ชงสอบปล่อยกู้อนค.191ล.
‘ธนาธร’หนาว
กกต.หวั่นขัดต่อกฎหมาย
‘ศรีสุวรรณ’ตามยื่นข้อมูลเพิ่ม
หากผิดต้องลุ้นเว้นวรรคยาว5ปี
เซียนพระ-นักวิชาการจี้สอบ
ผู้แทนแจงบัญชี‘เหล็กไหล’
“จรุงวิทย์” เตรียมเสนอ กกต.พิจารณาในสัปดาห์หน้า ปม “ธนาธร” ปล่อยเงินให้พรรคอนาคตใหม่ กู้ 191 ล้านบาท หวั่นขัดต่อกฎหมายพรรคการเมือง ด้าน“ศรีสุวรรณ” พร้อมยื่นหลักฐานเพิ่มเติมหากผิดต้องเว้นวรรค 5 ปี ในขณะที่เซียนพระนักวิชาการ ข้องใจ เหล็กไหล-ของขลัง ที่สส.ยื่นแจงบัญชีทรัพย์สิน ทั้งอยากจะขอไปพิสูจน์ให้กระจ่าง
เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน 191ล้านบาท เพื่อดำเนินกิจการของพรรคอนาคตใหม่ว่า ในสัปดาห์หน้า สำนักงานกกต.จะส่งเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมกกต.เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับกรณีดังกล่าว นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ระบุว่ากฎหมายพรรคการเมืองไม่เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองกู้เงินได้ เมื่อตรวจสอบกฎหมายพรรคการเมืองพบว่าเรื่องเงิน รายได้และการใช้จ่ายเงินของพรรคการเมือง ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมืองปี 2550 กับพ.ร.ป.พรรคการเมือง ปี 2560 เขียนไว้ต่างกันปี 2550มาตรา 53(7)ได้กำหนดให้มีรายได้อื่น พรรคจึงอาจมีรายได้จากการกู้ยืมเงินได้ โดยในอดีตที่ผ่านมาก็มีถึง20พรรคการเมืองกู้ยืมเงินโดยอาศัย บทบัญญัติมาตราดังกล่าว ในการหารายได้ และมีการระบุไว้ในรายงานงบดุลประจำปีของพรรคที่รายงานต่อ กกต.แต่ในพ.ร.ป.พรรคการเมือง ปี 2560 ที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันมาตรา 62ไม่ได้มีบทบัญญัติเรื่องรายได้อื่นแล้ว และกำหนดประเภทของรายได้ ไว้ 7 ประการ การที่พรรคจะกู้ยืมเงินมาเป็นรายได้ไม่น่าจะทำได้
ซึ่งรายได้ 7 ประการของพรรคการเมือง ตามมาตรา62ประกอบด้วย1.เงินทุนประเดิมตามมาตรา 9วรรคสอง 2.เงินค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรคการเมืองตามที่กำหนดในข้อบังคับ 3 เงินที่ได้จากการจำหน่ายสินค้าหรือบริการของพรรค 4.เงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรค 5.เงินทรัพย์สินและประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการบริจาค 6.เงินอุดหนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 7ดอกผลและรายได้ที่เกิดจากเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดของพรรคการเมือง
‘ธนาธร’ฟันธงเอง ให้ อนค.กู้ไม่ผิด
ที่ จ.ชลบุรี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ให้สัมภาษณ์กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เตรียมพิจารณาเรื่องนายธนาธรกรณีปล่อยเงินกู้ให้กับพรรคอนาคตใหม่จำนวน 191ล้านบาทซึ่งถือว่าเกินกว่ากฎหมายกำหนดว่า ตนขอยืนยันว่า เงินกู้ ไม่ใช่รายได้ เรื่องนี้ จึงไม่น่าเป็นห่วงและได้มีการชี้แจงกับกกต.ไปแล้ว เมื่อ 1-2 เดือนที่แล้ว ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรน่าห่วง
“หากกกต.พิจารณาว่าเงินกู้เป็นรายได้จะทำให้บัญชีของบริษัทห้างร้านและองค์กรต่างๆผิดไปทั้งหมด ถือเป็นการผิดหลักบัญชีอย่างมากเพราะเงินกู้ ไม่ถือเป็นรายได้อยู่แล้วซึ่งผมเองได้ชี้แจงกับกกต.ไปหมดแล้วตั้งแต่ 2เดือนที่ผ่านมาแต่ตอนที่มีไปเดินเรื่องเงินกู้ใหม่ๆ เป็นการให้ข้อมูลตามที่ กต.เรียกให้เข้าไปชี้แจงเท่านั้นซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อม หากกกต.ต้องการเรียกข้อมูลหรือเอกสารเพิ่ม”นายธนาธร กล่าว
ศรีฯขยี้‘ธนาธร’ปล่อยกู้อนค.191ล.
ด้าน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่าตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)หลังจากเข้าดำรงตำแหน่งในวันที่ 20 ก.ย.62ที่ผ่านมานั้นสมาคมฯได้เข้าไปตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ สส.แต่ละคนพบว่าในส่วนของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจสส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ได้แจ้งว่าได้ให้กู้ยืมเงินแก่พรรคอนาคตใหม่2 สัญญาคือ สัญญาที่ 1 เมื่อวันที่ 2 ม.ค.2562 จำนวน 161,200,000 บาท และ สัญญาที่ 2 เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2562 จำนวน 30,000,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 191,200,000 บาท
ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไปบรรยายที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย หรือ เอฟซีซีที (FCCT) ในหัวข้อ อะไรคืออนาคตของพรรคอนาคตใหม่ (What is the future of Future Forward?) เมื่อวันพุธที่15พฤษภาคม 2562 ในการบรรยายตอนหนึ่งนายธนาธรได้กล่าวถึง การบริหารการเงินของพรรคอนาคตใหม่ว่า เพื่อให้พรรคสามารถเดินหน้าในช่วงการเลือกตั้งได้ ปัจจุบันตนจึงให้เงินทางพรรคยืมไปแล้วน่าจะประมาณ 105 หรือ 110 ล้านบาท รวมทั้ง ไม่ตรงกับคำพูดของคุณพรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ที่พูดในรายการ“ฟังหูไว้หู”เมื่อวันที่19 มี.ค.2562ทางช่อง 9 MCOT HDโดยระบุว่าพรรคอนาคตใหม่ทำสัญญากู้ยืมประมาณ 250ล้านบาท พร้อมคิดดอกเบี้ยนิติกรรมดังกล่าว ตาม พรป.พรรคการเมือง 2560 ม.62 ไม่ได้ถูกบัญญัติไว้ให้ทำได้ ซึ่งสมาคมฯได้นำความไปร้องเรียนต่อ กกต.ไว้แล้วเมื่อ 21 พ.ค.2562 ที่ผ่านมาและกกต.ได้เรียกสมาคมฯไปไต่สวนเพิ่มเติมแล้ว แต่เนื่องจากพยานหลักฐานที่เป็นข้อเท็จจริงจากการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.ของคุณธนาธร เป็นหลักฐานผูกมัดตามข้อเท็จจริงโดยปริยาย”นายศรีสุวรรณ ย้ำ
หากผิดฟันโทษเว้นวรรค 5 ปี
ดังนั้น สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงจะนำความพร้อมพยานหลักฐานไปยื่นเพิ่มเติมให้กับกกต.เพื่อดำเนินการไต่สวน สอบสวนและเอาผิดนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ตาม ม.66วรรคสองประกอบ ม.125ซึ่งอาจต้องระวางโทษปรับไม่เกิน1ล้านบาทและให้ศาลสั่งเพิกถอน สิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมือง มีกำหนด 5 ปีและให้เงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ส่วนที่เกินกว่า10ล้านที่กำหนดไว้ตามมาตรา66ให้ตกเป็นของกองทุนได้ ทั้งนี้ ทางสมาคมฯจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันจันทร์ที่ 23 ก.ย.62 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการฯ อาคาร B ถ.แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม.
นพ.วรงค์ติงให้เคารพคำตัดสินศาล .
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “เงินกู้ยืมอนาคตใหม่ คดีเงินกู้ยืมของพรรคอนาคตใหม่ ที่แสดงเป็นหลักฐานยื่นต่อ ป.ป.ช.โดยหัวหน้าพรรค ในอนาคตไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาเช่นไร ขอให้ทุกฝ่ายเคารพคำตัดสินของศาลครับ เพราะขณะนี้ มีบางฝ่ายพยายามสร้างกระแส ลดความน่าเชื่อถือของศาล”
ปปช.สั่งสอบของขลังกรณีพิเศษ
นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)กล่าวถึงกรณี ที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงการที่ส.ส.หลายรายแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.เมื่อวันที่ 22พ.ค.2562โดยแสดงทรัพย์สินอื่นจำพวกเครื่องรางของขลังหรือพระเครื่องชื่อดัง ระบุมูลค่าสูงมากตั้งแต่ระดับ50-1,000 ล้านบาทจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่ามูลค่าของทรัพย์สินตรงกับที่แจ้งไว้จริงหรือไม่ว่า ในกรณีที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินจำพวกเครื่องรางของขลัง และพระเครื่อง ป.ป.ช. จะต้องจับตาดูเป็นกรณีพิเศษ ตามหลักการในการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมถึงข้าราชการต่าง ๆนั้น มี 2 ส่วน คือ 1.ตรวจสอบถึงความถูกต้องของทรัพย์สิน 2.ตรวจสอบความมีอยู่จริงของทรัพย์สิน ยจะดูว่าทรัพย์สินนั้น ได้มาถูกต้องหรือไม่ มีอยู่จริงตามที่แจ้งหรือไม่และถูกต้องตามเอกสารแนบที่เป็นรูปถ่ายประกอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินหรือไม่
“ส่วนมูลค่าของทรัพย์สินนั้น โดยเฉพาะทรัพย์สินจำพวกเครื่องรางของขลัง หรือพระเครื่อง ไม่มีตลาดกลางที่ระบุราคาอย่างชัดเจน ยกตัวอย่าง ถ้าแจ้งว่าครอบครองทองคำ ยังตรวจสอบมูลค่าได้จากตลาดกลางการซื้อขายทองคำ แต่จำพวกของขลัง ไม่มีตลาดกลางตรงนี้ การตรวจสอบเบื้องต้น คือ ดูข้อมูลว่าเจ้าของตีมูลค่ามาจากอะไร ตีค่าจากมูลค่าทางจิตใจ หรือ อะไรก็แล้วแต่ก็ตาม ซึ่งกรณีนี้สำนักงาน ป.ป.ช. จะต้องจับตาดูเป็นกรณีพิเศษ”นายวรวิทย์ ย้ำ
จ่อออกกฎให้รัดกุม หวั่นใช้ฟอกเงิน
เมื่อถามว่า เครื่องรางของขลัง หรือพระเครื่องชื่อดัง ส่วนใหญ่จะมีใบรับรองจากเซียนพระที่ได้รับความน่าเชื่อถือ ป.ป.ช. จะเข้าไปตรวจสอบส่วนนี้หรือไม่ นายวรวิทย์ กล่าวว่า เรื่องพวกนี้ ต้องยอมรับว่า เป็นมิติใหม่ของการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อจากนี้ไป กลุ่มคนที่แจ้งมูลค่าสิ่งเหล่านี้ ป.ป.ช.จะจับตาดูเป็นกรณีพิเศษรวมถึงวางกฎเกณฑ์ป้องกันให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น
เมื่อถามว่า ต่อจากนี้ไปหากมี ส.ส.บางรายเห็นช่องทางนี้ เป็นแหล่งการฟอกเงินให้กับตัวเอง ป.ป.ช. จะมีมาตรการอย่างไร นายวรวิทย์ กล่าวว่า ส.ส.หรือข้าราชการ หรือบุคคล ผู้มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกับ ป.ป.ช. หากแจ้งข้อมูลทรัพย์สินอื่นเหล่านี้ จะถูกจับตาดู เป็นกรณีพิเศษ และ ในการตรวจสอบเบื้องต้น จะดำเนินการดูเรื่องความมีอยู่จริง และ ความถูกต้องของทรัพย์สินอยู่แล้ว โดยต้องขอตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นก่อนซึ่งยังไม่ต้องเข้าไปตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก
เซียนพระยันไม่เคยเห็นเหล็กไหล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ ป.ป.ช.เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ ส.ส.กรณีเข้ารับตำแหน่งจำนวน79 รายและกรณีพ้นจากตำแหน่งจำนวน 1ราย รายการทรัพย์สินและหนี้สินของ ส.ส.79 คน ที่น่าสนใจมีหลายคน แต่ที่ฮือฮามีคนพูดถึงมากก็คือ นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.พรรคพลังไทยรักไทย มีทรัพย์สิน1,112 ล้านบาท ในจำนวนนี้ มีโคตรเหล็กไหลมูลค่า 700ล้านบาท, มหาเหล็กไหล300ล้านบาท , อุกาบาต(อุกามณีดำ)10ล้านบาท,สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ต่างๆ อีกหลายองค์ มูลค่ากว่า100ล้านบาท
ในเรื่องนี้ นายอรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย หรือ ‘บอย ท่าพระจันทร์’เซียนพระชื่อดัง ให้ความเห็นผ่าน”สำนักข่าวไทย” ถึงเหล็กไหล หลายคนเคารพบูชาอวดอ้างสรรพคุณและต่างก็บอกว่าเหล็กไหลของตัวเองมีมูลค่ามากมายมหาศาลว่า ในวงการพระเครื่อง ที่ตัวเองอยู่มานานเกือบ 30ปี ได้ยินเรื่องเหล็กไหลมานานมากแล้ว โดยเฉพาะอิทธิฤทธิ์ หรือพุทธคุณต่างๆเช่นเรื่องอยู่ยงคงกระพัน ตีรันฟันแทงไม่เข้าซึ่งเป็นเรื่องเล่ากันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาม ซึ่งตนอยู่ในวงการพระเครื่องมาเกือบ 30 ปีหรือเพื่อนๆเซียนพระหรือศึกษาพระเครื่อง ก็ยังไม่เคยมีใครเห็นว่าเหล็กไหลของจริง หน้าตาเป็นอย่างไรและยังไม่มีใครออกมายืนยันตัวพิสูจน์ว่าของจริง
ชี้ไม่เคยมีการซื้อขายแม้แต่บาทเดียว
นายอรรถวัติยังระบุว่าทุกวันนี้มีเหล็กไหลเสนอขายมาให้เห็นทุกวันวันละ 2-3ราย แต่ก็ยังไม่เคยซื้อขายใดๆเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ใช่แค่เฉพาะตนเพื่อน พี่ น้อง ที่เป็นเซียนพระก็ยังไม่เคยมีใครเคยซื้อขายเหล็กไหลเลยแม้แต่ครั้งเดียวสาเหตุก็อย่างที่บอกในตอนแรกคือเมื่อไม่เคยมีใครเห็นของจริง ไม่เคยมีใครพิสูจน์ได้ พูดง่ายๆในวงการพระ เหล็กไหล ไม่มีค่ามากพอที่จะซื้อขาย
ส่วนเรื่องที่ ส.ส.คนดังกล่าวระบุว่ามีราคา700ล้านบาทนั้น เซียนพระดัง กล่าวว่าส่วนตัวมองว่าเป็นสิทธิที่ใครจะตั้งราคาเท่าไหร่ก็ได้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่จะเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองมีแต่สิ่งที่สำคัญคือเมื่อบอกราคามาแล้ว มีคนซื้อในราคาที่บอกมาจริงหรือเปล่า เพราะอย่าว่าแต่700ล้าน 50ล้าน หรือ1ล้านบาท ในวงการพระ ก็ไม่มีใครเคยซื้อขาย เหล็กไหล เลยแม้แต่บาทเดียว
นักวิชาการยันเหล็กไหลไม่มีจริง
ขณะที่ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ภาควิชาเคมีคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หรือ หลายคนรู้จักกันในนาม ‘อาจารย์อ๊อด’ อาจารย์และนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญสาขาเคมีอินทรีย์ กล่าวถึงเรื่องเหล็กไหลว่า ไม่มีจริง ในทางวิทยาศาสตร์เหล็กไหล ก็คือเหล็กธรรมดา เพียงแต่เมื่อได้ก้อนเหล็กมาก็นำไปบวกกับเรื่องความเชื่อ ความศักดิ์สิทธิ์ อภินิหารต่างๆ ที่บอกเล่ากันต่อๆมา สถานที่ที่เจอเช่นไปเดินถ้ำแล้วอยู่ๆหินเหมือนเหล็กตกลงมาจากฟ้าจากที่สูง แล้วนำไปวางไว้ที่บ้าน แล้วอยู่ก้อนเหล็กเกิดละลาย เปลี่ยนรูปร่างๆก็เชื่อกันว่า เล่าต่อกันต่อๆมาว่าคือ เหล็กไหล
พร้อมพิสูจน์ในแลปให้รู้ความจริง
ส่วนเหล็กไหลที่ว่าคือแร่พวกตะกั่ว โลหะเป็นหลัก กิโลละ10บาท หรือถ้าแปลกแหวกแนวหน่อยก็คือแร่แกลเลี่ยม ราคากิโลกรัมละประมาณหลักหมื่นบาท มีคุณสมบัติเปลี่ยนสถานะตัวเองได้ง่ายมาก เพียงแค่คุณกำ ธาตุแกลเลียม ที่ยังเป็นก้อนแข็งๆไว้ในมือ เพียงพักเดียวเท่านั้นคุณจะรู้สึกได้ว่าวัตถุแข็งๆนั้นกลับค่อยๆอ่อนตัวลงจนเหลว และไหลไปมาได้ เพราะธาตุแกลเลียม มีจุดหลอมเหลวต่ำมาก เพียง29.76องศาเซลเซียสเท่านั้น เมื่อเทียบกับอุณหภูมิปกติของร่างกายคนที่37องศาเซลเซียส คุณสมบัตินี้ของมันทำให้สามารถเชื่อได้ก้อนที่มีอยู่ในครอบครองว่าคือเหล็กไหล
อย่างไรก็ดี รศ.ดร.วีรชัย ยังย้ำว่า พร้อมและยินดีมากๆนำเหล็กไหลของส.ส.คนดังกล่าวมาพิสูจน์ให้ในห้องแลปจะได้รู้ว่าเป็นอะไร บางทีอาจจะมีมูลค่าเกิน700ล้านบาทก็ได้เพราะว่ามาจากดาวอังคาร
พท.หนุนยื่นฟันจริยธรรม’บิ๊กตู่’
วันเดียวกัน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.)และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์ว่าสัปดาห์หน้าคงมีความชัดเจนที่ฝ่ายค้าน จะล่ารายชื่อส.ส.ยื่นต่อประธานรัฐสภาฯ เพื่อให้เสนอต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)เพื่อยื่นต่อศาลฎีกาให้สอบจริยธรรม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กรณีการชี้แจงญัตติทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ
ประเด็นดังกล่าวด้านน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย คาดว่าคงจะหารือในวันจันทร์นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี