120สมาชิกแห่ยื่นลาออก
ทิ้งอนาคตใหม่
เหตุผู้นำไม่รักษาสัจจะ
อุดมการณ์สวนทางกัน
ธนาธรโวอีก6หมื่นยังอยู่
อดีตผู้สมัคร สส.-สมาชิกพรรคอนาคตใหม่รวม 120 คน แห่ยื่นใบลาออก กับ กกต.เหตุผู้นำไม่รักษาสัจจะ พรรคเปลี่ยนไปหลังเลือกตั้งอุดมการณ์สวนทางกัน ไม่มีต่อรองขอเก้าอี้ ด้าน “ธนาธร” ไม่หวั่นโวยังมีสมาชิกอีก 6 หมื่นคน คอยหนุน ขณะที่“ศรีสุวรรณ” จี้กกต.สอบ “ช่อ”พ่วง“ธนาธร-เมีย”บริจาคเงินขัดกม.ชี้โทษถึงขั้นยุบพรรค
เมื่อเวลา 11.30น.วันที่ 28ตุลาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนิพนธ์ แจ่มจำรัส อดีตผู้สมัคร สส.ชลบุรี เขต2 พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) พร้อมอดีตผู้สมัคร สส.พรรคอนค.จำนวน 30คนและสมาชิกพรรคกว่า 90คน ทยอยเข้ายื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคอนค.ต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง โดยนายนิพนธ์ กล่าวว่า เราต้องการจะสื่อว่า ความคิด อุดมการณ์ของเรากับพรรคอนค.มีความแตกต่างกัน แต่เรายังรัก ความปรารถนาดีต่อพรรคอนค.และศรัทธาในนโยบายของพรรค ไม่ได้มีความคิดร้ายต่อกัน เราไม่ได้มีการทำร้ายพรรค หรือทำให้พรรคสั่นสะเทือน
‘เราเข้าร่วมกับพรรคอนค.ในวันที่พรรคไม่ได้มีชื่อเสียง เป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งพรรค แต่วันนี้เป็นพรรคที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับจากภาคส่วนต่างๆ แต่เมื่อเรามีความคิดและอุดมการณ์ที่แตกต่างจากพรรคพวกเราจึงขอเดินออกมาและไม่มีอะไรค้างคาใจหรือบาดหมางกัน ส่วนเส้นทางทางการเมืองหลังจากนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองอื่นติดต่อมา พวกเราคงจะกลับบ้านตามเส้นทางชีวิตของแต่ละคน”นายนิพนธ์ กล่าว
สมาชิก’อนค.’ยื่นกกต.แห่ลาออก
เมื่อถามว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้ทางกลุ่มลาออก นายนิพนธ์ กล่าวว่า เรามีความคิดและอุดมการณ์ที่แตกต่างจากพรรคในปัจจุบัน ทั้งที่เราเข้ามาอย่างมีความตั้งใจจริงมุ่งหวังจะทำงานการเมืองให้เกิดประโยชน์ มีการสมัครสมาชิกพรรคตลอดชีพ แต่วันนี้เราจำเป็นต้องถอยออก เพราะพรรคก่อนเลือกตั้งกับหลังเลือกตั้งมีความแตกต่างกัน เมื่อถามอีกว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า ลาออกเพราะไม่ได้รับตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะสมาชิกทุกคนไม่มีใครต่อรองหรือเรียกร้องเรื่องนี้ แต่เราต้องการที่จะสื่อให้เห็นว่า ตรงนี้เป็นแค่ส่วนย่อยที่ทำให้เกิดปัญหา แต่เรื่องสัญญาและสัจจะของผู้นำนั้น เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเราไม่มีสัจจะในฐานะผู้นำแล้ว เราจะนำประชาชนทั้งประเทศให้ไปสู่จุดมุ่งหมายตามนโยบายได้อย่างไร ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องการต่อรองตำแหน่งแต่อย่างใด
ซัดปัญหา’ผู้นำ’ไม่รักษาความพูด
‘ในส่วนของการให้สัญญาผมเคยให้ข่าวหลายครั้งแล้วว่า การต่อรองตำแหน่งไม่ได้เกิดจากการที่พวกเราเรียกร้องหรือร้องขอ แต่เป็นสัญญาจากพรรคที่ให้สัญญาจากที่ประชุม เมื่อคำมั่นสัญญาต่างๆเหล่านั้น มีเรื่องอื่นทับถมขึ้นมาเรื่อยๆ เราจึงรู้สึกว่าผู้นำของดราไม่รักษาคำพูด เรื่องเล็กๆน้อยๆยังรักษาคำพูดไม่ได้แล้วจะไปทำนโยบายที่ลงไปสู่ประชาชนอีก 60ล้านคนได้อย่างไร’ นายนิพนธ์ กล่าว
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ใดที่ทำให้รู้สึกว่าพรรคอนาคตใหม่ก่อนเลือกตั้งกับหลังเลือกตั้งไม่เหมือนกัน นายนิพนธ์ กล่าวว่า เรื่องการอภิปรายงบประมาณ หรือตัวคนของพรรค หรือตัว ส.ส.ของพรรคที่ตกเป็นข่าว และวันนี้พรรคยังไปโจมตีผู้สมัคร ซึ่งตนมองว่าพรรคการเมืองเปรียบเสมือนพ่อแม่ สส.ก็เปรียบเสมือนลูก เมื่อลูกออกไปนอกบ้านแล้วคนในสังคมบอกว่า ลูกท่านสร้างความเดือดร้อน ท่านจะฟันธงว่า ลูกทำผิด หรือจะดึงลูกออกจากจุดขัดแย้งแล้วมาว่ากล่าวตักเตือนลูก ทำไมไม่ว่ากล่าวกันในพรรค ซึ่งทุกวันนี้ก็มีอยู่แล้วเรื่องกระแสการขับไล่ต่างๆมากมาย เมื่อถามว่า ทำไมถึงมาดำเนินการเรื่องนี้ในช่วงที่พรรคอนาคตใหม่อยู่ในช่วงขาลง นายนิพนธ์ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าเป็นช่วงขาลงของพรรค เพราะยังมีสมาชิกที่สนับสนุนพรรคและทางกลุ่มที่ลาออกก็ยังให้การสนับสนุนและเฝ้าดูการนำนโยบายลงไปสู่การปฏิบัติ
‘ธนาธร’ไม่สน-ยังมีสาวก6หมื่นคน
ด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนค.ให้สัมภาษณ์กรณีสมาชิกพรรคและอดีตผู้สมัคร สส.ไปยื่นใบลาออก ว่า เป็นสิทธิของสมาชิกทุกท่าน เรามองว่าไม่มีผลกระทบอะไรกับพรรค พรรค อนค.มีสมาชิก 6หมื่นคน ยืนยันที่จะเดินก้าวต่อไปข้างหน้าโดยให้ความสำคัญกับสมาชิก ให้สมาชิกมีบทบาท มีสิทธิ มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น เราไม่กังวลใจอะไร ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์พวกเราว่า เราจะสร้างพรรคที่ยึดโยงกับประชาชน ยึดโยงกับสมาชิกได้จริงหรือไม่ กรณีอดีตผู้สมัคร สส.รวมถึงสมาชิกท่านอื่นที่ไปลาออกจากสมาชิกพรรคถือเป็นกระบวนการตามปกติ ไม่ได้ทำให้พวกเราหวั่นไหวสั่นคลอน ขอเดินหน้าต่อ ให้เวลาพิสูจน์ว่า เราจะสร้างพรรคที่เข้มแข็งได้หรือไม่
ก่อนลต.เวลาน้อย-อุดมการณ์ไม่ตรง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนมีสมาชิกจำนวนมากไม่พอใจการบริหารของคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) นายธนาธร กล่าวว่า สมาชิกกี่คน 50คน ต้องเรียนอย่างนี้ พอเราเข้ามาทำการเมือง แน่นอนที่สุดตอนเลือกผู้สมัคร สส.เรามีเวลาสั้นมาก กว่าที่เราจะได้รับรองเป็นพรรคเดือนตุลาคม2561 เลือกตั้งมีนาคม2562 ใช้เวลาแค่ 2เดือน ในการคัดสรรผู้สมัคร กระบวนการที่สั้นทำให้เราไม่สามารถที่จะคัดกรองคนที่มีอุดมการณ์ คนที่มีหลักการ คนที่เชื่ออย่างพรรคได้ 100เปอร์เซ็นต์ มันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเมื่อเวลาเดินเข้ามา สถานการณ์และเวลาก็พิสูจน์คนว่า ใครยืนหยัดร่วมกับพรรคว่า ใครมีอุดมการณ์ตรงกับพรรค ไม่ใช่เรื่องแปลก คิดว่าทุกพรรคก็เป็นอย่างนี้ เมื่อกาลเวลาเดินผ่านไปก็มีคนเดินเข้าและมีคนเดินออกตามปกติของการเดินทาง สิ่งที่ตนยังยินดีคือ ทุกวันนี้ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ขอสมัครเป็นสมาชิกพรรค มีคนเป็นจำนวนมากอยากเข้ามาร่วมทำงานกับเรา เราไม่มองว่าเป็นปัญหาสำหรับการก้าวต่อไปของเรา”
ขอความเป็นธรรม-พรรคอื่นก็เป็น
เมื่อถามว่ามีการมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกระทบกับภาพลักษณ์ของพรรค นายธนาธร กล่าวว่า คงเป็นธรรมดา โดยเฉพาะในจังหวะที่พรรคอนาคตใหม่กำลังถูกผู้มีอำนาจตั้งใจจะทำร้าย ตั้งใจจะลดความน่าเชื่อถือของแกนนำพรรค ต้องการจะดิสเครดิตเรา เมื่อเกิดอะไรที่เป็นเรื่องเล็กน้อย ถามจริงถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นที่พรรคอื่นๆ จะเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ไหม ท่านลองคิดลองตัดสินเรื่องนี้ด้วยใจเป็นธรรม พรรคอื่นมีเหตุการณ์อย่างนี้ไหม ทุกท่านน่าจะรู้คำตอบอยู่ว่า พรรคไหนมีเหตุการณ์ความขัดแย้งภายในพรรคอย่างไรบ้าง พอพรรคอนค.มีปัญหาภายในก็ถูกนำมาจู่โจม ทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต ขอให้มองสถานการณ์การเมืองอย่างเป็นธรรม
ศรีสุวรรณชงสอบ’ช่อ’บริจาค1ล.
วันเดียวกัน สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นำโดย นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมฯเข้ายื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบกรณีการบริจาคเงินเข้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ของน.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่และกรรมการบริหารพรรคจำนวน 1 ล้านบาท เมื่อเดือนพฤศจิกายน2561 เนื่องจากเห็นว่าในการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินหนี้สินต่อปปช.ของ น.ส.พรรณิการ์ มีทรัพย์สินมีเงินฝากเพียงหลักหมื่น ดังนั้นการที่ผู้มีทรัพย์สินหนี้สินเล็กน้อยแค่นี้ แต่กลับมีเงินไปบริจาคให้1ล้านบาทมีข้อน่าสังเกตว่า เงินบริจาคดังกล่าวอาจไม่ใช่เงินส่วนตัว แต่เป็นเงินที่ได้มาจากผู้อื่น หรือได้มาโดยวิธีการอื่น จึงขอให้กกต.ดำเนินการสืบสวนหรือส่งเรื่องไปยังปปง.เพื่อดำเนินการสืบสวนเงินทางการเงินดังกล่าวได้มาด้วยวิธีการใด มีการเสียภาษีถูกต้องตามกฎหมายกำหนดหรือไม่
พ่วง’ธนาธร-เมีย’ผิดถึงยุบพรรค
นอกจากนี้ ขอให้ตรวจสอบการบริจาคเงินให้กับพรรคอนค.ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนค.ที่บริจาคเข้าพรรคช่วงเดือนตุลาคม61-มกราคม62 จำนวน 10ล้านบาทและนางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยา นายธนาธร บริจาค 7.2ล้านบาท เนื่องจากเห็นว่าบุคคลทั้งสองเป็นที่รับรู้กันในทางกฎหมายว่าเป็นสามีภรรยากัน เปรียบเสมือนเป็นบุคคลคนเดียวกัน ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ ในการทำนิติกรรมสัญญาที่มีผลผูกพันตามสัญญา จะต้องได้รับการยินยอมจากสามีหรือภรรยาเสียก่อน ดังนั้นการบริจาคเงินของบุคคลทั้งสองน่าจะถือว่าเป็นของบุคคลคนเดียวกัน แต่จะใช่หรือไม่เป็นข้อสงสัยที่กกต.ควรจะมีคำตอบ หากถือเป็นบุคคลเดียวกันการกระทำดังกล่าวก็จะถือว่าขัดต่อพรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง2560 มาตรา66 ที่กำหนดให้บุคคลสามารถบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองได้ไม่เกิน 10ล้านบาทต่อปีและห้างหุ้นส่วนบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองได้ไม่เกิน 5ล้านบาทต่อปีและอาจเป็นเหตุให้นำไปสู่การยุบพรรคการเมืองที่รับบริจาคนั้นได้
‘กรณีนี้เป็นประเด็นสำคัญที่อยากให้กกต.วินิจฉัยให้ชัดเจนว่าเป็นไปตามคำร้องหรือไม่ ถ้าไม่ได้เป็นไปตามคำร้อง บุคคลที่เป็นสามี ภรรยา หรือเครือญาตินามสกุลเดียวก็กันสามารถแยกบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองได้คนละไม่เกิน 10ล้านบาทต่อปีใช่หรือไม่’ นายศรีสุวรรณ กล่าว
พปชร.เปรียบ’ธนาธร’ไส้เดือน
ด้านนายสิระ เจนจาคะ สส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีพรรคอนาคตใหม่เสนอชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคอนค.ร่วมเป็นหนึ่งใน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พรบ.งบประมาณปี63 ในสัดส่วนพรรคอนค.ว่า ขอเรียกร้องให้ นายธนาธร ลาออกจากการเป็นกรรมาธิการชุดนี้ เนื่องจากหาก นายธนาธร ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ แต่ไม่สามารถลงมติในฐานะกมธ.ได้ นายธนาธร ควรจะพิจารณาตัวเองว่า ยังมีเกรียติและศักดิ์ศรีหรือไม่ในการนั่งเก้าอี้กมธ.ตนมองว่านอกจากจะไม่ได้ประโยชน์แล้ว ยังสิ้นเปลืองภาษีของประชาชนที่ต้องนำมาจ่ายค่าเบี้ยประชุมให้กับ นายธนาธร อีกด้วย
‘วันนี้สถานะของ นายธนาธร ไม่ต่างจากไส้เดือนที่มี 2เพศ ซึ่งถ้า นายธนาธน ยังอยากเรียกตัวเองว่ามนุษย์ มีเกรียติและศักดิ์ศรี ก็ควรยุติปัญหา อย่าให้ตัวเองเป็นตัวถ่วงพัฒนาประเทศ จะเอาอย่างไรเลือกเอาสักทางหนึ่ง หากยืนยันที่จะเป็น กมธ.ก็ลาออกจาก สส.ไป เพราะอาจเกิดเป็นปัญหาในอนาคตจนทำให้เศรษฐกิจชะงักจากการที่ พรบ.งบประมาณไม่ผ่านการอนุมัติจากสภาฯหรือไม่”นายสิระ กล่าว
สภาเล็งถกสถานะที่ปรึกษากมธ.
นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 เปิดเผยว่า การประชุมวันที่ 28ตุลาคมนี้ เป็นการพิจารณางบประมาณของกระทรวงพาณิชย์ สำหรับสถานะของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนค.ในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการ (กมธ.) ที่ศาลสั่งไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ สส.นายวิรัช กล่าวว่า หากดูเบื้องต้น นายธนาธร สามารถลงชื่อและร่วมออกความเห็นในที่ประชุมได้ ส่วนบทบาทอื่นๆต้องรอความชัดเจน โดยหลังจากการพิจารณางบประมาณกระทรวงพาณิชย์แล้ว ในช่วงเย็น นายอุตตม สาวนายน ประธานกรรมาธิการฯก็มาเป็นประธานที่ประชุม เพื่อหารือเรื่องนี้และเป็นหน้าที่ของประธานกรรมาธิการฯ ที่จะทำหนังสือหารือต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร หากต้องการให้วินิจฉัยสถานะของ นายธนาธร แต่ไม่สามารถตอบแทน นายอุตตม ได้ว่า จะตัดสินใจอย่างไร เพราะต้องหารือกันในที่ประชุม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี