"กลุ่มเกษตรกรยาเส้น"โอด!! โดนภาษียาเส้น2,000%หวั่นไม่มีผู้รับซื้อ ร้อง"สภา-นายกฯ"แก้ปัญหา พร้อมหาพืชทดแทนเพาะปลูกสร้างรายได้ ลั่น!! ถ้ารัฐบาลทำลายอาชีพเกษตรกร ก็ไม่มีความชอบธรรมอยู่บริหารประเทศ
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2562 ที่รัฐสภา เกียกกาย กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยาเส้น จังหวัดเพชรบูรณ์ ประมาณ 400 คน นำโดย นายนิพนธ์ นอกไธสง และนายยุพราช บัวอินทร์ ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้แก้ปัญหาผลกระทบจากการขึ้นภาษียาเส้น 2,000% ทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ขาดศักยภาพไม่สามารถรับซื้อยาเส้นได้ทั้งหมด ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกยาเส้นมีความหวั่นวิตกว่า เริ่มเข้าสู่ฤดูการเพาะปลูกแล้วจะไม่มีผู้รับซื้อ โดยมี นางกันตวรรณ ตันเถียร ประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ , นายอันวาร์ สาและ ประธานคณะกรรมธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร และนายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้รับมอบ
นอกจากนี้ กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยาเส้น ยังได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อเร่งหามาตรการในการช่วยเหลือ และเยียวยา โดยมี น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนรับมอบ
โดย นายนิพนธ์ นอกไธสง กล่าวว่า การขึ้นภาษี 2,000% สร้างความลำบากให้กับเกษตรกรผู้ปลูกยาเส้น ซึ่งเป็นผู้รับภาระ โดยปีที่ผ่านมาขึ้นภาษีแค่กิโลกรัมละ 5 บาท ถ้า 10 กิโลกรัม แค่ 58 บาท แต่ในปีนี้พุ่งไปถึงกิโลกรัมละ 1,175 บาท ลองคิดว่าเป็นภาษีโหดหรือไม่ เป็นธรรมกับเกษตรกรหรือยัง และคำหนึ่งที่ว่า "เกษตรกรไม่เดือดร้อน ไม่เสียภาษี" ซึ่งเกษตรกรไม่เสียภาษีก็จริง แต่ผู้ประกอบการเป็นผู้เสียภาษีหนัก แล้วใครจะมาซื้อยาเส้นของเรา
"ทั้งนี้ อยากฝากไปถึงกรมสรรพสามิต ถ้าท่านกล้าขึ้นภาษี ก็ต้องกล้าหาคนมาซื้อยาเส้นเราให้ได้ หรือท่านก็ซื้อยาเส้นเราทุกเส้น จะปลดทุกข์ให้กับเกษตรกรอย่างแท้จริง หากท่านทำไม่ได้ แต่ทำไมกล้าขึ้นภาษี ตั้งแต่เกิดจนอายุ 64 ปี ไม่เคยเจอการขึ้นภาษีแบบนี้ ต้องจารึกเป็นอนุสรณ์ ขึ้นภาษี 2,000% ดังนั้น เมื่อท่านกล้าขึ้น กล้าเสี่ยง ท่านต้องกล้าช่วยเรา ให้เราได้ขายยาทุกเส้น รวมทั้งฝากคณะกรรมาธิการ ทั้ง 2 คณะ ผลักดันปัญหาดังกล่าวเข้าสู่สภาฯ ต่อไป" นายนิพนธ์ กล่าว
ขณะที่ นายยุพราช บัวอินทร์ กล่าวว่า พวกเราทุกคน ไม่ขัดข้องที่รัฐบาลจะมีแนวทางรณรงค์ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่ แต่ไม่ใช่มาออกกติกาที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกรอย่างนี้ เรารับไม่ได้ ถ้าจะขึ้นภาษี 2,000% ต้องขึ้นเป็นขั้นบันได และระหว่างนั้นหาพืชทดแทนมาให้พี่น้องเกษตรกรได้เพาะปลูก เพื่อให้มีรายได้ ที่จะต้องลดการเพาะปลูกยาเส้น ของเกษตรกรจังหวัดเพชรบูรณ์ และทั่วประเทศ ซึ่งพร้อมยอมทำตามกติกาของรัฐบาลในระยะยาว แต่ท่านต้องให้โอกาสพวกเราบ้าง และรายได้หลักของชาว อ.หล่มเก่า อ.หล่มสัก มาจากการปลูกยาเส้น คือวิถีชีวิตของพวกเรา คือเงินที่ต้องดำรงชีวิต รักษาพยาบาล ส่งลูกหลานเรียน แต่อย่าทำลายชีวิต หรืออาชีพของพี่น้องเกษตรกร
"ผมและพี่น้องเกษตรกร ที่มาตากแดดหน้ารัฐสภาไม่สนุกหรอก แต่ท่านนายกฯ ต้องทราบข้อเท็จจริง ว่าลูกน้องในการกำกับดูแลของท่าน ออกระเบียบ กติกาที่เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีพของพี่น้องเกษตรกรในจังหวัดเพชรบูรณ์ และข้อมูลที่ได้รับ เป็นข้อมูลเท็จ ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด ถ้ารัฐบาลนี้ทำลายอาชีพของพี่น้องเกษตรกร รัฐบาลนี้ก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะอยู่บริหารประเทศต่อไป" นายยุพราช กล่าว
ด้าน นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พวกเราทุกคน เข้าใจผลเสียของการสูบยา ในแง่สุขภาพ แต่ขณะเดียวกันต้องยอมรับข้อเท็จจริงว่า ไม่มีธุรกิจไหนที่สามารถยื่นอยู่รอดได้ ถ้ามีการปรับภาษีเพิ่มขึ้น 2,000% วันนี้มีเกษตรกรที่ทำมาหากิน ดูแลครอบครัวด้วยอาชีพการปลูกยาเส้น ฉะนั้น การเดินไปสู่การจำกัดสูบยา ควรจะมีมาตรการที่มีความพอดี ในการดูแลประโยชน์ของประชาชนทุกฝ่าย เราไม่ได้ต้องการเรียกร้องให้มีการส่งเสริมการสูบยา เห็นด้วยกับแนวทางการปรับเพิ่มภาษี แต่ขอให้มีการปรับเพิ่มเป็นขั้นตอนในลักษณะไม่เป็นผลกระทบกับพี่น้องเกษตรกร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘ม็อบยาเส้น’บุกสภา!ร้องกมธ.เกษตรฯเยียวยา หลัง รบ.ขึ้นภาษี2,000%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี