มั่นใจกระตุ้นศก.มาถูกทาง
รบ.หนุนท่องเที่ยวต่อเนื่อง
รัฐบาลเชื่อมั่นในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว แจ้งประชาชนเตรียมลงทะเบียนรับสิทธิ์ “100 เดียวเที่ยวทั่วไทย” จำนวน 4 หมื่นสิทธิ์ พร้อมชูโมเดลบ้านมั่นคงเพื่อผู้มีรายได้น้อย ขับเคลื่อนแก้ปัญหา P-move ตามนโยบายไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเชื่อมั่นในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว ภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา เห็นชอบใน 18 มาตรการ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามา 39 ล้านคน อันเป็นการเสริมสร้างเศรษฐกิจให้เจริญเติบโต แก้ไขปัญหาสภาวะเศรษฐกิจโลกและการใช้จ่ายภายในประเทศในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยคาดว่าการท่องเที่ยวจะเป็นทางออกจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลก
สำหรับ 18 มาตรการนั้น ประกอบด้วยมาตรการระยะสั้น กลาง ยาว สำหรับมาตรการระยะสั้น มีทั้งมาตรการด้านการเงิน การคลังและกฎหมาย รวมถึงมาตรการกระตุ้นตลาด เช่น โครงการ Amazing Thailand Grand Sale “Passport Privileges” ซึ่งมีส่วนลด 30-70 เปอร์เซ็นต์ต่อนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ส่วนมาตรการระยะกลาง-ยาว เช่น การส่งเสริมการขึ้นทะเบียนสถานพักแรม และให้สินเชื่อพิเศษสำหรับผู้ประกอบการสถานพักแรม การจัดกิจกรรมมหกรรมระดับโลกหรือกิจกรรมขนาดใหญ่ เป็นต้น
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า หนึ่งในมาตรการได้รับความสนใจอย่างมากในเวลานี้คือ โครงการ “ถึงเวลาทัวร์ ให้ทั่วไทย” ที่แบ่งออกเป็น 2 มาตรการ คือ “100 เดียวเที่ยวทั่วไทย” และ “วันธรรมดาราคาช็อกโลก” โดย “100 เดียวเที่ยวทั่วไทย” จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ 4 วัน คือ วันที่ 11-12 พฤศจิกายน, วันที่ 11-12 ธันวาคม ผ่านเว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยให้สิทธิ์วันละ 10,000 รายการ รวม 4 วันเป็น 40,000 รายการ ส่วน “วันธรรมดาราคาช็อกโลก” เปิดให้สามารถใช้สิทธิ์ท่องเที่ยวได้ในวันจันทร์ถึงพฤหัสบดี ซึ่งจะเริ่มในเดือนพฤศจิกายนถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการนโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติ (กอช) ได้กล่าวถึงเป้าหมายของรัฐบาลต่อการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยทั้งในเขตเมืองและชนบทว่า ตั้งเป้าไว้ที่1ล้านกว่าครัวเรือน ภายในปี 2579 สานต่อแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20ปี (2560-2579) ซึ่งจำนวนตามที่นายจุรินทร์กล่าวนั้น แยกเป็น แผนพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในชุมชนแออัดและผู้มีรายได้น้อย หรือ ‘บ้านมั่นคง’ รวม 77จังหวัด ประมาณ7แสนครัวเรือน และแผนพัฒนาผู้มีรายได้น้อยในชนบท หรือ ‘บ้านพอเพียง’ ใน76จังหวัด รวม3.5แสนครัวเรือน อีกทั้ง ยังสนับสนุนการสร้างศูนย์พักคนไร้บ้านและพัฒนาศักยภาพการใช้ชีวิตในจังหวัด เชียงใหม่ ขอนแก่น ปทุมธานี ด้วย
น.ส.รัชดา กล่าวว่า นโยบายการพัฒนาที่อยู่อาศัยฯนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บ้านเป็นรากฐานของชุมชนในการแก้ปัญหาและพัฒนาสังคม อย่างไรก็ตาม ยังมีความยากและซับซ้อนต่อการขับเคลื่อนในบางกรณี เช่น หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการถือครองที่ดินและที่อยู่อาศัยในคราวเดียวกัน เป็นปัญหาที่มีความเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานและอาจเกี่ยวข้องกับข้อกฏหมาย จึงจำเป็นต้องใช้ความรอบคอบและเวลาในการดำเนินการ ดังเช่นเรื่องร้องเรียนของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ P-move ซึ่งคณะกรรมการกำกับติดตามเพื่อดูแลแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนที่แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี ได้รายงาน ครม.ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาดำเนินการแก้ไขแบบมีส่วนร่วมกับกลุ่มผู้เดือดร้อน จากเรื่องร้องเรียน 159 กรณี ดำเนินการแก้ไขปัญหาจนได้ข้อยุติแล้ว 64 กรณี และอยู่ระหว่างดำเนินการ 95 กรณี เฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย มีการดำเนินการไปหลายกรณี
และในประเด็นกลุ่มคนไร้บ้าน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของนุษย์และกระทรวงสาธารณสุขกำลังหาแนวทางการดำเนินการและพิจารณาให้การช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลให้แก่กลุ่มคนเหล่านี้โดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องของการมีเลขประจำตัว 13 หลัก
“เห็นได้ว่า รัฐบาลมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยในทุกจังหวัด ทั้งในเรื่องการหาทางออกกับปัญหาที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย และการจัดสรรงบประมาณเพื่อการสร้างบ้านและสร้างชุมชนให้มีความเข้มแข็งผ่านโครงการบ้านมั่นคงและบ้านพอเพียง” น.ส.รัชดา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี