‘บิ๊กตู่’ปลุกจิตสำนึกคนไทย
ต้องรักษาชาติ
วอนทุกฝ่ายหยุดทะเลาะกัน
‘แรมโบ้อีสาน’ตามทุบพท.
อย่าริสร้างความแตกแยก
พปชร.นัดติวสส.15ต.ค.
รับมือซักฟอกพรบ.งบฯ
“บิ๊กตู่”ย้ำทุกคนต้องช่วยกันรักษาชาติ ขอคนรุ่นเก่า-รุ่นใหม่ไปด้วยกัน ขณะที่“ธนกร-แรมโบ้อีสาน”ชี้ผบ.ทบ.เจตนาดีห่วงบ้านเมือง วอนทุกกลุ่มหยุดทำร้ายประเทศ สับเพื่อไทยยังเล่นการเมืองเดิมๆถามกลับใครที่ทำบ้านเมืองวุ่นวาย ด้าน“พปชร.”นัดติวสส. 15 ตุลาคม รับมืออภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่โรงเรียนช่างอากาศอำรุง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี คู่สมรสร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาปรับภูมิทัศน์ ทำความสะอาดคู คลอง ถวายพระราชกุศลและน้อมรำลึก เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่โรงเรียนช่างอากาศอำรุง และวัดธรรมาภิรตาราม เขตดุสิต โดยนายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมนิทรรศการ “สายน้ำแห่งความห่วงใยสู่ไทยทั่วหล้า” ที่โรงเรียนช่างอากาศอำรุง ตามด้วยการตรวจเยี่ยมคลองต้นแบบที่บำบัดน้ำเสีย โดยการเติมฟองอากาศ ฉีดน้ำผสมจุลินทรีย์เพื่อบำบัดน้ำเสีย พร้อมร่วมทาสี ริมทางเท้า ราวเหล็ก และปรับภูมิทัศน์ ล้างพื้นถนนภายในวัด
ทั้งนี้ ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทาสี น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. เขตดุสิต พรรคพลังประชารัฐ ได้เข้ามาแนะนำตัว พร้อมกล่าวว่า ตนเป็นคนรุ่นใหม่ที่พร้อมทำงานกับคนรุ่นเก่า ซึ่งคนรุ่นเก่ามีประสบการณ์ ส่วนคนรุ่นใหม่มีไอเดีย ด้านพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องไปศึกษาว่าระบบราชการเป็นอย่างไร กฎหมายอยู่ตรงไหน ซึ่งกฎหมายก็มีอยู่แล้วจะไปฝืนกฎหมายก็ไม่ได้ แต่หากจะแก้ไขก็ต้องเป็นไปตามช่องทาง วันนี้ต้องการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ หากจะด่าหรือว่าประเทศชาติก็เหมือนด่าตัวเอง ด่าบรรพบุรุษของตัวเอง โดยเมื่อนายกฯพูดถึงช่วงนี้ น.ส.ธณิกานต์พูดเสริมทันทีว่า “วันนี้หมดเวลาด่าประเทศชาติแล้ว เราต้องร่วมมือร่วมใจกัน แต่ก็ยังมีบางพรรคที่ทำอยู่” ตามด้วย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า เรากำลังทำการเมืองสร้างสรรค์กันอยู่
วอนทุกฝ่ายเลิกทะเลาะกัน
จากนั้น นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ประชาชนแยกแยะกันออกแล้ว หากไม่ทำการเมืองสร้างสรรค์การเมืองก็จะปฏิรูปต่อไปไม่ได้ โดยข้าราชการ รัฐบาล และประชาชน ต้องร่วมมือกัน นี่คือหลักการประชาธิปไตย หากร่วมมือกัน ประเทศไทยจะก้าวไกลและยั่งยืน ซึ่งรัฐบาลจะเริ่มต้นและประชาชนมาร่วม จึง ต้องมาดูว่าอะไรทำได้และทำไม่ได้ อย่างไรก็ตามวันนี้นักการเมืองทั้งรุ่นเก่า รุ่นกลางและรุ่นใหม่ต้องไปด้วยกัน แต่มีบางคนชอบว่าประเทศเหมือนชอบว่าตัวเอง การมาทำกิจกรรมวันนี้ไม่ได้ต้องการจะมาดราม่า แต่เป็นการกระตุ้นสร้างแรงจูงใจในการทำกิจกรรม และขอให้เลิกทะเลาะกันได้แล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้เลยช่วงหาเสียงมาแล้ว เดี๋ยวจะมีคนว่ามาหาเสียงอีก ทั้งนี้กิจกรรมในวันนี้เป็นการย่อให้เห็นว่าเราได้ทำอะไรกันบ้าง ส่วนที่เหลือก็ไม่ได้ทำวันนี้วันเดียว
ปลุกคนไทยช่วยกันรักษาชาติ
ต่อมา นายกรัฐมนตรี จะกราบนมัสการและสนทนาธรรมกับเจ้าอาวาสวัดธรรมาภิรตาราม ยังได้มอบหลวงพ่ออู่ทอง ให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ได้ร่วมทำบุญกฐินสามัคคีช่วยเหลือวัด 1,000 บาท ก่อนที่นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมโครงการจิตอาสา สาธิตการจัดทำถังดักไขมัน และกล่าวก่อนเดินทางกลับ ว่า “นี่คือสิ่งหนึ่งที่ช่วยแบ่งเบาภาระรัฐบาล เป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงานต้องร่วมกัน รวมถึงการรักษาแหล่งน้ำดังนั้นเราต้องรักษาทุกอย่างไว้ให้ได้ ซึ่งมีหลายหน่วยงานหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องช่วยกันทั้งหมด วันนี้เป็นการทำกิจกรรมเพื่อให้เห็นว่าเราต้องดูแลรักษาประเทศชาติ ในเรื่องอะไรบ้าง ที่ผ่านมาก็เป็นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม การรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ทั้งหมดแก้ไขได้ด้วยตัวพวกเราทุกคน นี่แหละคือสิ่งที่บ้านเมืองต้องการในวันนี้ คือการพูดคุยกันในเรื่องเหล่านี้ ในประเด็นที่มีความสำคัญกับตัวเราเอง และกับประเทศชาติโดยส่วนรวม ส่วนเรื่องอื่นว่าตามขั้นตอนไป อย่ามาตีกัน เข้าใจไหม วันนี้ไม่พูดเรื่องอื่น บ๊ายบาย กลับละ” สำหรับกิจกรรมจิตอาสานี้จัดพร้อมกันทั่วประเทศ ในการปรับปรุงภูมิทัศน์และทำความสะอาดคูคลองเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกในพระมหากรณาธิคุณ โดยครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 18 และ 23 ต.ค.นี้
“ธนกร”หนุนวาทะ’บิ๊กแดง’
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก บรรยายพิเศษเรื่อง แผ่นดินของเราในมุมมองความมั่นคง ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านต่างออกมาระบุว่าไม่เป็นกลางทางการเมือง วางตัวไม่เหมาะสม และนำกองทัพมายุ่งกับการเมืองว่า ส่วนตัวมองว่าพล.อ.อภิรัชต์มีเจตนาดีกับประเทศ ท่านเป็นห่วงประเทศและประชาชน จึงออกมาวิเคราะ์ถึงปัญหาที่ผ่านมาเพื่อนำไปสู่การแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะด้านความมั่นคง เป็นการสร้างความเข้าใจมากกว่า ขอให้พรรคร่วมฝ่ายค้านได้เข้าใจ เพราะหลายสิ่งที่ผบ.ทบ.พูดเป็นข้อเท็จจริงที่คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศทราบดี และหากปล่อยไว้จะก่อให้เกิดปัญหากับประเทศ หากมองด้วยใจเป็นธรรมแล้วจะเข้าใจดี ทุกฝ่ายต้องช่วยกันเพื่อประเทศไทยอันเป็นที่รักของคนไทยทุกคน
นายธนกร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ออกมาตอบโต้พล.อ.อภิรัชต์ว่าไม่อยากให้ทหารปฎิวัติอีกนั้น คนส่วนใหญ่ไม่มีใครต้องการให้เกิดการปฏิวัติหากประเทศไม่เกิดความขัดแย้งถึงขนาดคนไทยออกมาเข่นฆ่ากันเอง หรือมีการจลาจลเผาบ้านเผาเมือง ส่วนที่บอกว่ากองทัพพร้อมแทรกแซงการเมืองทุกเวลานั้น ตนมองว่าหากการเมืองเดินหน้าตามระบบรัฐสภา ไม่มีการทุจริตคอรัปชั่น หรือมีการปลุกปั่นให้ประชาชนออกมาต่อสู้กันเองบนท้องถนน มีการชุมนุมเผาบ้านเผาเมือง เชื่อว่าทหารก็ไม่ออกมา ที่สำคัญไม่มีอำนาจไหนยิ่งใหญ่กว่าอำนาจประชาชน อยากให้นายปิยบุตรได้เข้าใจ เพราะหลายสิ่งหลายอย่างที่นายปิยบุตรและพรรคอนาคตใหม่ทำนั้น ทำให้คนไทยเคลือบแคลงสงสัย และไม่สามารถไว้วางใจได้ หากทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเองโดยยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง ทุกอย่างก็จบ ประเทศเดินหน้าไปได้
‘แรมโบ้อีสาน’ตามทุบเพื่อไทย
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดแถลงข่าวกรณีฝ่ายค้านออกมาวิพากษ์วิจารณ์ พลเอกอภิรักษ์ คงสมพงษ์ หรือบิ๊กแดง ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร บรรยายพิเศษ ในหัวข้อเรื่อง แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคงว่า ขอสนับสนุนคำพูดของพล.อ.อภิรักษ์ เพราะพูดด้วยความเป็นห่วงบ้านเมือง
นายสุภรณ์ กล่าวว่า ณ วันนี้สถานการณ์การเมืองต้องอาศัยความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจของพี่น้องประชาชนได้ช่วยกันที่จะทำให้บ้านเมืองเดินไปได้ แต่ยังมีนักการเมืองบางกลุ่มบางคนพยายามจะเล่นการเมืองในลักษณะทำให้บ้านเมืองเกิดความแตกแยก มีหลายสถานการณ์ที่ได้ทำขึ้นมาในกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปประชุมที่สหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้จ้างชาวต่างชาติมายืนขับไล่ประท้วงนายกรัฐมนตรี และมีเรื่องการไปจ้างล็อบบี้ยิสต์ในการที่จะเขียนวิพากษ์วิจารณ์โจมตีรัฐบาลไทย นี่เป็นการทำลายประเทศไทย เป็นการสร้างความขัดแย้ง การที่ผบ.ทบ.ออกมาเตือเป็นเรื่องของความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง อยากเห็นความสงบสุขอย่างมั่นคงในบ้านเมือง จึงไม่อยากเห็นพี่น้องนักการเมืองหรือกลุ่มการเมืองใดๆที่จะต้องมาจ้องทำลายบรรยากาศ
“ผมเป็นห่วงที่สุดคือสองบรรยากาศการเมืองในขณะนี้ ก็คือคุณธนาธร (จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่) เองก็ดี หรือฝ่ายพรรคเพื่อไทยเองก็ดี ไม่ว่าจะเป็นคุณจาตุรนต์ ฉายแสง, คุณวัฒนา เมืองสุข, คุณอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด, คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แม้กระทั่งฝ่ายค้านคนอื่นๆจากพรรคเพื่อไทยที่ร่วมมือกับพรรคอนาคตใหม่ ในการจะออกมาวิพากษ์วิจารณ์และมาโจมตี สร้างความยุยงแตกแยกให้เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะสิ่งที่เห็นชัดเจนว่า ประเทศจีนได้ออกมาตักเตือนนักการเมืองไทยที่ไปเกี่ยวข้องกับการชุมนุมที่ฮ่องกง” นายสุภรณ์ กล่าว
ห่วงปลุกสร้างความแตกแยก
นายสุภรณ์ฯ กล่าวว่า เรื่องที่ห่วงใยคือฝ่ายค้านหรือกลุ่มการเมืองทั้งหลายทั้งปวง ยังมีพฤติกรรมเดิมๆ ถ้าเอาข้อเท็จจริงที่เคยอยู่พรรคเพื่อไทยมาก่อน และเคยอยู่มาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ไม่อยากจะพูดว่าการเล่นการเมืองพรรคเพื่อไทยยังเล่นการเมืองเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เล่นการเมืองแบบประเภทไม่สร้างสรรค์และต้องการจะทำร้าย ป้ายสี พรรคเพื่อไทยน่าจะใช้วิกฤติในอดีต ใช้ประสบการณ์ในอดีตหันมาคิด ทบทวนว่าที่บ้านเมืองมันแตกแยก เกิดความวุ่นวาย เพราะอะไร เพราะใคร ใคร-พรรคการเมืองใดที่ทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายและมีปัญหาจนทุกวันนี้
“ผมอยากให้พรรคเพื่อไทยกลับไปทบทวนย้อนอดีตว่า วันนี้หยุดได้หรือยัง พฤติกรรมการที่จะต้องมายุยงปลุกปั่น พฤติกรรมที่จะต้องมาสร้างความแตกแยกและทำลายให้บ้านเมืองเกิดความไม่สงบสุข ผมว่าหยุดพฤติกรรมนี้ได้แล้ว โดยเฉพาะการสัมภาษณ์ของโฆษกพรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ก็ดี , นายวัฒนาก็ดี , นายจาตุรนต์ และหลายๆคน เหมือนกับต้องการให้บ้านเมืองเดินไปไม่ได้ ผมไม่อยากพูดอะไรมากเพราะถ้าพูดแล้วก็ต้องพูดถึงอดีตว่า ใครกันแน่ที่ทำให้บ้านเมืองแตกแยก จนกระทั่งรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องออกมาแก้ไข ใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังการชักใยให้เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้นในบ้านในเมือง ผมไม่อยากพูดและถ้าพูดไปมันก็ไปย้อนหาอดีต ไปสาวไส้กันตลอดเวลาคงไม่เหมาะสม” นายสุภรณ์กล่าวและว่า สิ่งที่ผบ.ทบ.ออกมาเตือนสติยืนยันว่า เป็นสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสมแล้ว
พท.จี้อย่าใช้กองทัพเป็นเครื่องมือ
วันเดียวกันนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การชุมนุมชัดดาวน์ประเทศของ กปปส.ผ่านพ้นไปพร้อมความเสียหายอย่างใหญ่หลวง แต่พล.อ.อภิรัชต์ออกมาปราศรัยในคราบบรรยายพิเศษ ทำให้ภาพหลอนนกหวีดชัตดาวน์ยึดเมืองเหล่านั้นกลับคืนมา เป็นที่น่าสังเกตว่าห้วงเวลาที่พล.อ.อภิรัชต์เลือกออกมาพูดหลายครั้งมักอยู่ในช่วงจังหวะที่รัฐบาลกำลังเพลี่ยงพล้ำ ถ้าพล.อ.อภิรัชต์ อยากเป็นนักการเมืองต้องลาออก หรือรอเกษียณค่อยออกมาพูด วันนี้ประชาชนสงสัยว่าพล.อ.อภิรัชต์มาพูดด้วยตัวเองหรือใครในรัฐบาลสั่งให้ช่วยพูด เพื่อเบี่ยงเบนกระแสขาลงของรัฐบาลหรือไม่
‘พล.อ.ประยุทธ์ ต้องสร้างความชัดเจนว่า รัฐบาลไม่ได้สั่งการหรืออยู่เบื้องหลังการออกมาพูดของผบ.ทบ. โดยอาจตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนสบายใจได้ว่า รัฐบาลไม่ได้ใช้กองทัพเป็นเครื่องมือทางการเมือง ’นายอนุสรณ์ กล่าว
ติวเข้มสส.15ตุลารับมือถกงบฯ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมทำหน้าที่ในการพิจารณาพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายพ.ศ. 2563 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 17 -19 ตุลาคมนี้ อย่างเต็มที่และไม่มีความน่ากังวลแต่อย่างใด โดยการเตรียมให้สมาชิกส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ทำความเข้าใจในร่างพระราชบัญญัติตั้งกล่าว โดยได้เรียกประชุมส.ส. ของพรรค เตรียมความพร้อม ของตัวบุคคลที่จะเป็นผู้ชี้แจง ทางพรรคจะคัดคนที่มีความเหมาะสม และมีความเข้าใจในรายละเอียด แต่ละเรื่อง แต่ละประเด็น ให้ใช้เวลาที่มีอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีผู้ประสงค์จะอภิปรายเป็นจำนวนมาก และในวันอังคารที่ 15 ตุลาคมนี้ จะมีการประชุมกันที่พรรคพลังประชารัฐ
ด้านนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านเผยว่า ฝ่ายค้านจะประชุมในวันที่ 15 ตุลาคม เช่นกันเพื่อกำหนดตัวสส.ไว้อภิปรายร่างพรบ.งบประมาณ แต่เบื้องต้นเห็นว่า ร่างพรบ.งบประมาณนั้นหลายส่วนขาดรายละเอียด อีกทั้งเน้นจัดสรรไปที่งานด้านความมั่นคงมากเกินไป ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้
‘ศรีสุวรรณ’ร้องสอบ’ธนาธร-ผบ.ทบ.’
วันเดียวกัน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพลเฟสบุ๊คส่วนตัว เปิดเผยว่า ในวันอังคารที่ 15 ตุลาคมนี้ จะไปยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)เพื่อให้ไต่สวน สอบสวนพฤติการณ์และการกระทำของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้อยแรงหรือไม่ กรณีนายโจชัว หว่อง หนึ่งในแกนนำผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง โพสต์รูปถ่ายคู่กับนายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดยระบุว่า มีโอกาสได้พบเจอและแลกเปลี่ยนทัศนะทางการเมืองกับนายธนาธร ระหว่างร่วมงานประชุม “Open Future Forum” ในฮ่องกง ซึ่งการกระทำดังกล่าวเสี่ยงที่จะกลายเป็นปัญหาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศขึ้นมาทันที หลังจากที่เพจเฟซบุ๊ก Chinese Embassy in Bangkok เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความบางส่วน ระบุ นักการเมืองไทยบางคนมีการติดต่อกับกลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีนโดยมีท่าทีเชิงสนับสนุน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดอย่างร้ายแรงและไร้ความรับผิดชอบ ซึ่งสอดคล้องกับคำพูดของนายธนาธรในเวทีการประชุมข้างต้นทำนองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในฮ่องกงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านเป็นแรงบันดาลใจให้ตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมา
นายศรีสุวรรณ ระบุว่า ภาพที่ นายธนาธรถ่ายคู่กับ นายโจชัว หว่อง กลายเป็นข่าวในเชิงสัญลักษณ์ที่แพร่หลายในสื่อของประเทศจีนและทั่วโลก รวมทั้งในโซเชียลมีเดีย ทำให้ดูเสมือนว่านักการเมืองไทยได้สมคบหรือติดต่อกับกลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีนโดยมีท่าทีเชิงสนับสนุน ตามที่เพจเฟซบุ๊กของสถานเอกอัคราชฑูตจีนโพสต์ แม้นายธนาธรจะออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าได้พบนายโจซัว หว่อง เพียง 5 นาทีก็มิได้หมายความว่าจะมิได้ติดต่อกันในทางอื่นได้ ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นความละเอียดอ่อนในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศระหว่างไทย-จีน ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อเกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ และความมั่นคงของรัฐได้ หากเป็นเช่นนั้นจริงย่อมอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ก่อนหน้านี้ นายศรีสุวรรณ ยังโพสต์ด้วยว่า จะยื่นให้ ปปช.ไต่สวนสอบสวนว่า คำพูดและการกระทำดังกล่าวของพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก จัดบรรยายพิเศษ ในหัวข้อเรื่อง “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง” เมื่อวันที่ 11ต.ค.ที่ผ่านมา จงใจที่จะฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯและกฎหมายหรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อนายทหารอื่นๆที่ยังเคารพในเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ของการเป็นทหารอาชีพ ไม่ฝักใฝ่ทางการเมืองและมีความเป็นกลาง เพราะในการบรรยายดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงลักษณะความไม่เป็นกลางทางการเมือง สะท้อนให้เห็นว่ามีทัศนคติทางการเมืองแบบเลือกข้าง ซึ่งขัดต่อธรรมเนียมปฏิบัติและมารยาททางการเมืองที่ผู้นำเหล่าทัพที่ไหนๆในโลกเขาไม่นิยมทำกัน โดยที่ผู้นำเหล่าทัพไม่ควรเลือกข้างทางการเมือง หรือแสดงความเห็นในลักษณะประกาศจุดยืน จนอาจเป็นการแทรกแซงกระบวนการในระบอบประชาธิปไตย จนทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในประเทศเสียเอง
ทั้งที่ พล.อ.อภิรัชต์ เคยเป็นถึงอดีตเลขาธิการ คสช.ซึ่งพยายามสร้างความปรองดอง-สร้างการสมานฉันท์ขึ้นภายในประเทศ และเป็นถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก กระทรวงกลาโหม และเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งหากมีข้อขัดข้องใด ๆ ควรนำประเด็นดังกล่าวไปหารือในกรรมาธิการหรือที่ประชุมของวุฒิสภา หรือรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเห็นว่าการพูดของพล.อ.อภิรัชต์ อาจเป็นการฝ่าฝืนระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยประมวลจริยธรรม 2551 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยทหาร 2476 นอกจากนั้นในฐานะที่เป็นสมาชิกวุฒิสภา ยังอาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯ 2561 อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี