พปชร.เอาคืน‘เสรีพิศุทธ์’
ร้องกกต.สอบ
ส่อกระทำขัดรัฐธรรมนูญ
ปมเรียกบิ๊กตู่แจงถวายสัตย์
‘พยม’สุดทนไขก๊อก‘กมธ.’
ซัดจ้องเล่นงานแต่ฝ่ายรบ.
‘สิระ’จ่อเสียบ-ลั่นพร้อมชน
ประธานสภาฯ “ชวน” สั่งเลขาฯสภา เข้มงวดตรวจเข้า-ออก ในรัฐสภา ขณะ “พยม พรหมเพชร” สุดทนไขก๊อกพ้น กมธ.ป.ป.ช.อึดอัดใจนั่งแถลงอัดรัฐบาล จวก “เสรีพิศุทธ์” ใช้ตำแหน่ง ปธ.กมธ.ดิสเครดิต รบ. เล่นงาน “นายกฯ-บิ๊กป้อม” ส่วน“สิระ” ยันพร้อมเสียบ เดินหน้าชน ขณะที่ลูกพรรค “พปชร.” บุกร้อง กกต.สอบ “เสรีพิศุทธ์”ใช้อำนาจเหนือ รธน. ปมเรียก “บิ๊กตู่” แจงถวายสัตย์ฯ หากผิดให้ส่งศาล รธน.สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
เมื่อวันที่ 1พฤศจิกายน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ได้หารือกับ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบอาคารรัฐสภา ถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยและได้กำชับ ให้เข้มงวดตรวจตราการเข้าออกบริเวณโดยรอบรัฐสภาโดยไม่ต้องเกรงใจว่า เป็นคนของใคร ขอให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบ ซึ่งยอมรับว่า คงไม่สามารถมีมาตรการดูแลได้เท่าทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากเครื่องมือและเจ้าหน้าที่มีจำกัด รวมทั้งมีคนเข้า-ออกมากโดยเฉพาะในช่วงนี้ ซึ่งมีการพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณปี2563 ในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) แต่ก็ได้กำชับไปว่า ให้ดูแลอย่างเคร่งครัด ขาดเหลืออะไรก็ขอให้แจ้งมา
‘ชวน’สั่งเข้มงวดเข้า-ออกสภาฯ
“มีรายงานเรื่องการใช้ สติ๊กเกอร์ จอดรถปลอมหรือบัตรปลอมและมีการนำสติ๊กเกอร์จอดรถไปขาย ซึ่งเป็นผลจากอดีต จึงสั่งยกเครื่องการทำบัตรและมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด หากพบบัตรปลอมอีก ต้องไม่ปล่อยไว้ จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ผมยืนยันว่าเครื่องตรวจวัตถุระเบิดของสภาฯยังใช้งานได้ดี ไม่มีปัญหา แต่ไม่ใช่เครื่องตรวจสารตั้งต้นวัตถุระเบิด แต่ไม่ควรเอาเรื่องเครื่องมือและปริมาณคนมาเป็นข้ออ้าง แต่จะต้องบริหารจัดการดูแลให้เกิดความเรียบร้อยให้ได้”
ส่วนกรณี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นำวัตถุระเบิดเข้าสภาจะขอเข้าพบนั้น นายชวน ยืนยันว่า พร้อมให้เข้าพบเสมอ แต่ตอนนี้ภารกิจยังไม่ตรงกัน ส่วนตัวไม่มีปัญหากับ นายมงคลกิตติ์ แต่กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ไม่มีสิทธิ์ไปยกเว้นกฎหมายได้ แต่ต้องดูว่า เข้าข่ายความผิดหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่คณะกรรมการฝ่ายกฎหมายจะต้องดำเนินการ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการรายงานกลับมา
‘เต้’พร้อมแจงราคาพระกับปปช.
ขณะที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เตรียมเรียกให้เข้าชี้เเจงรายการพระเครื่องชื่อดัง ที่ถูกตั้งข้อสังเกตเป็นการตั้งราคาทรัพย์สินสูงเกินจริงในวันที่ 7พฤศจิกายนว่า ความจริงหนังสือที่ปปช.ส่งมานั้น ส่งมาที่ตนนานเเล้ว แต่เพิ่งจะปรากฎเป็นข่าว อย่างไรก็ตาม ตนจะไปชี้เเจงปปช.แน่นอน ทั้งนี้เรื่องจะตรวจสอบราคาพระเครื่องนั้น ปปช.ไม่มีระเบียบจะมาตรวจสอบราคากลางว่า เท่านั้นหรือเท่านี้ เพราะมูลค่าพระขึ้นอยู่กับจิตใจและความนับถือ เช่น การซื้อขายที่ดิน เเม้จะมีราคาประเมินก็จริง แต่เวลาซื้อขายก็สูงตามความพอใจ ดังนั้นประเด็นจึงอยู่ที่ว่า เมื่อซื้อขายเเล้วต้องมีที่มาที่ไปและเสียภาษีหรือไม่ ปปช.ไม่มีอำนาจที่จะบอกว่า อันไหนราคาเท่าไหร่
ส่วนกรณีจะขอเข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เพื่อขอโทษกรณีที่นำสารตั้งต้นระเบิดเข้าสภาฯ นายมงคลกิตติ์ ว่า วันนี้ นายชวน ติดภารกิจนอกสภาฯตนจึงไม่ได้เข้าพบ แต่ตั้งใจอยู่แล้วว่า อย่างไรก็ต้องขอเข้าพบในวันเวลาราชการ
สภาฯจ่อถกญัตติแก้ไขรธน.6พย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้นัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่2) ในวันที่ 6พฤศจิกายน ทั้งนี้ ระเบียบวาระนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีกระทู้ถามทั่วไปจำนวน 3เรื่อง กระทู้ถามแยกเฉพาะ 1เรื่อง โดยมีเรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุมจำนวน 10 เรื่องหนึ่งในนั้น คือ การรับทราบรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ ตามมาตรา270 ของรัฐธรรมนูญ (เดือนเม.ย.-มิ.ย.2562) นอกจากนี้ ยังมีเรื่องด่วน17เรื่อง อาทิ ญัตติด่วนเรื่องให้สภาผู้แทนราษฎรตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและการใช้อำนาจของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติตาม มาตรา44 ซึ่งนายปิยบุตร แสงกนกกุล สส.บัญชีรายชื่อและพรรคอนาคตใหม่กับคณะเป็นผู้เสนอและญัตติเรื่องขอให้สภาฯตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ที่ นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และนายปิยบุตร เป็นผู้เสนอ
‘พยม’สุดเอือมไขก๊อกพ้นกมธ.ปปช.
ด้าน นายพยม พรหมเพชร สส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะกรรมาธิการ(กมธ.)การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์หน้าตนจะยื่นหนังสือขอลาออกจากกมธ.ชุดดังกล่าว เนื่องจากรู้สึกอึดอัดใจในการทำหน้าที่ โดยเฉพาะการที่ต้องทำงานร่วมกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ในฐานะประธานกมธ.ฯซึ่งตนยังมีฐานะเป็นโฆษกกมธ.ฯที่จะต้องรับผิดชอบในการลงมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ซึ่งก่อให้เกิดความรู้สึกอึดอัดใจ เพราะต้องยอมรับว่าตนคือ ส.ส.พรรคพปชร.ที่เชื่อมั่นในการเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่มาวันนี้จะให้ตนแถลงข่าวเพื่อดิสเครดิต พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาล ตนทำไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นก็คงเสียคน ตนได้พูดคุยกับทางพรรคพ ปชร.แล้ว ซึ่งพรรคจะให้ผู้ที่มีความเหมาะสมเข้าไปนั่งในกมธ.ชุดนี้แทน เพราะตนระบุเหตุผลไปว่า ไม่สามารถทำงานร่วมกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้จริงๆ
ซัด‘เสรีพิสุทธ์’จ้องดิสเครดิต รบ.
นายพยม กล่าวอีกว่า การเข้าร่วมประชุมในแต่ละครั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่เคยคุมการประชุมให้อยู่ในวาระประชุม โดยไม่สนใจนประเด็นใหม่ๆ หรือเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน มุ่งเน้นแต่ต้องการหาประเด็นจาก พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เช่นล่าสุดจะรื้อคดีนาฬิกาหรูขึ้นมาพิจารณาใหม่ ซึ่งตนมองว่า เรื่องดังกล่าวจบสิ้นกระบวนการพิจารณาไปแล้ว ไม่เห็นประโยชน์ที่ต้องรื้อเรื่องนี้ขึ้นมาอีก เพราะเป็นการทำงานที่ถอยหลังลงคลอง สิ้นเปลืองเบี้ยประชุมที่มาจากภาษีประชาชน
“ผมไม่เคยมีปัญหากับการทำหน้าที่กมธ.ในฐานะสส.ฝ่ายรัฐบาล หากเรื่องที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หยิบยกขึ้นมาพิจารณาเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ผมพร้อมที่จะทำ แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ใช้ กมธ.ฯเป็นเครื่องมือเพื่อดิสเครดิต พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาล’ นายพยม กล่าว เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐจะให้ใครมาทำหน้าที่ในกรรมาธิการชุดนี้แทน นายพยม กล่าวว่า จากการพูดคุยเบื้องต้นน่าจะเป็น นายสิระ เจนจาคะ สส.กทม.พรรค พปชร.เนื่องจาก นายสิระ เป็นคนกล้าสู้ กล้าชน น่าจะมีความเหมาะสมมากกว่าตน
‘สิระ’พปชร.พร้อมนั่งเก้าอี้แทน
ขณะที่ นายสิระ เจนจาคะ สส.กทม.พรรค พปชร.กล่าวถึงกรณีพรรค พปชร.จะเสนอชื่อไปทำหน้าที่ใน กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรแทน นายพยม พรหมเพชร สส.สงขลา ว่า ตนได้พูดคุยกับ นายพยม ซึ่ง นายพยม ได้เปรยกับตนหลายครั้งแล้วว่า อึดอัดใจที่ต้องเข้าร่วมประชุมกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ซึ่งตนเข้าใจความรู้สึกดี จึงได้แจ้งให้พรรคทราบ คงต้องรอให้พรรคมีมติออกมาก่อนว่า จะให้ตนไปทำหน้าที่แทนหรือไม่
ลั่นขอชนการกระทำที่ไม่ถูกต้อง
‘การไปทำหน้าที่แทนผมไม่ได้หวังจะเข้าไปเป็นศัตรู หรือขวางการทำหน้าที่ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หวังเพียงจะให้กมธ.ฯชุดนี้ ใช้เวทีสภาฯไปในทางที่ถูกที่ควร ใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ให้คุ้มกับภาษีของประชาชนที่จ่ายเบี้ยประชุม ไม่ใช่ใช้ตำแหน่งประธานกมธ.ฯมาทำเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง อยากฝากไปถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หากยังใช้กมธ.ฯเป็นเครื่องมือทางการเมือง โดยไม่คิดจะทำเรื่องอื่นที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ คอยจ้องแต่จะทำลาย พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร เชื่อว่าคงมี สส.ในกมธ.นี้อีกหลายท่านที่ไม่อยากทำงานร่วมกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพราะใครก็ย่อมกลัวติดคุกติดตะราง จากการทำเรื่องที่ไม่ถูกต้องและผมจะไม่ยอมปล่อยผ่านในเรื่องที่ไม่ถูกต้องเช่นกัน’นายสิระ กล่าว
พปชร.เอาคืน ร้องกกต.สอบ เสรีฯ
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้ายื่นคำร้องต่อกกต.เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทยและประธานกมธ.รป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ กรณีกระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากการให้สัมภาษณ์โดยใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม ซึ่งตนเห็นว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กระทำการนำสถาบันพระมหากษัตริย์มายุ่งเกี่ยวกับการเมืองและกระทำการที่ขัดต่อพระบรมราชโองการ รวมทั้งกระทำการที่นอกเหนือจากที่กฎหมายและรัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้ จึงอยากให้กกต.เรียก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มาชี้แจงว่ามีการกล่าวถ้อยคำดังกล่าวหรือไม่ หากเป็นจริงขอให้ กกต.พิจารณาวินิจฉัยว่า เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ แล้วเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพื่อสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่
จ่อชงผู้ตรวจฯปมเรียก‘ตู่-ป้อม’สอบ
นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้า ตนจะยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงกรณี กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ เรียก พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร เข้าชี้แจงในประเด็นกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณ และการเสนอร่าง พรบ.งบประมาณฯว่า สามารถกระทำได้หรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ประเด็นดังกล่าวมีความเห็นแตกต่างออกเป็น 2 ฝ่ายว่าสามารถกระทำได้หรือไม่ จึงอยากให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบและแสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความชัดเจน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี