เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2562 ที่รัฐบาล เกียกกาย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวอภิปรายว่า ข้อมูลที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงเรื่องที่มาของงบประมาณในการดำเนินนโยบายของรัฐบาล หลายข้อมูลที่อ้างมาไม่เป็นความจริง เช่น การกู้เงินเนื่องจากใช้งบปนระมาณสมดุล ขณะที่นายกฯ กล่าวว่าเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมีจำนวนมากเป็นเรื่องที่ดี ทั้งที่ในความเป็นจริงทำให้ค่าเงินบาทแข็งตัว แต่ไม่ใช่ยาวิเศษ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วรายได้ของรัฐบาลในการดำเนินนโยบายไม่ใช่มาจากเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ แต่มาจากรายได้จากการลงทุน ตั้งแต่ปี 2557 - 2558 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ใช้เงินไป 2.5 ล้านล้านบาท แต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นายจิรายุ กล่าวว่า ขณะที่นโยบายเศรษฐกิจของประเทศไม่ชัดเจน เอาแต่แจกเงิน ทำให้ต่างประเทศไม่มาลงทุนในประเทศ แล้วก็จะมาอ้างว่าคนที่วิจารณ์ไม่รักชาติ ทุกคนรักชาติเหมือนกัน แต่ต้องดูที่วิธีการ เพราะงบประมาณที่ต้องใช้จ่ายในการดำเนินนโยบายมาจากภาษีประชาชน และยังกู้เงินมาแล้วตั้งแต่บริหารประเทศมาเป็นจำนวน 2.19 ล้านล้านบาท แต่นายกฯ ไม่ยอมแจงว่าแสดงงบประมาณไว้ที่ไหน ขณะที่หนี้ครัวเรือนสูงขึ้น กำลังซื้อในประเทศหดหาย ต่อให้แจกเงินเท่าไหร่คนก็ไม่กล้าใช้จ่ายเงินและไม่กล้าลงทุน รวยกระจุก จนกระจาย ตระกูลที่ค้าขายกับ พล.อ.ประยุทธ์ ในสมัย คสช.รวยขึ้น แต่ธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก ตายลงๆ นอกจากนี้ สาเหตุรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 ต้องกำหนดให้คณะรัฐมนตรีชี้แจง เพราะท่านทั้งหลายใช้เงินของประชาชน และประชาชนมีหน้าที่ถามผ่านผู้แทนราษฎรที่นั่งอยู่ในรัฐสภา
"ประเทศไทยหกสิบกว่าล้านคน ทุกวันนี้ท่านดูข่าวโทรทัศน์สิครับ โอ้โหผมเห็นพี่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ทำงานเก่งรัฐบาลอีก คนจนท่านแจกเงินไปแล้ว ประเด็นก็คือว่าแจกไว้ก็เก็บไว้ก่อน เพราะยังไม่รู้ว่าจะใช้เมื่อไหร่ เศรษฐกิจตกต่ำ รัฐบาลในวิธีการแจกเงินแก้ปัญหา แต่ประชาชนไม่กล้าใช้เงิน เพราะเศรษฐกิจในประเทศไม่ดี" นายจิรายุ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี