ลอบฝัง90กิโลดักคอสะพาน/รองผกก.รือเสาะ-ลูกน้องพลีชีพ
บึ้ม!ตร.แหลก3ศพ
สิ้นโปลิศน้ำดีขันอาสาลงใต้
สมช.แย้มทีมงานบินถกBRN
เชิญผอ.สันติวิธีพระปกเกล้าฯ
จากกรณีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) นัดเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็นในวันที่ 28มีนาคมนี้ เพื่อหวังสร้างสันติภาพให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่เหตุร้ายรายวันยังไม่มีวี่แววจะลดลง
โดยเมื่อเวลา 10.30น.วันที่ 15มีนาคม พ.ต.ต.หมัดอุเส็น เหมาะสนิ สารวัตรเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายวางระเบิดรถยนต์สายตรวจ สภ.รือเสาะ บริเวณคอสะพานข้ามคลองบ้านปราลี ม.10 ต.รือเสาะ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบพบว่า บริเวณคอสะพานมีหลุมลึก 1.90 เมตร กว้าง 3เมตร มีเศษซากชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายใส่ไว้ในถังแก๊สหุ้มต้มหนัก 90ก.ก.จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ที่ลากสายไฟไปในพงหญ้ารกทึบริมคลอง 200เมตร ในคลองพบซากรถยนต์กระบะโตโยต้า สีเลือดหมู ทะเบียน ฒง-7797 กทม.โดยโผล่เฉพาะล้อหน้าลอยชี้ฟ้า ยังพบชิ้นเนื้อมนุษย์ตกกระจายเกลื่อนรัศมีกว่า 50เมตร บางส่วนตกอยู่ในน้ำและยอดต้นไม้ริมทาง
บึ้ม90กก.ฆ่ารองผกก.-2ลูกน้อง
ต่อมา พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบช.ศชต.,พล.ต.พิสิทธิ์ สิทธิสาร ผบ.ฉก.นราธิวาสและ พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สส.ภ.จ.นราธิวาส เดินทางมาติดตามสถานการณ์ พร้อมประสานไปยัง อบต.รือเสาะขอสนับสนุนรถกระเช้ามายกซากรถยนต์สายตรวจขึ้นจากน้ำ รวมทั้งกระจายกันเก็บเศษซากชิ้นส่วนตำรวจทั้ง 3นายและหลักฐานต่างๆในที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลากว่า 4ชั่วโมง ทั้งนี้ผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย 1.พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วงศ์พรหมเมศร์ รอง ผกก.ป.สภ.รือเสาะ อายุ 49ปี 2.ส.ต.อ.ปิยะ ภูพันเว่อ อายุ 34ปี พลขับ 3.ส.ต.ท.สุเวส จันทรังษี อายุ 30ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.รือเสาะ
สยองทั้งรถทั้งคนกระจายเป็นชิ้น
จากการสอบสวนนายอับดุลเลาะ สือลี ผู้ใหญ่บ้านหมู่4 ต.รือเสาะ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถยนต์ตามหลังรถ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ ออกมาจากร่วมงานมอบวุฒิบัตรให้บัณฑิตน้อยโรงเรียนบ้านรือเสาะ เมื่อใกล้ถึงที่เกิดเหตุมีคนโทรศัพท์มาหาตน จึงหยุดรถรับโทรศัพท์ แต่รถ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ ยังวิ่งห่างจากตนไป 50เมตร เมื่อถึงคอสะพานคนร้ายจุดชนวนระเบิดที่ฝังไว้เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ขณะที่รถ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ ขับผ่าน ตนถึงกับตะลึงเมื่อเห็นรถ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ ถูกแรงอัดระเบิดกระจายเป็นชิ้นๆ คลุกเคล้ากับอวัยวะมนุษย์ลอยตกลงในคลอง
ปิดตำนานเจ้าของฉายา”ชุมแพ”
สำหรับ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วงศ์พรหมเมศร์ อายุ 49ปี หรือ“ท่านชุมแพ” จากละครฮิตเรื่องชุมแพ (หนังบู๊) ทางสถานีโทรทัศน์ทีวีสีช่อง7 ซึ่งชาวบ้านให้ฉายาสมัยที่ดำรงตำแหน่ง สวป สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เมื่อปี2550 เป็นชาว จ.เชียงใหม่ จบการศึกษาช่างก่อสร้างอุเทนถวายและมหาวิทยาลัยรามคำแหง หลังจากนั้นรับราชการนักพัฒนาชุมชน สำนักงานเขตดุสิตและเจ้าพนักงานปกครอง4 สำนักงานเขตบางซื่อ กทม.ต่อมา ลาออกเข้าสมัครสอบตำรวจและรับราชการตำรวจครั้งแรกเมื่อปี2533 เป็นตำรวจผู้กล้าอาสาลงดับไฟใต้ มุ่งมั่นปราบผู้ก่อเหตุไม่สงบ โดยไม่มุ่งหวังลาภยศตำแหน่งชื่อเสียง สมัยที่เป็น สว.สืบสวน สตม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยอมทิ้งเก้าอี้ทอง ลงไปเป็น สวป.สภ.ศรีสาคร เพราะต้องการจับฆาตกรฆ่า”ครูจูหลิง ปงกันมูล”โดยตั้งปณิธานว่า หากไม่สำเร็จจะไม่ออกจากนอกพื้นที่ กระทั่งปัจจุบันมาเป็น รอง ผกก.ป.สภ.รือเสาะ เมื่อวันที่10เมษายน2555 มีเกียรติบัตรเป็นรตำรวจดีเด่น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สายสืบสวนปราบปราม เป็นนักยิงปืนเล็กยาวขั้นเชี่ยวชาญหลักสูตรนาวิกโยธินและนักดาบสำนักดาบพุทไธสวรรค์
ผบ.ตร.กำชับทำงานเข้มงวด
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.กล่าวถึงเหตุคนร้ายกดระเบิดรถตำรวจ สภ.รือเสาะ เสียชีวิต 3นาย ว่า ได้รับรายงานแล้ว ซึ่งตนกำชับให้ฝ่ายปฏิบัติเพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติงานและปรับแผนไปตามจังหวะของพื้นที่ที่เป็นพื้นที่บังคับ สำหรับตำรวจที่เสียชีวิต 3นาย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จะเบิกเงินสวัสดิการให้ทันทีและจะนำเครื่องบินไปรับศพมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด โดยตนจะเดินทางไปร่วมรดน้ำศพด้วย
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานเปิดงาน “รถไฟสายความสุข...เศรษฐกิจใหม่จากรางสู่เมือง”ถึงกรณีเกิดเหตุวางระเบิดขบวนรถตำรวจ สภ.รือเสาะ ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 3นาย ว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้รายงานเรื่องดังกล่าวแล้วและพล.ต.อ.อดุลย์ จะลงไปตรวจสอบสถานการณ์พื้นที่ด้วยตนเอง
ภราดรยันไม่มีวาดะห์ถกBRN
ด้าน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการไปเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็นที่ประเทศมาเลเซีย วันที่ 28มีนาคม ว่า รายชื่อ 15คนของแต่ละฝ่ายที่จะมาคุยนั้น สัปดาห์หน้าจึงจะมีความชัดเจนว่า มีใครบ้าง ส่วนตัวแทนของไทยนั้น ไม่มีกลุ่มวาดะห์ร่วมแน่ แต่จะมีตัวแทนภาคส่วนต่างๆร่วมไป คือ ประชาชน นักวิชาการและนักการศาสนา ส่วนกรณีมีข่าวว่ากลุ่มอื่นๆอีก 9กลุ่มจะร่วมพูดคุยด้วยนั้น จะคุยทั้งหมดในวันนั้นหรือคุยกันกับกลุ่มอื่นในวันหลังก็ต้องรอสัปดาห์หน้าก่อน แต่หลักการนั้น กลุ่มบีอาร์เอ็นใหญ่สุดและกลุ่มนี้ต้องประสานกลุ่มอื่นๆหากกลุ่มอื่นจะร่วมก็ยินดี โดยทราบว่า กลุ่มอื่นไม่มีกำลัง
เลขาธิการ สมช.กล่าวว่า กรณีมีกระแสข่าวว่า นายฮัดซัน ตอยิบ แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นรู้จักแกนนำกลุ่มวาดะห์ที่อาจรู้ความเคลื่อนไหวของไทยก่อนนั้น ปฏิเสธไม่ได้ในเรื่องนี้ แม้บางฝ่ายมองว่าข้อมูลไทยอาจรั่วก่อนไปคุยกันนั้น ขอเรียนว่า เมื่อคุยกันครั้งนี้แกนนำก็ต้องไปหารือสมาชิกแล้วค่อยมาคุยกันอีกในคราวหน้า ตอนนี้อยู่ในขั้นผูกมิตร แล้วคราวหน้าค่อยๆมาคุยกันในขั้นตอนอื่นๆ
ส่วนการไปพบ นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่เกาะลังกาวี ในวันเดียวกันนั้นเป็นหน้าที่ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในด้านร่วมพัฒนาพื้นที่ของ 2ประเทศ แต่ภารกิจคณะของตนจะไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นที่นัดหมายไว้
เชิญผอ.สันติวิธีพระปกเกล้าร่วม
ต่อมา พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร กล่าวถึงกรณีเชิญตัวแทนสภาบันพระปกเกล้ามาร่วมเป็นคณะทำงานแก้ปัญหาชายแดนใต้ ว่า ตนขอให้ พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธี สถาบันพระปกเกล้า มาร่วมอยู่ในคณะทำงานชุดใหญ่ เพื่อกำหนดทิศทางพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ส่วนจะเป็น 1ใน 15คน ที่จะเดินทางไปวันที่ 28มีนาคมหรือไม่นั้น ในหลักการแล้ว สมช.ต้องดูจากหลายที่ ซึ่งสถาบันพระปกเกล้าอยู่ในบัญชีที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่ง พล.อ.เอกชัย มีความชำนาญและได้ให้แนวทางทฤษฎีที่ใช้กับหลายที่ ซึ่งเป็นตัวแบบมาด้วย ตอนนี้เรามีหลายตัวแบบที่กำลังพิจารณา อาทิ ในกระบวนพีช ทอลค์และพีช ไออาลอคและมีโรดแมปมาให้ด้วย แต่ต้องนำมาหารือกับคณะทำงานอีกครั้ง เพราะมีอีก 2-3ตัวแบบ ก็จะพิจารณากันต่อไป นอกจากสถาบันพระปกเกล้าแล้วยังมีภาคประชาสังคมและประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งนักวิชาการในพื้นที่ด้วย
ปชป.หวั่นสมช.ไปถกผิดคน
นายอันวาร์ สาและ สส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเจรจากับกลุ่มอีอาร์เอ็นว่า การแก้ปัญหาควรรู้รากฐาน ไม่อย่างนั้นจะแก้ไม่ได้ ปัญหาที่เกิดขึ้นยังไม่ทราบว่า รบกับฝ่ายใด แม้ นายฮัสซัน ตอยิบ เป็นกลุ่มบีอาร์เอ็นจริง แต่เป็นแกนนำในอดีตและบทบาทก่อเหตุในพื้นที่นั้นควรถามฝ่ายความมั่นคงด้วยว่า มาจากกลุ่มใด เพราะการก่อเหตุมี 4กลุ่ม คือ 1.กลุ่มอุดมการณ์ โดยมีบีอาร์เอ็นและเก้ากลุ่มที่อ้างว่าจะขอร่วมพูดคุยกับสมช. 2.กลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐที่ประพฤติไม่เหมาะสม 3.กลุ่มธุรกิจผิดกฎหมายและ4.กลุ่มอาชญากรรมในพื้นที่ การแก้ปัญหาจึงควรชี้แจงว่า ปัญหาใน 4กลุ่มที่ตนระบุนั้น จะแก้ไขอย่างไร รัฐบาลแยกได้หรือไม่ว่า 4กลุ่มนี้มีส่วนเกี่ยวกับสถานการณ์กลุ่มละกี่เปอร์เซ็นต์และควรให้น้ำหนักกับกลุ่มใดมากที่สุดและควรตอบโจทย์จากประชาชนและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ว่า ต้องการอะไร ไม่ใช่มาจากนโยบายข้างบน
สภาประชาสังคมใต้หนุนคุย
นายประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ ประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้ ออกแถลงการณ์ฉบับที่8 สนับสนุนการลงนามแสดงเจตนารมณ์เพื่อริเริ่มกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพระหว่างเลขาธิการสมช.กับบีอาร์เอ็น เพราะนับเป็นการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมที่สุดของรัฐบาลเกี่ยวสันติภาพในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งทางสภาประชาสังคมชายแดนใต้มีมติสนับสนุนกระบวนการสันติภาพดังกล่าวอย่างเต็มที่และขอเรียกร้องให้ประชาติไทยทุกหมู่เหล่า ตลอดจนกลุ่มพลังทางสังคมทุกภาคส่วนสนับสนุนเจตนารมณ์ที่สร้างสรรค์โดยพร้อมเพรียงกัน
นักวิชาการชี้อย่าหลงประเด็น
ผู้ช่วยศาสตราจารย์อับดุลรอซะ วรรณอาลี รองคณะบดี คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ราชภัฏยะลา เปิดเผยว่า ขอแนะนำว่า ควรจะเข้าใจพื้นฐานปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนว่า คืออะไร นั่นคือเกิดจากความไม่เป็นธรรม จะเห็นว่าหลายเหตุการณ์ สิ่งที่ทำให้เกิดการต่อสู้ เกิดการรวมกลุ่ม เกิดการจับอาวุธนั้น เพราะต้องการเรียกร้องความยุติธรรม ฉะนั้นกรอบของการพูดคุยจึงจะต้องตีโจทย์เหล่านี้ให้แตก ที่เป็นห่วงคือ การประโคมข่าวเรื่องนครรัฐปัตตานี หรือรัฐปัตตานี ถ้าเอาประเด็นนี้เป็นตัวตั้งเชื่อว่า การพูดคุยไม่ประสบผลสำเร็จและศัตรูของรัฐบาลจะเพิ่มขึ้น คือพี่น้องร่วมชาติจะไม่ยอมและที่สำคัญคือ ผิดรัฐธรรมนูญ ชาวบ้านในพื้นที่ไม่สนใจชื่อพวกนี้ เพราะกลไกของรัฐไม่ได้ถูกเปลี่ยนให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนในพื้นที่ เข้าสนใจอย่างเดียวว่า หลังพูดคุยแล้วจะมีมิติอะไรของการเปลี่ยนแปลงบ้าง
กสม.วอนยุติใช้ความรุนแรง
วันเดียวกัน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติใช้ความรุนแรงที่มีผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ โปรดช่วยสอดส่อง ดูแลและป้องกันมิให้เกิดเหตุรุนแรง ตลอดจนร่วมกันประณามการกระทำที่รุนแรงทุกรูปแบบ เพราะการกระทำดังกล่าวถือว่า ไม่มีความชอบธรรม เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ละเมิดต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย ละเมิดต่อสิทธิของบุคคลในทรัพย์สินและขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
สงขลารปภ.เข้มก่อนถกBRN
ส่วนบรรยากาศในพื้นที่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ยังคงวางกำลังคุมเข้มรักษาความสงบเรียบร้อย ป้องกันการลักลอบเข้ามาก่อเหตุเพื่อตอบโต้เชิงสัญลักษณ์ ก่อนจะมีการเจรจากับขบวนการบีอาร์เอ็น โดยเฉพาะการดูแล 2อำเภอคือ อ.จะนะและอ.นาทวี ซึ่งกำลังหน่วยเฉพาะกิจสงขลาได้ถอนกำลังออกไป โดยมีกำลังตำรวจอาสาสมัครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาคุมพื้นที่แทน หลังจากส่งมอบพื้นที่จากทหารมาให้ทางจังหวัดดูแล ซึ่งมีการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจถาวรทั้ง 2อำเภอ ทั้งตั้งด่านตรวจที่บ้านควนมีด อ.จะนะและด่านตรวจบ้านโต้นนท์ อ.นาทวี ซึ่งเริ่มเข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นวันแรก ก่อนจะจัดกำลังเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1เมษายนเป็นต้นไป โดยเจ้าหน้าที่มั่นใจว่า จะไม่มีช่องโหว่ แม้ทหารจะถอนตัวไปแล้วก็ตาม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี