"ณัฏฐพล"เบรกแต่งดำเคลื่อนไหว ชี้เป็นการปลุกระดมเพื่อสร้างความเสียหายให้กับศธ. ยืนยันโครงสร้างยังไม่สรุป หารือ"ดีอีเอส"เช็คคนปล่อยผังใหม่ศธ.ปลอม
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่จะมีกลุ่มคนแต่งดำมาประท้วงปรับโครงสร้างกระทรวงศึกษาฯ ว่า ตนไม่เข้าใจว่ากลุ่มผู้ประท้วง หรือต่อต้านเรื่องการปรับโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ ประท้วงเพื่ออะไร ทั้งที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่าจะปรับโครงสร้างในส่วนใดบ้าง อีกทั้งตนก็ยังไม่ได้ให้นโยบายกับคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ ว่าจะให้ทำงานในแนวทางไหน และคณะกรรมการฯ หรือจะปรับในแนวทางอย่างไร ดังนั้น คนที่ประท้วงจะทราบได้อย่างไรว่าจะมีผลกระทบ ส่วนที่มีการแชร์แผนผังโครงสร้าง ศธ.ใหม่ออกมานั้น ตนได้มีการหารือกับ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีมีการแชร์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแล้วว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง
"อยากให้หยุดการแชร์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เพราะคณะกรรมการปรับโครงสร้างฯ เองก็ยังไม่มีข้อสรุป และยืนยันว่าข้อมูลที่หลุดออกมาไม่ได้ออกมาจากผู้บริหาร ศธ.แน่นอน การเขียนชารต์ขึ้นมาแล้วคิดว่านั่นคือใช่ เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และในกลุ่มที่ออกมาเรียกร้องว่าผมจะยุบอะไร ในกลุ่มนั้นผมบอกตรงๆ ว่า ผมกำลังดูว่าผมจะทำอย่างไร ให้ขยายวงกว้างเพื่อจะให้ทำงานได้สะดวกขึ้น และข้อมูลที่ออกมาไม่จริงเลย เป็นการปลุกระดมขึ้นมาเพื่อสร้างความเสียหายให้กับ ศธ. ผมจึงอยากให้ยุติ ซึ่งเป้าหมายในการปรับโครงสร้างกระทรวง ผมเคยพูดไปแล้วว่าหากการทำงานยังไม่มีความเข้มข้นหรือประสิทธิภาพเต็มที่ มีความทับซ้อนกันอยู่ เราใน ศธ.ก็ต้องมาดูกัน และผมพร้อมรับความคิดเห็นจากทุกๆ คน ทุกๆ ฝ่าย ซึ่งก็ได้รับฟังความคิดเห็นมาพอสมควรแล้วจากเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ผมก็เห็นแนวทางต่างๆ ชัดเจนว่าน่าจะเดินไปในรูปแบบไหน เพียงแต่ต้องให้คณะกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิเข้ามาให้ข้อมูล และทำให้กระบวนการครบถ้วนและถูกต้องตามกฏหมายทุกอย่าง ดังนั้น การที่ออกมาประท้วงผมคิดว่าอาจจะจิตนาการการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งไม่ถูกต้องกับแนวทางที่กระทรวงศึกษาฯ อยากจะทำ เพราะทุกอย่างที่อยากจะทำคือผลประโยชน์ของเด็ก และเยาวชน และองค์กรเองในระยะยาว" รมว.ศธ.กล่าว และว่า
ส่วนที่จะมีคนแต่งดำออกมาเคลื่อนไหวไปที่รัฐสภาในวันพรุ่งนี้นั้น ตนก็ไม่อยากให้ทำ และเท่าที่ดูคนที่เคลื่อนไหว น่าจะเป็นคนที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างกระทรวงฯ ด้วยซ้ำ และการปรับโครงสร้าง เราก็ยังไม่ได้ยืนยันเลยว่าเราจะปรับไปในแนวทางไหน เผื่อเราไม่ฟังความคิดเห็นจากคนเกี่ยวข้องใน ศธ.ก่อน เราจะลดปัญหาได้อย่างไร ซึ่งก็ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้นเลย ต้องให้ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ ในกระทรวงเขาเสนอแนะมาก่อน ถ้ามีโจทย์มาว่ายังมีความทับซ้อนอยู่ ลดความทับซ้อน ลดค่าใช้จ่ายโดยที่ไม่มีผลกระทบกับคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งน่าจะเป็นแบบนี้ แบบหนึ่ง แบบสอง แบบสาม ดังนั้น ตอนนี้ยังไม่ถึงหนึ่ง สอง สามเลย ซึ่งในเรื่องนี้ ตนก็หวังว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นเรื่องการเมืองภายในกระทรวง แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีผลกระทบจากการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เลยทำให้คนมีความกังวลว่าจะมีผลกระทบกับตัวเอง ซึ่งตนยืนยันตั้งแต่ต้นที่มารับตำแหน่งแล้วว่า ทุกอย่างทำ จะพยายามให้มีผลกระทบกับคนที่เกี่ยวข้องน้อยที่สุด ในเรื่องของผลประโยชน ที่จะได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้น หรือต่างๆ และในกระทรวงศึกษาฯเองก็มีกลไกลบริหารจัดการตรงนั้นได้แน่นอน ส่วนความเหมาะสมก็แล้วแต่ที่เราวาง ซึ่ง ครม.ก็มีแนวทางชัดเจนว่าอยากให้มีการพัฒนาปฏิรูปการศึกษาไปในแนวทางที่ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น และดิจิทัลมากขึ้น แปลว่าองคาพยพของ ศธ.ทั้งผู้บริหาร ศธ.ครู และทุกคนที่เกี่ยงข้อง ก็ต้องมีเรื่องเทคโนโลยีมากขึ้นและดิจิทัลมาเกี่ยวข้องมากขึ้น ตรงนี้ก็จะเป็นตัวชี้วัดในการเลื่อนขั้น ซึ่งตรงนี้ก็ต้องใช้เวลา
นายณัฏฐพล กล่าวด้วยว่า ส่วนงบประมาณค่าจ้างครู ธุรการ ที่ถูกตัดในการประชุมสภาฯวาระแรกนั้น ตนก็ต้องไปดูงบภายในศธ.และดูข้อกฏหมายว่าจะสามารถนำจากส่วนใดมาใช้แทนได้ ยืนยันว่าจะไม่มีผลกระทบกับลูกจ้างชั่วคราวหรือลูกจ้างที่อยู่ในระบบของ ศธ.อย่างแน่นอน ส่วนงบที่เสนอไปปี 2563 หากตนดูแล้วว่าไม่เหมาะสมและคุ้มค่ากับการจะนำไปใช้ตนก็พร้อมที่จะส่งคืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี