ปชป.เสนอจัดสรรงบใหม่ แนะเพิ่มวิจัยหั่นต้นทุนสินค้า ลดค่าครองชีพปชช.
17 ตุลาคม 2562 ที่รัฐสภา นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้อภิปราย ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ว่า งบวิจัยปีนี้ตั้งไว้แค่ 13,000 ล้าน ทั้งที่ประเทศที่เจริญแล้วและอาเซียนต้องมีอย่างน้อย 1 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีของแต่ละชาติ ตนพูดมา 3 ปีแล้วว่าปัญหาสินค้าแพงมาจากต้นทุนพลังงานที่แพง ซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตของทุกอย่าง เพราะค่ากลั่นน้ำมันของไทยทำไมสูงกว่าราคาหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์ถึง 87 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่ปัจจัยไม่ได้แตกต่างกัน และมีประสิทธิภาพโรงกลั่นใกล้เคียงกัน เป็นตัวกดทำให้เศรษฐกิจไทยทรุด
ทั้งนี้ ร้านค้าต่างจังหวัดต้องปิดตัวลงจำนวนมาก หรือแม้กระทั่งก๊าซธรรมชาติ ราคาหน้าหลุม 3 บาทกว่า เราไปขายให้ประชาชน 13 บาทต่อกิโลกรัม ขายให้โรงงานอุตสาหกรรม 16 บาท ล้วนเป็นที่มาของสินค้าแพงทั้งหมด แม้แต่ราคาไข่ ซึ่งเป็นอาหารที่คนมีรายได้น้อยบริโภค ทุก 1 บาทที่แพงขึ้น จะมีนายทุนได้เงินเพิ่มเดือนละหมื่นล้าน ยิ่งไข่ปลอดสารพิษราคาเพิ่มขึ้นคูณ 2-3 จากราคาจริง ถ้ารัฐบาลช่วยลดภาระในส่วนนี้ ประชาชนจะลดต้นทุนค่าครองชีพอีกมาก
นายเกียรติ อภิปรายว่า ในเรื่องส่วนต่างดอกเบี้ยของไทย สูงระดับต้นของเอเชีย เกาหลีใต้ส่วนต่างดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.6 เปอร์เซ็นต์ จีน 4.2 เปอร์เซ็นต์ แต่ทำไมไทยสูงถึง 7.1 เปอร์เซ็นต์ ถามว่าใครได้ประโยชน์ ก็สถาบันการเงิน และทุนใหญ่ได้ประโยชน์ไปทั้งสิ้น หากเปลี่ยนแปลงใช้กลไกของรัฐเข้าไป จะสามารถช่วยได้
ทั้งนี้ ขอเสนอแนะให้แก้ปัญหาเร่งด่วน โดย 1.สินค้าเกษตรให้จำกัดการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยกำหนดคุณภาพของสินค้าที่นำเข้า ไม่ใช่เปิดรับทั้งหมด และมากดสินค้าเกษตรบ้านเรา 2.สินค้าส่งออก ไม่มีการเปิดตลาดใหม่ เช่น ประเทศแถบละตินอเมริกา ตนไปเปิดตลาดนี้มา 10 ปี มีเพิ่มแค่ 2 พันล้าน แต่ทำไมเวียดนามไปเปิดตลาดอียูได้ ขอแนะนำให้ไทยเปิดตลาดอียู และแคนาดา โดยเฉพาะตลาดตะวันออกกลาง สำหรับปัญหาเงินบาทแข็ง นอกจากเป็นปัญหาของธนาคารแห่งประเทศไทยแล้วยังเป็นปัญหาของรัฐบาล
3.เปลี่ยนบทบาท SME Bank ให้เป็น Exim Bank คือเน้นส่งเสริมการส่งออก 4.ส่งเสริมทุนด้านการวิจัยเพื่อพัฒนา ให้เป็น 2 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีในปีนี้ และ 5.เร่งสร้างนวัตกรรมงานวิจัย
“ผมขอเสนอให้มีการปรับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อให้เกิดการลงทุนที่น้อย แต่ได้ผลกำไรมาก รวมถึงขอให้การกำหนดงบประมาณเพื่อดำเนินนโยบายเพื่อคนรุ่นต่อไปไม่ใช่การเลือกตั้งครั้งต่อไป โดยในชั้นกมธ. ขอให้ทบทวนและปรับตัวเลขงบประมาณเพื่อให้เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้โครงการแจกเงินที่รัฐบาลคาดหวังว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจถือเป็นการลงทุนที่ใช้เงินจำนวนมาก แต่ได้ผลลัพธ์น้อย” นายเกียรติกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี