทำผิดรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหลักกฎหมายสำคัญของประเทษ เมื่อความเชื่อมั่นไม่เกิด ความยอมรับนับถือจึงไม่มี และจะนำพาสังคมที่เผชิญกับวิกฤตให้อยู่รอดได้อย่างไร
ขณะที่น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ก็ได้ลุกขึ้นอภิปรายตอกย้ำในประเด็นดังกล่าว โดยชี้ให้เห็นถึงความจงใจกระทำขัดรัฐธรรมนูญกรณีการถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนของพล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งกรณีที่ในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาไม่ได้ระบุถึงที่มาของงบประมาณ โดยในตอนท้ายน.อ.อนุดิษฐ์ ได้เรียกร้องกลางสภาฯให้พล.อ.ประยุทธ์ลาออกด้วย
"ทำเพื่อพี่น้องประชาชนได้หรือไม่ครับ โดยการเปล่งเสียงชัดๆเลยว่า ผมขอลาออก"น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี