คนกุมบัญชีเบิกความเส้นทางธุรกิจ 26ก.ย.ถึงคิวไต่สวน‘โอ๊ค’คดีกรุงไทย
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 24 กันยายน 2562 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี ศาลไต่สวนพยานโจทก์นัดแรก คดีฟอกเงินกู้แบงก์กรุงไทย อท.245/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายพานทองแท้ หรือโอ๊ค ชินวัตร อายุ 39 ปี บุตรชายคนโตของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5 , 9 , 60 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ 91 โดยช่วงเช้าศาลได้ไต่สวน ผอ.ส่วนบริหารทรัพย์สินฯ ปปง.ไปแล้ว 1 ปาก (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ประเดิมไต่สวนคดีกู้กรุงไทย ป.ป.ง.เบิกความยัน‘โอ๊ค’ร่วมฟอกเงิน)
ต่อมาช่วงบ่าย ศาลได้ไต่สวน นายเฉลิม แผลงศร ผอ.อาวุโสฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด และกรรมการบริษัทในเครือ Voice TV ซึ่งมีนายพานทองแท้ เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทเครือ Voice TV ที่มาเบิกความเกี่ยวกับประเด็นธุรกิจรถยนต์ที่นายพานทองแท้ จำเลย จะร่วมกับนายรัชดา กฤษดาธานนท์ บุตรชายของนายวิชัย กฤษดาธานนท์ อายุ 80 ปี ผู้บริหารกฤษดามหานคร ว่า พยานทำหน้าที่วิเคราะห์เกี่ยวกับการลงทุน การเงินกองทุนต่างๆ ให้กับผู้บังคับบัญชา และยังได้ดูแลบัญชีบริษัทและของจำเลยมาตลอดด้วย
โดยบัญชีเงินของจำเลยนั้น ถูกอายัดโดยกรมบัญชีกลางไว้ตั้งแต่ปี 2553 ขณะที่พยานเคยช่วยศึกษาแผนธุรกิจการนำเข้ารถยนต์หรูต่างประเทศ ซึ่งให้คำแนะนำกับจำเลยว่าธุรกิจนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะต้องใช้เงินจำนวนมากหลักร้อยล้านบาท โดยที่จำเลยไม่ได้สอบถามหรือพูดคุยกับนายรัชดาเรื่องการลงทุนนำเข้ารถยนต์นี้ก่อน เนื่องจากขณะนั้นนายรัชดาเกี่ยวข้องกับธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสอง และการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นคนละประเภทกับธุรกิจที่นายพานทองแท้จะทำ
นายเฉลิม ระบุด้วยว่า ตนเคยรับทราบที่มีการโอนเงิน 10 ล้านบาทจากบัญชีของจำเลย ธนาคารกรุงเทพฯ สาขาบางพลัด เข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพฯ ของจำเลย สาขาซอยอารีย์เอง แต่ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องการโอนเงิน 10 ล้านบาทคืนให้กับนายรัชดา ซึ่งเรื่องนี้เลขานุการของนายพานทองแท้ จะเป็นคนประสานกับเลขานุการของนายรัชดา โดยตนไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับการออกเช็คและส่งเช็คคืน
นายเฉลิม ยังได้เบิกความเกี่ยวกับการทำงานก่อนหน้านี้ที่เคยเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการระดับ 4 ศูนย์ธุรกิจต่างประเทศ ธนาคารกรุงไทยฯ สาขาสมุทรปราการ ช่วงปี 2534-2539 นานเป็นเวลา 5 ปี ก่อนที่จะเข้ามาร่วมทำงานกับบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่นฯ และบริษัทฮาวคัมฯ กระทั่งมาทำงานที่บริษัท วอยซ์ทีวีฯ แต่ระบุการเข้ามาทำงานนั้นไม่ได้เกิดจากจำเลยชักชวน โดยการทำงานที่ผ่านมาและบริษัทต่างๆ เป็นการสมัครเข้ามาเอง
ทั้งนี้ เมื่อไต่สวนพยานช่วงบ่ายเสร็จสิ้นแล้วในเวลา 16.00 น ศาลได้แจ้งนัดไต่สวนพยานโจทก์ปากต่อไปในวันที่ 25 กันยายน 2562 เวลา 09.30 น ในส่วนของนายพานทองแท้จำเลยนั้น จะขึ้นเบิกความเป็นพยานจำเลยในวันที่ 26 กันยายน นี้ เวลา 09.00 น
โดยก่อนเดินทางกลับ นายพานทองแท้ ยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมบอกว่าพรุ่งนี้(25 กันยายน 2562) จะมาฟังการไต่สวนเช่นเดิม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี