“อนุทิน” บอกคนไทยอย่าตกใจ ผลกระทบจะเกิดกับสหรัฐฯเอง หลังตัดสิทธิจีเอสพี เพราะต้องจ่ายภาษีนำเข้ามากขึ้น ลั่นไม่ทบทวนมติแบนสารพิษ 3 ชนิด
เมื่อเวลา 10.15 น.วันที่ 28 ตุลาคม 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีสหรัฐอเมริกามีคำสั่งระงับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(จีเอสพี) กับสินค้าจากประเทศไทย เกี่ยวพันกับที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติยกเลิกการใช้สารพิษ 3 ชนิดหรือไม่ ว่า กระทรวงสาธารณสุขยังคงยืนยันที่จะไม่มีมติทบทวนในสิ่งที่ยกเลิกไปแล้ว และยืนยันว่าสารพิษ 3 ชนิดไม่มีประโยชน์ใดๆ เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกร
“การที่สหรัฐระงับจีเอสพีมันเป็นสิทธิของเขา ซึ่งในคำสั่งของประธานาธิบดีสหรัฐเขียนชัดเจนว่ายังไม่พอใจในเรื่องแรงงานของไทยที่ยังไม่มีมาตรฐาน ต้องไปดูว่าจริงหรือไม่ หากไม่จริงต้องโต้แย้งไป ส่วนผลกระทบต้องมาดูว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน เราเห็นจำนวนตัวเลขที่ออกมาอย่าเพิ่งไปตื่นเต้นตกใจว่าตายแล้วประเทศไทยตายแน่ แต่ต้องมีความเชื่อมั่นในสินค้าไทย เชื่อมั่นในความต้องการของตลาดโลก ขณะเดียวกัน หากกลัวว่าจะขาดดุลการค้า เราก็ลดการนำเข้าสินค้านั้นจากประเทศนั้นๆ จะทำให้ไม่ขาดดุลการค้า” นายอนุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีการบิดเบือนว่าสาเหตุที่สหรัฐระงับจีเอสพี เพราะไทยยกเลิกสารพิษ 3 ชนิด นายอนุทิน กล่าวว่า แน่นอน คนที่เสียหายจะบิดเบือนทุกเรื่อง โกหกทุกเรื่อง พาลทุกเรื่อง เรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกันก็เอามารวมกัน แต่เราต้องนิ่ง และต้องมั่นใจว่าสิ่งที่ทำถูกต้องแล้ว ต้องเดินไปบนถนนของเรา ให้รู้ไปสิว่าสินค้าไทยไม่ดี
“จริงๆ การระงับสิทธิจีเอสพีนี้ สุดท้ายคนที่จะได้รับผลกระทบ ตัวคนตัดสิทธิเองก็ไม่พ้น เพราะเขาต้องซื้อของเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากภาษีเพิ่มขึ้น เดี๋ยวเขาคงโวยวายกันเองในบ้านของเขาน่ะแหละ เราส่งของดีไปให้เขา ถ้าเขาจะตัดสิทธิก็เท่ากับว่าการบริโภคอาหารหรือต้นทุนของสินค้าที่ถูกตัดสิทธิไปมันจะเพิ่มมากขึ้นด้วย ของเราดีหรือเปล่าล่ะ ถ้าของดีก็ไม่ต้องไปกลัว” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า ทางสหรัฐฯอ้างผลการวิจัยขององค์การอนามัยโลก นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่อ้างผลวิจัย แต่เห็นคนที่ถูกลวก ถูกสารพิษ แทบเห็นกระดูก คนเป็นมะเร็ง กระทรวงสาธารณสุขมีข้อมูลการรักษาของโรคที่ติดมาจากสารพิษเหล่านี้เยอะแยะ ไม่เห็นจะต้องไปวิจัยอะไรเลย ไม่เช่นนั้นโรงพยาบาลจะขึ้นป้ายคัดค้านหรือ และที่ขึ้นป้ายไม่ใช่เกลียดสารพิษนี้ แต่เขาขี้เกียจรักษาคนพวกนี้แล้ว ไม่ไหวแล้ว ทำไมไม่หยุดใช้สารพิษเสียที ปล่อยให้เกษตรกรมาเป็นผู้รับเคราะห์ จะให้คนไทยรับประทานอาหารดีๆ และปลอดภัยไม่ได้หรือ
เมื่อถามว่า จะต้องส่งรายงานเหล่านี้ซัพพอร์ตให้กับ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อทำรายงานชี้แจงไปให้สหรัฐฯหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องส่งอะไร เราเป็นเมืองขึ้นใครเสียที่ไหน หน่วยงานใดมีหน้าที่ชี้แจงก็ชี้แจงไป เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง และคณะกรรมการวัตถุอันตรายถูกตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ ไม่ได้มาตามอารมณ์ หรือตั้งขึ้นมารองรับการแบนสารพิษเหล่านี้ เมื่อมีมติอย่างไรเท่ากับเป็นกฎหมาย แล้วอยู่ดีๆ พอเป็นมติไปแบบเอกฉันท์ ขาดลอยแบบนี้แล้วยังจะต้องแปลอีกหรือ ถ้าทำแบบนี้ไปแล้ว และบอกให้พลิกมติ บอกว่าเขาทำผิด แล้วจะมีคณะกรรมการไว้ทำไม ขวัญใจกำลังของคนที่มาเป็นกรรมการจะเป็นอย่างไร ข้าราชการเหล่านี้ไม่ได้อยู่ดีๆ เข้าไปโหวต แต่มีความคิดของตัวเอง ซึ่งดูมติของคณะกรรมการฯที่ออกมาก็เป็นคำตอบได้แล้วว่าทำถูกหรือทำผิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี