ยื่น51รายชื่อสส.ให้‘ชวน’
‘พปชร.’รุกคืบ
ส่งศาลเชือด5หน.พรรค
ฐานแทรกแซงข้าราชการ
ปมเรียก‘บุรินทร์’ชี้แจง
กรณีแจ้งความแก้ไขม.1
‘โรม’โยนอ.เกษตรรับผิด
“พปชร.”ส่งรายชื่อ 51 สส.ยื่น“ชวน”ส่งศาล รธน.ฟัน 5 หัวหน้าพรรค-1 เลขาธิการ ฐานใช้อำนาจแทรกแซงข้าราชการ เพื่อประโยชน์ตนเอง หรือพรรคการเมือง กรณีจัดเสวนาแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 1ลั่นหยุดทำลายประเทศ-ทำลายรัฐบาล ด้าน “โรม”ยัน อนค.ไม่คิดแก้มาตรา 1 ชี้ฝ่ายมั่นคง ไม่ควรเหวี่ยงแห ฟ้อง 7 พรรค โยน อ.เกษตรฯคนพูด ต้องรับผิดชอบเอง ขณะ“บิ๊กป้อม”สั่งจับตาป่วนประชุมสุดยอดอาเซียน
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางมาตรวจเยี่ยม ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.)โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวมอบนโยบายให้กับผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ตอนหนึ่งว่าขอให้นำความรู้จากการฝึกและการดูงานกองทัพประเทศที่เจริญแล้ว มาพัฒนาปรับปรุงกิจการกองทัพบกให้มีความทันสมัย เพื่อสอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบันและให้เตรียมความพร้อมที่สามารถรองรับได้ทั้ง ภัยคุกคามแบบเดิม และภัยคุกคามรูปแบบใหม่ นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวช่วงหนึ่งว่า ตั้งแต่รับราชการทหารมา ไม่เคยต้องมาโดนด่า เหมือนตอนมาเป็นนายกฯแต่ก็ต้องอดทน เพราะภารกิจยังไม่จบสิ้น ตนไม่ได้ต้องการ จะมาอยู่ตรงนี้ แต่สถานการณ์มีความจำเป็นที่ต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับประเทศ
พปชร.ยื่น51รายชื่อสส.ส่งศาลเชือด
ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายสิระ เจนจาคะ สส.กทม.พรรคพปชร.เป็นตัวแทน สส.51คนของพรรคพปชร.ยื่นหนังสือถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่าน นายแทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานของประธานสภาฯ เพื่อให้ประธานสภาฯส่งคำร้องไปยัง ศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาสมาชิกภาพ สส.6 คน ประกอบด้วย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.),นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ,นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ,นายสงคราม เลิศกิจไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ(พช.) ,นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทยและนายปิยบุตร แสงกนกกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรค อนค.ว่า จะสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา101และ185(1) หรือไม่ จากกรณีได้จัดเสวนาแก้ไขรัฐธรรมนูญในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และมีการพูดถึงการแก้ไขมาตรา1 ซึ่งถือเป็นเรื่องไม่ควร รวมถึงกรณีใช้อำนาจหน้าที่การเป็น สส.เข้าไปแทรกแซงก้าวก่ายการทำงานของ กอ.รมน.หรือหน่วยงานราชการ เพื่อตัวเองและพรรค ว่า เป็นการใช้อำนาจมิชอบหรือไม่ จากกรณีจะมีการเรียก พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงานกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เข้าชี้แจงกับคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กรณีแจ้งความแกนนำพรรคฝ่ายค้าน
จี้ฝ่ายค้านหยุดทำลาย3เสาหลัก
โดย นายสิระ กล่าวเรียกร้องให้ฝ่ายค้านหยุดทำลายประเทศชาติ หยุดทำลายรัฐบาล พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า มีกระบวนการแบ่งกันทำงานหรือไม่ เพราะมีฝ่ายหนึ่งพยายามทำลายรัฐบาล อีกฝ่ายหนึ่งพยายามทำลายฝ่ายนิติบัญญัติและขณะนี้กำลังมีอีกฝ่ายพยายามทำลายตุลาการ ตนจึงขอเตือนคนที่คิดจะทำลายประเทศชาติว่า จะไม่มีแผ่นดินอยู่ในประเทศไทย เช่นเดียวกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและตนขอทำนายว่าคนเหล่านี้จะต้องหนีไปจากประเทศไทยและจะไม่ได้ตายในประเทศไทยแน่นอน
‘โรม’ซัด กอ.รมน.เหวี่ยงแหเอาผิด
ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนค.กล่าวถึงกรณี พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงานกอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า ฟ้อง 7พรรคฝ่ายค้าน ว่า โดยปกติการพูดหัวข้อเสวนาไม่ได้ถามอยู่แล้วว่าแต่ละคนจะพูดอะไร มีความคิดเห็นอย่างไร เป็นเรื่องที่แต่ละคนจะต้องรับผิดชอบ ปัญหาในเรื่องนี้ที่เกิดขึ้นเข้าใจว่า นางชลิตา บัณฑุวงศ์ รองหัวหน้าภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นผู้พูด แต่กลับมีคดีในลักษณะกวาดหมด ซึ่งมีปัญหาว่าทำไมถึงดำเนินคดีแบบนี้เพราะโดยทั่วไปการเตรียมเสวนาไม่ได้คุยกันอยู่แล้วว่า แต่ละคนจะพูดอะไร ถ้า นางชลิตาพูดไปแล้วมีความผิด ก็ไม่ควรดำเนินคดีหว่านแหแบบนี้
ไม่แก้ม.1-โบ้ย อ.เกษตรฯรับผิดเอง
เมื่อถามว่า 7พรรคฝ่ายค้านเคยแถลงว่า จะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา1และมาตรา 2 แต่ปัจจุบันถูกฟ้องร้องในเรื่องนี้ พรรคอนค.ยังยืนยันหรือไม่ ว่า จะไม่แก้มาตรา1และมาตรา 2 นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ยืนยันว่าตั้งแต่อยู่พรรคอนาคตใหม่มากว่า1ปี ไม่เคยคุยกันเรื่องจะแก้มาตรา1-2 แม้แต่ประโยคเดียว ข่าวที่ออกมาก็มีแต่การตีกระแสจนทำให้เกิดปัญหามากขึ้น เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าคนที่รับผิดชอบในเวทีที่ถูกฟ้อง ไม่ใช่พรรคฝ่ายค้าน แต่ควรเป็น นางชลิตา คนเดียวใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องความรับผิดชอบก็ต้องถามว่า ความรับผิดชอบนั้นคืออะไร ด้านหนึ่งคือเมื่อ นางชลิตา พูด ซึ่งเป็นเจ้าของคำพูดท่านก็ต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะทางการเมืองหรือข่าวสารอะไรก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่อยากเรียนต่อสังคมคือ เมื่อท่านได้พูดแล้ว เราก็ไม่ควรไปดำเนินคดีอะไรกับท่านและสังคมก็อย่าถึงขนาดไปล่าแม่มด ให้ท่านได้พูดแล้วเราก็ฟัง เราไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับ นางชลิตา
บิ๊กป้อมปัดสั่งพรรคเล็กโหวตผ่านงบ
ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายพิเชษฐ สถิรชวาล สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย เดินทางมาพบ นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร เรื่องขอความร่วมมือโหวตร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ว่า ไม่ต้องคุย หากดีเขาก็โหวตเอง แต่ถ้าไม่ดีก็ไม่ต้องโหวต ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้มอบหมายให้นายสัมพันธ์ ไปพูดคุยกับพรรคเล็ก ยอมรับว่าหากร่าง พรบ.งบประมาณฯ ไม่ผ่าน ก็เป็นไปตามที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯระบุไว้ คือการยุบสภา แต่ทั้งในส่วนของรัฐมนตรีที่เป็นส.ส.ทุกคนจะต้องยกมือโหวต เพราะมีสิทธิโหวต เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่า ร่างพรบ.งบประมาณฯจะผ่านสภาฯ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มาเดิมพันกันไหมว่าจะผ่านหรือไม่
จับตาป่วนประชุมสุดยอดอาเซียน
ต่อมา พล.อ.ประวิตร เปิดเผยหลังประชุมคณะอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจร เพื่อเตรียมการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ไทยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน ให้ระวังกลุ่มเสี่ยงว่าการจับตากลุ่มเสี่ยงดำเนินการมาตลอดอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นกลุ่มไหนนั้น ไม่ขอเปิดเผย สำหรับงานด้านการข่าวก็ดำเนินการมาตลอด ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มที่จับตาเป็นคนภายในหรือภายนอกประเทศ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า แค่คนภายในประเทศก็จะแย่อยู่แล้ว คนนอกประเทศจะมาทำทำไม ไม่มี
แค่ขอความร่วมมือจดชื่อใช้ไวไฟ
เมื่อถามถึงกรณีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม (ดีอี)ขอความร่วมมือร้านค้าที่เปิดให้ผู้ใช้บริการต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ต WiFiภายในร้านให้เก็บข้อมูลการจราจรทางอินเทอร์เน็ตของผู้ลงทะเบียน ใช้ WiFi ของร้านเป็นเวลา 90วัน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า แล้วดีหรือไม่ และเป็นการขอความร่วมมือของภาคเอกชน ส่วนที่มองว่าเป็นการละเมิดสิทธิประชาชนนั้น เป็นการขอความร่วมมือจะละเมิดสิทธิ์ได้อย่างไร ไม่ได้บังคับ ถามว่า เครือข่ายดังกล่าวโยงใยกับคนในหรือนอกประเทศอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เอาเรื่องคนในประเทศให้เรียบร้อยก่อน ในส่วนของต่างประเทศเราก็ได้มีการเฝ้าระวัง ในส่วนของบางเว็บไซต์ที่ลงทะเบียนในต่างประเทศ ซึ่งก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
โฆษก กห.ยืนยันดูแลอย่างดีที่สุด
ด้าน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจร เพื่อเตรียมการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่ไทยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน ณ ศาลาว่าการกลาโหม โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวในที่ประชุมว่าขอให้ทุกส่วนราชการเตรียมการรองรับ มาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่35 ที่จะมีขึ้นในไทยระหว่างวันที่ 31ตุลาคม-4 พฤศจิกายน2562และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีผู้นำประเทศและคู่สมรส เจ้าหน้าที่อาวุโส และภาคเอกชนจำนวนมากเข้าร่วมประชุม โดยย้ำขอให้ดำเนินงานให้เรียบร้อย สมเกียรติ เป็นที่ยอมรับ รวมทั้งมีความประทับใจร่วมกันและให้มีผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด
พท.ลั่นห้ามโหวตผ่านร่างพรบ.งบ
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.)ให้สัมภาษณ์กรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า รัฐธรรมนูญปี 60 เปิดช่องให้รัฐมนตรีที่เป็นสส.โหวตร่าง พรบ.งบประมาณฯได้ว่าหากรัฐธรรมนูญเปิดช่องไว้ ก็แล้ว แต่เขาถ้ามีสิทธิ ก็ว่าไป แต่โดยปกติรัฐมนตรีเขาไม่เคยโหวต ยกมือในประเด็นที่ถูกอภิปรายขณะที่ร่างพรบ.งบประมาณ ฝ่ายค้านมองว่าเป็นเรื่องสำคัญเพราะจะนำไปใช้ประโยชน์ให้กับประชาชน เราต้องสอบถามในรายละเอียด ถ้ารัฐบาลตอบดี ก็ไม่ว่าอะไรปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน แต่ถ้าร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯไม่ผ่าน นายกฯจะต้องรับผิดชอบ
เมื่อถามว่า การโหวตร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ทางพรรคจะให้อิสระกับ ส.ส.หรือให้โหวตตามมติพรรค นายสมพงษ์ กล่าวว่า ส่วนใหญ่จะเป็นไปตามมติพรรค จะแหกไม่ได้ ตนเป็น สส.มา 30 ปี ไม่เคยเห็นฝ่ายค้านโหวตให้รัฐบาล ถ้ามีสวนมติพรรค ก็นิ่งๆไป ดังนั้น ก่อนวันอภิปราย จะกำชับเรื่องโหวตอีกครั้ง
กมธ.นัดเคลียร์ใจ’ปิยะบุตร-สิระ’
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายปิยบุตร แสงกนกกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค อนค.เป็นประธานฯ.ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม มีการเคลียร์ใจระหว่าง นายปิยบุตรกับนายสิระ เจนจาคะ สส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ฐานะรองประธานกมธ.คนที่ 3 หลังจากนายสิระให้สัมภาษณ์ไม่เห็นด้วยที่นายปิยบุตรใช้อำนาจเรียก พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการ กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า มาสอบใน กมธ.หลังเข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีข้อหาทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา116 ของ 7 แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน
อย่ามุ่งการเมือง-สนใจเรื่องอื่นด้วย
โดยนายสิระกล่าวตอนหนึ่งในที่ประชุมว่าเหตุผลที่ตนให้ความเห็นผ่านสื่อมวลชนเพราะเป็นการตอบคำถามของสื่อมวลชนเท่านั้นไม่มีเจตนาแอบแฝงใดๆทำให้นายปิยบุตรชี้แจงว่ากรณีที่จะเชิญ พล.ต.บุรินทร์ เป็นการได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มต่างๆยังไม่มีมติว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาในช่วงใดของกมธ. เพราะต้องสอบถามกับที่ประชุมอีกครั้ง
ทั้งนี้ นายสิระยังกล่าวต่อที่ประชุมว่าการทำงานของ กมธ.ขอให้พิจารณาถึงความคุ้มค่าทางเวลาและค่าตอบแทนที่มาจากภาษีประชาชนและให้ความสำคัญต่อการทำงานเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง ไม่ใช่ทำเพื่อพรรคการเมือง ขณะนี้พบว่าการพิจารณาของ กมธ.ฯมีแต่เรื่องของการเมือง การโดนละเมิดสิทธิและเรื่องภาคใต้ ดังนั้นควรพิจารณาด้วยว่ามีประโยชน์กับฝ่ายใดหรือไม่ ซึ่งนายปิยบุตร ยืนยันว่าการทำงานของกมธ.เป็นไปอย่างยุติธรรม และมีหลายเรื่องที่เข้าสู่การพิจารณา การทำงานของกมธ.ไม่ใช่พรรคการเมือง ดังนั้น หากมีประเด็นร้องเรียนสามารถเสนอที่ประชุมพิจารณาได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี