เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2562 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวในรายการ ‘หัวใจไม่หยุด ‘เต้น’’ เผยแพร่ทางแฟนเพจ ‘นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ’ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 62ว่า สัปดาห์หน้าสภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาญัตติเสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางให้แก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเชื่อว่าสภาจะเห็นชอบและมีการตั้งคณะกรรมาธิการชุดนี้ในที่สุด
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แต่ต้องเข้าใจให้ตรงกันว่า นี่ไม่ได้หมายความว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเริ่มต้นแล้วทุกฝ่ายเห็นด้วย แม้แต่พลังประชารัฐก็ยกมือสนับสนุนให้แก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้เพราะว่ากรรมาธิการชุดนี้มีหน้าที่เพียงแค่ศึกษาหาแนวทางว่าถ้าหากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง เท่าที่ฟังจากหลายคนหลายพรรคพูดตรงกันว่าจะต้องเริ่มแก้ไขที่มาตรา 256 เพราะในมาตรานี้ผูกเงื่อนไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้เป็นเงื่อนตาย
"ถ้าบังคับใช้มีมาตราเปิดให้แก้คงยากกว่าลิงแก้แห และผมจะชี้ให้เห็น ต้องมีทุกพรรคเห็นชอบเป็นเกณฑ์ ต้อง 20 เปอร์เซ็นต์จากทุกพรรคเข้ามาแก้ ประเด็นสำคัญต้องถามศาลรัฐธรรมนูญ แล้วส.ว.ต้องหนุนหนึ่งในสามด้วยหนา แก้ยากแก้เย็นอย่างที่ผมพูดมาคงไม่เกินชาติหน้า คงจะได้แก้กัน ส่วนจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้จริงหรือไม่ ที่ประชุมสภาจะพิจารณาหลังผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการชุดนี้อีกครั้งหนึ่ง"นายณัฐวุฒิ กล่าว
ส่วนญัตติฯ นี้จะผ่านได้จริง? เหตุผลเพราะว่า ถ้ามองจากมุมของทุกพรรคทุกฝ่าย นี่เป็นเรื่องที่ได้ตามต้องการกันทุกกลุ่ม พลังประชารัฐ เขาเห็นชอบญัตตินี้ เพื่อจะอธิบายว่ารัฐบาลดำเนินการตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการภายใน 1 ปี ประชาธิปัตย์ ก็ได้เรื่องนี้ล่ะครับอธิบายกับประชาชนว่าเงื่อนไขสำคัญในการจะเข้าร่วมรัฐบาลคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เริ่มต้นนับหนึ่งแล้ว ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้าน เขาชูธงเรื่องแก้รัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ต้น แปลว่าน่าจะได้แก้รัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นรูปธรรมจริงๆ ยังเป็นเรื่องยาก เพราะมีปฏิกิริยาต่อต้านคัดค้านจากหลายฝ่ายอย่างเห็นได้ชัดมีคนบางกลุ่มมีที่นั่งในสภาต่อเนื่องกันตั้งแต่รัฐประหารปี 49 จนถึงปัจจุบัน ตูดไม่เคยว่างเก้าอี้ในสภาเลย แม้แต่ช่วงเวลาเดียว พวกเขามาจากการลากตั้ง จึงแยกเขี้ยวยิงฟันขวางการแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ประมาณว่า อย่ามายุ่งกับอำนาจบทบาทหน้าที่ ไม่งั้นล่ะก็ได้เห็นดีกัน ส่วนพลังประชารัฐ ท่านลองคิดดูแล้วกันว่ามีพรรคไหนบ้าง ที่อยากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นมา ‘เพื่อพวกเรา’ โดยเฉพาะ
"ดังนั้น เรื่องนี้ประชาชนต้องมีส่วนร่วมอย่างสำคัญ ทุกคนต้องช่วยพูดจารณรงค์เป็นเสียงเดียวกันครับ ว่าเราต้องการรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่รัฐธรรมนูญที่เป็นเครื่องมือในการการันตีอำนาจของใครหรือพรรคไหนโดยเฉพาะ เพราะนั่นเท่ากับเป็นการโกงอำนาจอธิปไตยของประชาชน"
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงประเด็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตยฮ(ปชป.) จะมาเป็นประธานกรรมาธิการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ตอนนี้นายเทพไท เสนพงศ์ พยายามเต็มที่ที่จะผลักดันนายอภิสิทธิ์เข้ามาตรงนี้ ล่าสุดพรรคประชาธิปัตย์มีมติเห็นชอบนายอภิสิทธิิ์ก็เด้งรับไปแล้ว แต่พรรคพลังประชารัฐเด้งสวน นายภิสิทธิ์บอกว่าพร้อมจะเป็นประธานกรรมาธิการ พลังประชารัฐก็ให้ประทานนายนายอภิสิทธิ์เหมือนกันคือ ประทานโทษ พลังประชารัฐเขาจะส่งคนของเขามาเป็นเอง
"เรื่องนี้คงไม่จบกันง่ายๆ นะครับ เพราะแม้ว่าการตั้งกรรมาธิการชุดนี้จะสมประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย แต่แนวทางของแต่ละฝ่ายที่มาจับมือกันตั้งกรรมาธิการ ไม่ตรงกัน พลังประชารัฐไม่ได้อยากให้มีการแก้ไขจริงๆ ประชาธิปัตย์ถึงที่สุดก็ไม่แน่ใจว่าเอายังไง คงงัดถั่งงัดกันพอสมควรล่ะครับ เพราะพลังประชารัฐเขาเป็นแกนนำรัฐบาลคงไม่ยอมง่ายๆ ส่วนคุณอภิสิทธิ์ก็ต้องการเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญนี่แหละเป็นจุดยูเทิร์นเลี้ยวกลับมาเพื่อชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ก็ต้องติดตามครับ"
ส่วนพรรคฝ่ายค้านอยากจะให้แก้ไขก็เป็นเรื่องยาก เพราะเสียงในสภาบวกกับส.ว. 250 คน ยังสู้ไม่ได้ ดังนั้น สำหรับตนใครจะเป็นประธานไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่าไหร่ แต่ขอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาจริงๆ แต่นี่ไม่ได้หมายความว่า ตนรักนายอภิสิทธิ์ หรือเชียร์นายอภิสิทธิ์ หรือชื่นชมว่านายอภิสิทธิ์มีจุดยืนหลักการประชาธิปไตย ตนคิดแต่เพียงว่า ภารกิจนี้เป็นเรื่องใหญ่เป็นเรื่องยาก ดังนั้น แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่างเป็นเรื่องที่ควรทำให้เกิดขึ้น ส่วนใครจะบอกให้ตนเชื่อว่าคุณอภิสิทธิ์มีจุดยืนเรื่องประชาธิปไตยชัดเจน อันนี้คิดว่ายากกว่าเรื่องแก้ไขรัฐธรรนูญ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี