เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊กตอบ 8 ข้อของนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ออกมาโพสต์ข้อความเปิดจุดบกพร่องรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 โดยมีเนื้อหาดังนี้
"ตอบ 8 ข้อของ อ.สมชัย ได้ว่า รัฐธรรมนูญฉบับปี 60 นี้ มันไม่ใช่ข้อบกพร่อง แต่มันเป็นเจตนาของผู้ร่าง ที่ผู้ร่างเขาประสงค์ให้เป็นอย่างนี้ ที่ต้องการแก้ปัญหาบ้านเมืองในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ทั้ง 8 ข้อ มันเป็นความไม่ชอบของ อ.สมชัย และคนต้องการแก้รัฐธรรมนูญเท่านั้น ที่ต้องการแก้เพื่อให้ได้อำนาจ แต่ไม่เห็นว่าประชาชนจะได้อะไร
การแก้รัฐธรรมนูญ จะต้องส่งไปทำประชามติ ใช้เงิน 2-3 พันล้าน เงินชาวบ้านที่มาจากภาษีอากรทั้งนั้น เอาไปดูแลคนจน ผู้สูงอายุ แก้ปัญหาปากท้องน่าจะดีกว่า
การแก้รัฐธรรมนูญธรรมนูญควรพิจารณาปัญหาการใช้รัฐธรรมนูญให้ชัดเจนจริงๆ มิฉะนั้น หากแก้ไขไปแล้ว หากแพ้การเลือกตั้งอีก ก็จะมาโทษรัฐธรรมนูญและ ก็จะมาขอแก้รัฐธรรมนูญกันอีก
บางพรรคที่ได้ประโยชน์จากการใช้รัฐธรรมนูญ ก็อยากแก้ไขเพราะอคติไม่ชอบที่มาของรัฐธรรมนูญ ไปๆมาๆ ก็ยังไม่ได้ประโยชน์กับประชาชนอยู่ดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ออกมาโพสต์วิจารณ์รัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่า ใครบอกยังไม่พบข้อบกพร่องรัฐธรรมนูญฉบับนี้
1. ระบบเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว ทำให้การเลือกตั้งผิดเพี้ยน คนเลือกไม่ได้เลือก ส.ส. แต่เลือกพรรค เลือกนายก เป็นหลัก (ดูจาก คะแนนที่ พลังประชารัฐได้ จากการชู พลเอกประยุทธ์ และ อนาคตใหม่ได้ จากการชูธนาธร)
2. ระบบการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อผิดเพี้ยน พรรคจิ๋วที่ได้คะแนนต่ำกว่าเกณฑ์คะแนนเฉลี่ย กลับได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเข้าสภา ทำให้มีพรรคการเมืองหนึ่งเสียงในสภาทั้งๆที่ได้คะแนนรวมทั้งประเทศต่ำกว่า 71,000 คะแนนถึง 11 พรรค
3. ทำให้รัฐบาลหลังการเลือกตั้ง เป็นรัฐบาลที่ขาดเสถียรภาพ ประกอบด้วยพรรคร่วมรัฐบาลถึง 19 พรรค หนำซ้ำยังเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำที่พร้อมจะไปได้ตลอดเวลา เวลาลงมติทุกครั้งต้องลุ้นแบบใจหายใจคว่ำ เวลาเลือกตั้งซ่อม ต้องสวดมนต์ภาวนาไม่ให้แพ้ฝ่ายค้าน
4. การให้ ส.ส.มีเอกสิทธิ์ในการลงคะแนนโดยไม่จำเป็นต้องตามมติพรรค เปิดช่องทางให้ซื้อขายตัว ส.ส. โดยไม่เกรงกลัวถูกขับออกจากพรรค เพราะยังไม่ขาดสมาชิกภาพหากสามารถหาพรรคใหม่ได้ภายใน 30 วัน เข้าทำนองเตะหมูเข้าปากหมา ระบบพรรคการเมืองก็อ่อนแอ
5. ปัญหาการตีความรัฐธรรมนูญมากมาย เนื่องจากไม่เขียนให้ชัด เช่น ส.ส.ถูกจำคุกถือว่าขาดสมาชิกภาพหรือไม่ พรรคที่ยุบพรรคตัวเอง เวลาไปอยู่พรรคใหม่เป็นลำดับที่เท่าไรของบัญชีรายชื่อพรรคใหม่ ส.ส.ที่ถือหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนว่าทำสื่อแต่จริงๆไม่ได้ทำถือว่าขาดคุณสมบัติหรือไม่ ฯลฯ
6. มี กลไก ส.ว. ที่กลายเป็นสภาค้ำจุนอำนาจรัฐบาลจากซีกฟากที่แต่งตั้งตัวเองเข้ามา ไม่ใช่มี ส.ว. เพื่อเป็นสภาผู้ทรงวุฒิ ที่มาเติมเต็มการทำงานของรัฐสภา
7. การกำหนดคุณสมบัติและวิธีการได้มาซึ่งองค์กรอิสระขั้นมหาเทพ กลับกลายเป็นข้อจำกัดในการได้คนดีคนเก่งมาทำงานอย่างแท้จริง แต่กลายเป็นสุสานของข้าราชการระดับสูงที่เกษียณอายุ
8. การออกแบบกลไกในการแก้ที่ยากเย็น แค่แก้วิธีการแก้ ก็ยังต้องมี ส.ว.1 ใน 3 เห็นชอบทั้งในวาระ 1 และ วาระ 3 และยังต้องไปผ่านประชามติ เหมือนขายของที่ไร้คุณภาพแถมยังบอกไม่มีประกันและไม่รับคืน
เอาเบื้องต้นแค่นี้ก่อน ใครเห็นจุดไม่ดีตรงไหนช่วยกันบอกให้ได้ยินไปถึงคนหูตึง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี