อัยการสั่งไม่ฟ้อง"3แกนนำเพื่อไทย"ยุยงปลุกปั่นแถลงข่าว4ปีคสช. ทนายขอบคุณอัยการให้ความเป็นธรรมมาก ส่วนคดี"พิชัย"โพสต์เฟซบุ๊ก รอ"อธิบดี"สั่ง นัดใหม่29ต.ค.นี้
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 24 กันยายน 2562 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการคดีอาญา 4 นัดฟังคำสั่งคดีที่พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) มีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ , นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักษาชาติ และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานที่ปรึกษากฎหมายพรรคเพื่อไทย ทั้งหมดเป็นแกนนำพรรคเพื่อไทย ผู้ต้องหาที่ 1 - 3 ข้อหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น
จากกรณีเมื่อวันที่ 17 พ.ค.2561 ผู้ต้องหาทั้งสาม ร่วมกันแถลงข่าวเรื่อง ครบรอบ 4 ปี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในหัวข้อ "4 ปีที่ล้มเหลวของรัฐบาล และ คสช.นำไปสู่ความมืดมนและอันตราย" ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย
กับคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6 นัดฟังคำสั่งคดีที่พนักงานสอบสวน กก.3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ได้นำสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นควรสั่งฟ้อง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ และ อดีต รมว.พลังงาน ยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้ต้องหา กระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
กรณีเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2561 นายพิชัย โพสต์ภาพลงเฟซบุ๊กในการร่วมวงเสวนาของคณะกรรมการวีรชนพฤษภา 35 ในประเด็นเศรษฐกิจ การปราบทุจริตคอรัปชั่นในยุค คสช.และพลังดูด 4.0 กับโพสต์ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.บนนิตยสาร TIME (ไทม์) กับลงข้อความห้ามจำหน่ายในประเทศไทย
โดยวันนี้ นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย และทีมทนายความ ในฐานะทนายความของผู้ต้องหาทั้งหมด เดินทางมาฟังคำสั่งอัยการ
กระทั่งเวลา 11.00 น.นายนรินท์พงศ์ ให้สัมภาษณ์ถึงผลคำสั่งคดี 3 แกนนำพรรคเพื่อไทย ว่า ที่ผ่านมาเราได้ประสานงานตำรวจตั้งแต่ต้น จนตำรวจมีคำสั่งฟ้อง เมื่อมาสำนวนมาถึงอัยการเราได้หารือ และร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการทุกๆ เรื่อง เชื่อมั่นว่า การแถลงข่าวเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองและอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญโดยชอบด้วยกฎหมายทุกประการ และปรากฏว่า อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี 3 ผู้ต้องหา ดังกล่าวแล้ว โดยพิเคราะห์รายละเอียดจากหนังสือขอความเป็นธรรมและข้อเท็จจริงแห่งคดีว่า เรื่องดังกล่าวไม่ผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ส่วนรายละเอียดต่างๆ ยังไม่ได้รับ ซึ่งการที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหานั้น ได้มีหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อขอความเห็นว่า จะมีความเห็นแย้งหรือมีควนมเห็นตามอัยการที่สั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งสาม ปรากฏว่า ทาง สตช.ได้มีหนังสือแจ้งกลับมาว่า เห็นด้วยกับที่อัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา ถือว่า คดีนี้ถึงที่สุดแล้ว ซึ่งเป็นการใช้สิทธิการแถลงข่าวตามกฎหมายชอบด้วยกฎหมายทุกประการ
ส่วนคดีของ นายพิชัย นั้น ตนได้หารืออัยการเจ้าของสำนวน ขณะนี้มีความเห็นแล้ว แต่อยู่ที่อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา จะมีคำสั่งอีกครั้งว่า จะสั่งฟ้องผู้ต้องหาหรือไม่อย่างไร โดยนัดผู้ต้องหาฟังคำสั่งวันที่ 29 ต.ค.นี้
นายนรินท์พงศ์ ยังกล่าวความเห็นเพิ่มเติมต่อคดี 3 แกนนำพรรคเพื่อไทย ว่า เดิมทั้งหมดไม่ได้มีแค่ 3 คน แต่รวมทั้งหมด 9 คน มีอีก 6 คน โดนข้อหาขัดคำสั่ง คสช.ชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป (ยุติแล้วเมื่อคำสั่ง คสช.ยกเลิก) เราชี้แจงกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.แล้ว ตำรวจต้องกล้าใช้กฎหมาย ข้อเท็จจริงพฤติการณ์แห่งคดีแตกต่างกับข้อกฎหมายทั้งหมด เราใช้สิทธิโดยสุจริต วันนี้อัยการท่านให้ความเป็นธรรม แต่สะบักสะบอมเพราะว่าถ้าเป็นคนปกติ ไม่มีทุนรอนมาต่อสู้ ต้องประกันตัว ไปต่อไม่จบ อัยการได้ให้ความเป็นธรรมมาก ว่าข้อเท็จจริงสิ่งต่างๆ ที่พรรคการเมืองได้ปฏิบัติ แถลงข่าวเป็นประจำ ไม่สามารถบิดเบือนไปถึงมาตรา 116 ได้เลย ถ้าอัยการส่งฟ้องต่อไป 3 คน ต้องประกันตัว ไปสู้คดี เป็นภาระของอัยการ และศาลต้องมาตัดสิน อย่างสัปดาห์ที่แล้วคดีคนอยากเลือกตั้งชนะคดี คำพิพากษาเขียนชัดเจน ทุกอย่างทำในกรอบรัฐธรรมนูญ
นายนรินท์พงศ์ กล่าวยืนยัน ตอนท้ายด้วยว่า การกระทำของพรรคการเมืองหรือประชาชนที่ต่อสู้ทางการเมืองทำอยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น แต่ผู้มีอำนาจใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทำให้คนเห็นต่างมีภาระ คนอยากเลือกตั้งมีอีกหลายคดี ตนเป็นทนายความอยู่ ก็เชื่อมั่นว่ากระบวนการที่ต่อสู้เป็นเรื่องหนึ่งในกรอบรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น อัยการชัดเจนแล้วได้ยกฟ้อง วิถีทางของกระบวนการยุติธรรมเข้าสู่หลักนิติรัฐนิติธรรมชัดเจนขึ้น ขอขอบคุณอัยการที่ทำเรื่องนี้ให้เบาลง ไม่เป็นภาระต่อไปข้างหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี