วิปรัฐบาลไล่เรียงคิวประชุมสภา สัปดาห์หน้าญัตติขอตั้งกมธ.แก้รธน.ยังไม่เข้าแน่นอน หากมีเรื่องเสนอใหม่ ก็ต้องเลื่อนออกไปอีก
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า สำหรับวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์หน้า วันที่ 13-14 พฤศจิกายนนี้ ญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากกระทำ ประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และการใช้อำนาจของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตามมาตรา 44 ที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และคณะเป็นผู้เสนอนั้น จะเข้าสู่การพิจารณาได้ ขณะที่ญัตติขอตั้งคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 นั้น คิดว่า ไม่ทันการพิจารณาในสัปดาห์หน้าแน่นอน เพราะญัตติที่เกี่ยวข้องกับ มาตรา 44 นั้นมีสมาชิกเสนอประกอบรวมกันกว่า 10 ญัตติ ซึ่งที่ประชุมจะนำมาพิจารณาในคราวเดียวกัน ดังนั้น จึงทำให้ญัตติดังกล่าว ต้องใช้เวลาในการพิจารณานานพอสมควร
นายอัครเดช กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีเรื่องที่คณะกมธ.คณะต่างๆ อาทิ รายงานของคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ที่มีนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน กับ ร่างข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ เป็นประธาน ได้เตรียมบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมเช่นกัน เบื้องต้นที่ประชุมวิปรัฐบาล จะพิจารณาบรรจุเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมหรือไม่ในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ ดังนั้น หากที่ประชุมมีมติบรรจุเป็นเรื่องที่เสนอใหม่เข้ามาสู่ระเบียบวาระของสภาฯ ญัตติเพื่อขอตั้งกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็อาจจะถูกเลื่อนออกไปอีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี