"บิ๊กตู่"ลุกแจงสภา ยันใช้งบตามระเบียบ-เกลี่ยให้ทุกพื้นที่ ย้ำยุทธศาสตร์ชาติสามารถปรับได้ทุก5ปีตามสถานการณ์ ปล่อยมุกอย่าคิดถึงผม-ลาก่อนชั่วคราว ก่อนออกไปปฎิบัติภารกิจช่วงเย็น
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2562 ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ลุกขึ้นชี้แจงต่อสภาอีกครั้ง ระหว่างการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ว่า แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนั้นสามารถปรับได้ทุก 5 ปี หรือเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงจากทั้งภายในและภายนอกก็สามารถแก้ไขได้ในแต่ละหัวข้อ ซึ่งตามแผนกำหนดไว้ 6 หัวข้อครอบคุมทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในยุคดิสรัปชั่นมีคนตกงานจำนวนมาก เราก็ต้องดู ช่วยพัฒนาทักษะและปรับเปลี่ยนอาชีพให้กับคนไทย กระตุ้นให้พัฒนาตนเองและเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามา
"ในเรื่องของงบประมาณไว้ผมจะขอสรุปอีกครั้งหนึ่ง ช่วงนี้ผมขอออกไปปฏิบัติภารกิจ และอย่าคิดถึงผมก็แล้วกัน เห็นเมื่อสักครู่ตอนผมยังไม่เข้ามาเรียกหานายกฯ กันจัง ผมดูอยู่ตลอดเวลาในทีวีบนรถ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวสรุปในเรื่องของงบประมาณ ก่อนที่จะเดินทางเพื่อออกไปปฏิบัติภารกิจในช่วงเย็น ตอนหนึ่งว่า อย่างไรก็ตาม งบประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท ลองคิดดูว่าสิ่งที่เสนอเข้ามาทั้งหมดมันเกินจากจำนวนเงินนี้ทั้งสิ้น คิดง่ายๆ ตามที่หลายท่านบอกให้ตัดงบตรงนั้นมาใส่ตรงนี้ ขอถามว่าแล้วมันจะไปกันอย่างไร มันไปกันไม่ได้ เพราะมีหน่วยงานเยอะแยะไปหมด ถ้าลดได้มากกว่านี้ได้หรือไม่ แค่วันนี้ยังทำงานกันไม่ทันเลย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ งบประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท มีการกลั่นกรองโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมทั้งสำนักงบประมาณ และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จึงตัดได้เหลือจำนวนเท่านี้ โดยงบประมาณได้มีการเกลี่ยไปยังทุกจังหวัด แต่ถ้ามีเรื่องเร่งด่วนก็สามารถใช้ในส่วนของงบกลางได้ ที่ผ่านมาเวลาไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ก็อนุมัติงบกลางให้มาโดยตลอด เพราะเป็นการขอมาอย่างเร่งด่วนแล้วไม่ได้อยู่ในแผน แต่ทั้งหมดก็ต้องผ่านการพิจารณาของ ครม.มีแผนงานและรายละเอียด ไม่ใช่มีกระดาษมาเพียง 2 แผ่นแล้วจะอนุมัติได้ถ้าเป็นแบบนี้ตนไม่อนุมัติ ไม่นำเข้า ครม.เด็ดขาด นี่คือตน ทุกอย่างไม่ง่าย ตนจึงขอความร่วมมือจาก ครม. ซึ่งมาจากหลายพรรคการเมือง ให้เข้าใจว่าทุกวันนี้ พ.ร.บ.งบประมาณ เปลี่ยนไปแล้ว เพราะฉะนั้นเงินงบประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท ถ้าตกลงได้ตามนี้มันก็จะไปอยู่ในการพิจารณาในวาระที่ 2 ไปแปรญัตติกันขึ้นมา แต่การจะแปรญัตติ เมื่อตัดหน่วยงานหรืองบประมาณของใครก็ตาม ก็ไม่ใช่ว่าจะเอาไปทำอะไรก็ได้ ต้องนำกลับเข้ามาอยู่ตรงกลาง แล้วจึงพิจารณาให้กับหน่วยงานที่ยังขาด ซึ่งมีแผนงานและความพร้อมมากกว่า
"ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมกรุณาไปศึกษาให้ละเอียดด้วยโดยเฉพาะในเรื่องของระเบียบวิธีงบประมาณ ผมก็ศึกษาเอาเอง ทั้งถามลูกน้องหรืออ่านหนังสือเองบ้างเป็นหลักการกว้างๆ ที่ผมควรจะรู้ เพื่อที่จะบริหารได้ หลายคนบอกว่าผมเป็นทหารจะไปรู้เรื่องอะไร รู้แต่เรื่องการรบรา รบพุ่ง ผมก็จำเป็นต้องศึกษาเมื่อเป็นนายกฯ ก็ต้องศึกษาทุกเรื่อง ไม่รู้เรื่องผมก็รับผิดชอบไม่ได้ ขอให้เชื่อมั่นและไว้วางใจ เรารับเรื่องทุกเรื่องที่ท่านพูดมาทั้งหมด ผมฟังมา 2 วันแล้วและผมก็เริ่มชินแล้วล่ะ เอ๊ะมันก็สบายดีนั่งอยู่ตรงนี้ แต่อย่างว่าผมก็ต้องไปเซ็นงานและทำงานอย่างอื่น มีภารกิจอื่นบ้าง ก็ต้องขอโทษด้วยแล้วกัน มีอะไรก็สอบถามกันได้ ค่อยเจอกันใหม่ก็แล้วกันนะครับ ลาก่อนชั่วคราว สวัสดีครับ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ พูดจบก็หันไปส่งยิ้มหวานให้กับสมาชิกในห้องประชุมและหันไปทำความเคารพ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา ในฐานะประธานในที่ประชุมในขณะนั้น ขณะที่นายศุภชัย ได้กล่าวว่า "ถ้าท่านนายกฯ เหนื่อยก็แบ่งๆ ให้รองนายกฯ หรือให้รัฐมนตรีช่วยตอบแทนบ้างก็ได้ เห็นใจท่านนายกอยู่เหมือนกัน"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี