‘หญิงหน่อย’ได้จังหวะขย่มรบ. โชว์ภูมิ‘แบนสารพิษ’ถ้าสร้างภาระให้เกษตรกร สุดท้ายเหลว
27 ตุลาคม 2562 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan” เกี่ยวกับกรณีการยกเลิกการใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิดของรัฐบาล มีเนื้อหาดังนี้
“สร้างประเทศไทยให้เป็น “ศูนย์กลางการผลิตอาหารปลอดภัย” เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย และผลิตอาหารปลอดภัยป้อนโลก
โจทย์ใหม่ในเชิงนโยบาย ต้องไม่คิดแค่การทำให้ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น หรือการยกเลิกสารเคมีที่ใช้การปลูกพืช แต่ควรจะต้องคิดถึงภาพใหญ่ที่สำคัญไปกว่านั้นด้วย นั่นคือการยกระดับประเทศไทยให้เป็น “ศูนย์กลางการผลิตอาหารปลอดภัย”
เราจะเป็น “ศูนย์กลางการผลิตอาหารปลอดภัย” ของโลก เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย และเพื่อผลิตอาหารปลอดภัยป้อนโลก ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนฐานการผลิตสินค้าเกษตรแบบ commodity ที่ต้องผลิตมากๆ แต่ขายได้ราคาต่ำ มาเป็นอาหารปลอดภัย, อาหารออแกนิค ที่ผลิตน้อยแต่ขายได้ราคาดี สร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจากฐานราก สร้างความมั่นคั่งให้กับพี่น้องเกษตรกร
ดิฉันจึงเห็นด้วยกับการที่จะยกเลิกการใช้สารเคมีทางการเกษตร ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคและเกษตรกรเอง แต่ตามที่ดิฉันได้นำเสนอไปแล้วว่า “การยกเลิกการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายทางการเกษตร ต้องทำควบคู่กับมาตรการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรด้วย”
รัฐต้องทำให้พี่น้องเกษตรกรมีทางออกในการทำการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะถ้าห้ามใช้อย่างเดียวโดยไม่มีการแนะนำให้ความรู้แก่เกษตรกร และช่วยเหลือหาทางเลือกใหม่ในการกำจัดศัตรูพืชควบคู่กับการยกเลิกการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ก็จะทำให้มีการลักลอบขายสารเคมีในชื่ออื่นๆ แต่มีพิษเช่นกัน
ท้ายที่สุด จะส่งผลทำให้ไม่เกิดการเลิกใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพจริง และเกษตรกรเองอาจจะต้องใช้ต้นทุนซื้อสารเคมีเหล่านี้ในราคาแพงขึ้น เพราะเป็นการลักลอบขาย ลักลอบใช้แบบใต้ดิน
นอกจากพี่น้องเกษตรกรจะไม่สามารถเลิกใช้สารพิษเหล่านี้ได้จริง ก็จะต้องแบกรับต้นทุนทั้งในเรื่องสุขภาพ และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นแล้ว ผู้บริโภคเองก็ยังได้รับผลกระทบต่อสุขภาพต่อไป
“การแบนสารเคมีอันตรายทางการเกษตรอย่างเดียวจะไม่ช่วยให้ผู้บริโภคคนไทยปลอดภัยได้จริง หากไม่มีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรให้ผลิตอาหารโดยไม่ใช้สารเคมีเหล่านี้ได้อย่างแท้จริง”
สิ่งที่รัฐต้องเร่งทำในวันนี้ ก็คือ
-การสนับสนุนทุนในการใช้เครื่องมือทางการเกษตรและสารอินทรีย์ในการกำจัดศัตรูพืช
-การให้องค์ความรู้ในการกำจัดศัตรูพืช ทั้งแบบภูมิปัญญาไทยและการให้ความรู้ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ แก่เกษตรกร
-การสนับสนุนการวิจัยของนักวิชาการไทยในการพิจารณาสารอินทรีย์ต่างๆ ในการกำจัดศัตรูพืช รวมทั้งพัฒนาเครื่องจักรกลการเกษตร
-ควรให้ความรู้กับเกษตรกรให้เข้าใจการใช้สารเคมีทุกตัว (นอกจาก 3 ตัวที่แบน) ว่าจะต้องใช้อย่างไรจึงถูกต้องและปลอดภัยแก่ผู้บริโภคและตนเองได้อย่างไร
ดิฉันจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการหามาตรการในการช่วยสนับสนุนเกษตรกรให้สามารถเลิกใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้อย่างแท้จริงควบคู่ไปกับการประกาศแบนสารเคมี
“อย่าปล่อยให้การแบนสารเคมีเหล่านี้ ต้องสร้างภาระหนักให้เกษตรกร โดยเกษตรกรไม่มีทางเลือก และไม่สามารถเลิกการใช้สารเคมีได้จริง สุดท้ายการที่เราหวังให้เกิดผลดีกับสุขภาพของคนไทยก็จะไม่สำเร็จ” #เพื่อไทย #เพื่อเกษตรกรไทย #เลิกใช้สารเคมี #ต้องไม่สร้างภาระใหม่ให้เกษตรกร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี