ยกพลช่วยนาท่วม
กลุ่มสส.กทม.พลังประชารัฐ
ฝ่าฝนแจกถุงยังชีพ
ตั้งโรงครัวที่อุบลฯ
เผย32จว.เดือดร้อน
หวั่นวาตภัยซ้ำเติม
ผนึกกำลัง สส.กทม. พลังประชารัฐ ร่วมช่วยซับน้ำตาอุทกภัยที่ จ.อุบลราชธานี พร้อมจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วดูแลประชาชน ในขณะที่ปภ.รายงานอิทธิพลพายุโซนร้อน
“โพดุล” และ“คาจิกิ” ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัยในพื้นที่ 32 จังหวัด ประชาชนเดือดร้อน 419,768 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 35 ศพ
เมื่อวันที่ 21 กันยายน นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลพายุโซนร้อน “โพดุล”และพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคมจนถึงวันที่ 21 กันยายน 2562 เวลา 06.00 น. ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ รวม 32 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่ แพร่ เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร แม่ฮ่องสอน ลำปาง และสุโขทัย, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 จังหวัด ได้แก่ นครพนม ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มหาสารคาม ขอนแก่น หนองบัวลำภู ยโสธร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ชัยภูมิ สุรินทร์ อุดรธานี เลย ศรีสะเกษ และสกลนคร, ภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี ตราด และสระแก้ว ภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ระนอง และชุมพร
รวมความเสียหายทั้งสิ้น 183 อำเภอ 974 ตำบล 7,172 หมู่บ้าน 5 เขตเทศบาล 11 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 419,768 ครัวเรือน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 4,943 หลัง ผู้เสียชีวิต 35 ราย (ยโสธร 9 ราย ร้อยเอ็ด 6 ราย อำนาจเจริญ 5 ราย ขอนแก่น 3 ราย อุบลราชธานี 3 ราย ศรีสะเกษ 3 ราย พิจิตร 2 ราย ราย พิษณุโลก 1 ราย มุกดาหาร 1 ราย สกลนคร 1 ราย น่าน 1 ราย) ผู้บาดเจ็บ 1 คน (ชัยภูมิ)
อีก4จังหวัดยังมีสถานการณ์
อธิบดี ปภ. กล่าวว่า ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ อพยพประชาชน 18,063 คน ในพื้นที่ 2 จังหวัด รวม 45 จุด ได้แก่ อุบลราชธานี 42 จุด รวม 17,901 คน ศรีสะเกษ อพยพประชาชน 3 จุด รวม 162 คน
ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเจ้าหน้าที่ วัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์ภัย โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกเครื่องส่งสูบน้ำระยะไกลเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง รวมถึงแจกจ่ายอาหารปรุงสุกน้ำดื่มและถุงยังชีพตามวงรอบ อีกทั้งดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประภัยในศูนย์พักพิงชั่วคราว อำนวยความสะดวกในการขนย้ายสิ่งของและการเดินทางในพื้นน้ำท่วมขัง อีกทั้งให้บริการด้านสาธารณสุขครอบคลุมการดูแลสุขภาพและสภาพจิตใจ
เร่งประเมิน-ทำบัญชีความเสียหาย
สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว ให้เร่งสำรวจประเมินความต้องการการช่วยเหลือของผู้ประสบภัย พร้อมจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการประกอบอาชีพ ชีวิตความเป็นอยู่ ที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตร ปศุสัตว์ สาธารณูปโภค เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยเฉพาะด้านที่อยู่อาศัย แยกเป็น เสียหายทั้งหลัง และเสียหายบางส่วน ตลอดจนซ่อมแซมและฟื้นฟูสิ่งสาธารณประโยชน์ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว ส่วนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วน
“ประภัตร”นำทีมลงพื้นที่อีสาน
วันเดียวกัน นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อม ด้วยทีมงาน ข้าราชการดับสูงของกระทรวงเกษตรฯ เพื่อพบปะ ให้กำลังใจ รับฟังปัญหา จากประชาชนในพื้นที่อุทกภัย น้ำท่วม ใน3 จังหวัด เริ่มจากศรีสะเกษ ยโสธร และร้อยเอ็ด ตั้งแต่เวลา 9.00น. จุดแรก ณ หอประชุมเทศบาลตำบลยางชุมน้อย อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษโดยมี นายทรงพล ใจกริ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีษะเกษและ นายสุพร ธีรโรจน์ชาลี นายอำเภอยางชุมน้อย ให้การต้อนรับพร้อมรายงานสรุปสถานการณ์ใน ขณะเดียวกันยังได้มอบมอบสิ่งของช่วยเหลือจำนวน 1,000 ชุดเพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น
จัดโครงการสร้างรายได้ระยะสั้น
นายประภัตร เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ เร่งรัดดำเนินการ รับฟังปัญหาจากประชาชนที่ประสบภัย พร้อมวางแผนแนวทางการช่วยเหลือหลังน้ำลดทันที ขณะนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้วางมาตรการ การสร้างรายได้หลังน้ำลด ในระยะสั้น 120 วัน ที่สามารถดำเนินการได้ทันที ด้วยการใช้ ตลาดนำหน้าทั้งหมด โดยขณะนี้มีโครงการปลูกถั่วเขียว ซึ่งแจกเมล็ดพันธุ์ให้ฟรี ใช้ระยะเวลาการปลูกเพียง 70 วัน ก็สามารถขายตามที่ประกันราคาไว้ที่ 30 บาท ต่อ กก. นอกจากนั้นยังมีการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดอีก 1 ล้านตัน จำนวน1 ล้านไร่ ประกันราคา 8 บาทต่อ กก. รวมทั้ง โครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อและโคขุนส่งออกไปยังตลาดจีน จำนวน1 ล้านตัว ประกันราคา กก.ละ100 บาท ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนเงินกู้รายละ 2 แสนบาท ในการเลี้ยงโครายละ 5 ตัวใช้เวลา ไม่เกิน120วัน
คาดนาข้าวเสียหายไม่ต่ำกว่า5ล้านไร่
ส่วนการมาตรการการเยียวยา ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ สำรวจความเสียหายทั้งหมด โดยนาข้าวจะได้รับค่าชดเชยไร่ละ1,113 บาท ข้าวโพดจะได้ไร่ละ1,148 บาท พืชผล1,168บาทต่อไร่ หากเป็นวัว ตาย จะจ่ายให้ ตัวละ 20,000บาท ไม่เกินรายละ 2 ตัว ต้องเป็นวันที่โตแล้วเท่านั้น การเยียวยาทั้งหมดจะต้อง เร่งดำเนินการภายใน 60 วัน หลังน้ำลดและจะโอนเงินให้กับเกษตรกร ที่ได้รับความเสียหายโดยตรง ตอนนี้กำลังให้มีการสำรวจ ทั้งหมดอยู่เบื้องต้นน่าจะประมาณ 3 แสนกว่าราย ที่ได้รับความเสียหาย จากการสำรวจความเสียหายที่รายงานเบื้องต้น ทั้งฝนทิ้งช่วงที่เสียหายไป 2.5 ล้านไร่ และมาฝนตกหนักน้ำท่วมน่าจะประมาณ 3 ล้านไร่ และ น่าจะเสียหายทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 5 ล้านไร่ ซึ่งต้องสำรวจให้ชัดเจนอีกครั้ง
เดินทางตรวจเยี่ยมอีกหลายจุด
จากนั้น รมช.เกษตรฯ ได้เดินทางไปตรวจพื้นที่จุดขุดเจาะเปิดถนนเพื่อเร่งระบายน้ำบริเวณทางหลวง 2068 บึงบอน-ยางชุมน้อย หมู่ที่ 1 ต.บึงบอน ก่อนจะเดินทางไปยัง บ้านหัวสะพาน ต.โนนสังข์ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อพบปะและให้กำลังใจผู้ประสบภัย พร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือ จำนวน 1,000 ชุด และตรวจฝายน้ำล้นห้วยทา บ้านพะแนง หมู่ที่ 1 ตำ.จาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ จากนั้นในช่วงบ่าย ได้เดินทางไปพบปะและให้กำลังใจ รับฟังปัญหา จากประชาชนในพื้นที่อุทกภัย น้ำท่วมที่บ้านทรายงามหมู่ที่ 5 ต.กุดกุง อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร พร้อมมอบถุยังชีพ ก่อนที่จะเดินทางไป จ.ร้อยเอ็ด
“ธรรมนัส-มนัญญา”ฝ่าน้ำท่วม
ขณะเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ยังคงลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบใน จ.อุบลราชธานีอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยได้เดินทางไปยัง รร.บ้านกุดระงม พื้นที่ ต.บ้านบุ่งไหม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และพบชาวบ้านปากกุดหวาน ย้านกุดขุม บ้านคูสว่าง บ้านขัวไม้แก่น เพื่อมอบข้าวสารอาหารแห้งและน้ำดื่ม ให้ชาวบ้าน กว่า 1,000 คน
จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส และน.ส.มนัญญา พร้อมคณะยังลงเรือที่ได้รับการสนับสนุนจาก ช.พัน 6 พล.ร.6 ไปมอบถุงยังชีพที่บ้านปากกุดหวาน ต.หนองกินเพล อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธาณี ที่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำมูลเอ่อล้นตะลิ่งมวลน้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ ต.หนองกินเพล ได้รับความเสียหาย 4 หมู่บ้าน 972 ครัวเรือน 3300 คน ถนนทางเข้าหมู่บ้านกุดสว่างถูกตัดขาดนานกว่า 15 วัน
ดารานักแสดงร่วมมอบถุงยังชีพ
ที่ศูนย์รับบริจาคให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดอุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีและผู้บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มจังหวัดอุบลราชธานี รับมอบสิ่งของบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดอุบลราชธานี จากดารานักแสดง ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี และคณะ นอกจากนี้ ได้มีประชาชน มูลนิธิ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน นำถุงยังชีพ สิ่งของบริจาค มอบให้กับจังหวัด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดอุบลราชธานี กันอย่างต่อเนื่อง
ยกทีมสส.พปชร.ลุยอุบล
วันเดียวกัน นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ส.ส.เขตมีนบุรี ได้นำทีมส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ทั้ง8คนได้แก่ น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ นายประสิทธิ์ มะหะหมัด และนายศิริพงษ์ รัสมี ลงเรือมอบเครื่องใช้อุปโภค บริโภคและอำหารสด มอบให้กับพี่น้องประชาชนตามบ้านเรือน ศูนย์อพยพ ที่อ.วาชินชำราบ จ.อุบลราชธานีได้แก่ หาดคูเดื่อ บ้านหนองกินเพล ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนเทศบาลตำบลคำน้ำแซบ เทศบาลวาชินชำราบ และ ศูนย์อพยพทุ่งศรีเมือง ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก
โดยนายชาญวิทย์ได้ให้สัมภาษณ์ว่าก่อนที่จะมาในวันนี้ ได้นำโรงครัวมาลงในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และทางกลุ่มส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ทั้ง12 เขต ช่วยกันไม่ว่าจะเป็นตั้งเต๊นหรือรถเคลื่อนที่เพื่อรับบริจาคสิ่งของจากประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมไปถึงการขนย้ายและการดำเนินการต่างๆ เพื่อให้ของบริจาคนั้นถึงมือผู้ประสบอุทกภัย ทั้งนี้ยังได้มีการหารือกันถึงแนวทางการเยียวยาทั้งทั้งด้านจิตใจและการฟื้นฟูบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างหลังน้ำลด ถือเป็นตัวแทนจากชาวกทม.ที่ร่วมกันแบ่งปันน้ำใจ และกำลังใจให้กับพี่น้องผู้ประสบภัยได้ฝ่าฟันอุปสรรคนี้ไปได้
นายกฯห่วง กทม.-สั่งเร่งระบายน้ำ
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีความห่วงใยพี่น้องชาว กทม. จึงได้สั่งการไปยัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ให้เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังบนผิวจราจร และบริเวณหน้าบ้านเรือนประชาชนให้รวดเร็ว หลังจากช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ของ กทม. โดยขณะนี้ กทม. ได้เร่งประสานงานกับทุกส่วนราชการเพื่อติดตามสถานการณ์ ปริมาณน้ำฝน เฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำรอระบาย ตรวจสอบการระบายน้ำ ประตูน้ำ ท่อระบายน้ำ เร่งอำนวยความสะดวกการจราจรเพื่อประชาสัมพันธ์ และแจ้งเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่อาจมีปัญหา ทั้งนี้ แม้นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมการประชุมสมัชชา สหประชาชาติ ครั้งที่ 74 ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในสัปดาห์หน้า แต่ก็ได้สั่งการให้รายงานสถานการณ์น้ำและการช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ให้ทราบทุกวันด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี