โหวตปลดเสรีพิศุทธ์ทำได้
‘ชวน’ชี้ช่อง
เป็นเรื่องภายในกมธ.ปปช.
สิระแจง6เหตุผลไล่พ้นเก้าอี้
บิ๊กตู่-บิ๊กป้อมเมินเรียกรอบ4
เชิญพรรคร่วมถกรับซักฟอก
“บิ๊กตู่”ไม่สน“เสรีพิศุทธ์”เชิญแจงรอบ 4 บอก“ปล่อยเขา...” ด้าน “บิ๊กป้อม”ปัดจะไปตอบไปเองหรือไม่ ย้ำชี้แจงหมดแล้ว“เสรีพิศุทธ์”โต้เดือดซัด“สิระ”มีสิทธิ์อะไรมาปลด ยันทำตามหน้าที่ กร้าวใครก็เปลี่ยนไม่ได้ โควตาฝ่ายค้าน ลั่นเรียก“นายกฯ”สอบผิดตรงไหน ดัดหลัง“ปารีณา”ลุยสอบปมที่ดิน ด้าน“สิระ”แจง 6 เหตุผลไม่เหมาะนั่ง ปธ. ยัน กมธ.ปลดได้ ส่วน“ปารีณา”ฟ้อง“ชวน”ปราม “เสรีพิศุทธ์”อย่าใช้อารมณ์แปรปรวน จับตาสัปดาห์หน้าเปลี่ยนตัว ปธ.แน่ ขณะที่ ‘ชวน’ระบุเปลี่ยนตัว ปธ.กมธ.เป็นเรื่องในกมธ.ผู้ตรวจการแผ่นดิน นัดถก 15พย.ปมคำสั่งเรียก กมธ.ขัด รธน. ลุ้นมติส่งศาล รธน.วินิจฉัย
เมื่อวันที่ 14พฤศจิกายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ(ป.ป.ช.)ยังเดินหน้าเชิญนายกฯไปชี้แจง รอบที่ 4ประเด็นปมถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบและพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2563ในวันที่ 20 พ.ย.พร้อมขู่หากไม่เข้าชี้แจงรอบนี้จะดำเนินคดีอาญา
นายกฯนิ่งย้ำ’ปล่อยเขาก็แล้วแต่เขา’
โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอบด้วยสีหน้านิ่งเฉยว่า “ปล่อยเขาก็แล้วแต่เขา”
ต่อมา เวลา11.30น.ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเพื่อยกระดับการท่องเที่ยวไทยเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ในประเด็นการเมืองโดยกล่าวว่า“มีอะไรอีกหรือเปล่า ไม่มีนะ อย่ามีเลยเรื่องการเมือง ฉันเหนื่อยแล้ว ไม่เอา ขี้เกียจดูข่าว เพราะความขัดแย้ง เรามัวเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง”
‘บิ๊กป้อมปัดไปแจงเองรอบ4หรือไม่
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ประธานคณะ กมธ.ปปช.สภาผู้แทนราษฎรเชิญ นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร เข้าชี้แจงปมการถวายสัตย์ไม่ครบตามรัฐธรรมนูญเป็นรอบที่ 4 ในวันที่ 20 พ.ย.ว่าก็ว่ากันไป ยังไม่รู้ว่าจะไปด้วยตัวเองหรือไม่ ส่วนที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ระบุว่าหากไม่มาชี้แจงด้วยตัวเองอีกจะดำเนินคดีอาญาตามพ.ร.บ.คำสั่งเรียกของกรรมาธิการของส.ส.และส.ว.พ.ศ.2554 พล.อ.ประวิตรตอบว่าไม่รู้เขาจะทำอย่างไร เพราะเรื่องดัวกล่าว ได้ชี้แจงไปหมดแล้ว และได้ลงนามในหนังสือชี้แจงที่ส่งไปด้วยตัวเอง
เมื่อถามว่าการที่ประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.ยังเคลื่อนไหวไม่หยุดมีนัยยะอะไรหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบทันทีว่า”ไม่รู้” เมื่อถามย้ำว่าหากเชิญไปอีกรอบจะไปหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ และไม่ตอบ แล้ว
ข้องใจทำไมเสรีฯไม่รับคำชี้แจง
ขณะที่นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรไม่รับหนังสือของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและพล.อ.ประวิตร เนื่องจากไม่ได้ลงนามกำกับในหนังสือมาด้วยว่า ทั้งพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร ลงนามไปแล้วและได้ตอบครบไปแล้วทุกประเด็น แต่ไม่เข้าใจในสิ่งที่ประธาน กมธ.ปปช.พูดแบบนั้น ทราบว่ากมธ.จะเชิญไปอีกในวันที่ 20 พ.ย.นี้ เป็นอำนาจหน้าที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หากคิดว่ายังมีประเด็น ที่เป็นข้อสงสัย ที่อยากจะให้มีการชี้แจงเพิ่มเติม ขอให้กำหนดเป็นประเด็นๆมาเราจะได้ตอบไปเป็นข้อๆ เนื่องจากข้อบังคับการประชุมสภาฯระบุไว้ว่า การชี้แจงจะไปชี้แจงด้วยตนเอง มอบหมาย หรือชี้แจงเป็นรายลักษณ์อักษรก็ได้
เมื่อถามว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันว่าจะให้นายกฯและพล.อ.ประวิตรไปชี้แจงด้วยตัวเอง ในครั้งที่ 4 นี้ นายประสาน กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของเขา ที่จริงแล้วการส่งหนังสือเชิญของกมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯทั้ง 3 ครั้งเป็นการเชิญตามข้อบังคับการประชุมของสภาฯ ไม่ได้เป็นการเชิญตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คำสั่งเรียก พ.ศ. 2554 ส่วนตนจะไปชี้แจงแทนพล.อ.ประวิตรหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องแล้วแต่ว่าท่านจะมอบหมายหรือไม่
แนะดูกม.อยู่ในอำนาจหรือไม่
ส่วนที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ระบุหากทั้ง2 ไม่ไปชี้แจงด้วยตัวเองอาจจะมีการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีทางอาญานั้น นายประสาน กล่าวว่า ทำไม่ได้ เพราะมีกระบวนการอยู่ เมื่ออกหนังสือเรียกตามข้อบังคับการประชุมสภาฯต้องมีมติอีกครั้งหนึ่งว่าเป็นการเรียกตามพ.ร.บ.ตามคำสั่งเรียก พ.ศ.2554ซึ่งจะเข้ากระบวนการนี้แต่ต้องมาดูตามกฎหมายว่าเมื่อเข้าสู่กระบวนการตามพ.ร.บ.ตามคำสั่งเรียกพ.ศ.2554แล้ว อยู่ในกฎเกณฑ์อำนาจหน้าที่ของกมธ.ตามข้อบังคับการประชุมสภาฯหรือไม่
เมื่อถามอีกว่าสามารถดูข้อกฎหมายได้หรือไม่ถ้าประธาน กมธ.ปปช.เรียกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย นายประสานกล่าวว่า ได้ ถ้าเรียกโดยที่ข้อที่เรียกไปชี้แจงไม่ชัดเจนหรือนอกเหนืออำนาจ ก็เป็นการใช้อำนาจที่นอกเหนือจากกฎหมายให้อำนาจไว้ซึ่งทุก กมธ.ก็เป็นแบบนี้ ไม่ใช่เฉพาะกมธ.ปปช.
‘เสรีพิศุทธ์’ลั่น’สิระ’ไม่มีสิทธิ์ปลด
ที่รัฐสภา เกียกกาย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะ กมธ.ปปช.สภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประเด็นนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ จะเตรียมเสนอปลดออกจากประธานกมธ.ว่า นายสิระ อยู่ในห้องประชุม ก็เรียบร้อยดี เวลาโหวตเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีมาชี้แจงครั้งต่อไปหรือไม่ ผลโหวต ก็ออกมาว่าให้มาชี้แจง 6คน ไม่ให้มา 3 คนซึ่งนายสิระก็มาพูดคุยว่า เป็นธรรมดี แต่พอออกจากห้องประชุม ก็เสนอปลดประธาน
“กมธ.คนอย่างนี้ เป็นคนอย่างไร มีสิทธิ์อะไรจะมาปลดหรือมาเปลี่ยน จะเห็นได้ว่าเป็นขบวนการทางการเมืองที่ฝ่ายรัฐบาลเอามาใช้ในสภาผู้แทนราษฎรและในกมธ.ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีอะไร เพราะตนเป็นประธานกมธ.กำหนดการประชุม”พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ย้ำ
เรียกนายกฯมาสอบผิดตรงไหน
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังยืนยันว่าไม่ต้องทำความเข้าใจกับ กมธ.เพราะตนทำตามหน้าที่ ไม่เป็น ประธานฯ มันจะตายหรือ เป็นก็เป็นไม่เป็นก็ไม่เป็น เพราะตนมีเสียงเดียวในกมธ. แล้วโหวตให้ตนเป็นประธานกันเอง ในที่กมธ. ส.ส. 10 สมัยก็มี ทำไมยอมให้ ส.ส. สมัยแรกเป็นได้ เพราะตนมีคุณวุฒิความรู้ความสามารถ เมื่อเป็นแล้วทำงานถูกใจประชาชนหรือไม่ จะเรียกนายกฯ และรองนายกฯ มาสอบถามข้อเท็จจริงในกมธ.ชุดนี้แล้วผิดตรงไหน ทำไมไม่ยอมมา บอกเป็นชายชาติทหารแต่พอคณะกมธ. เรียก ทำไมไม่ยอมมาสักที เพราะเป็นหน้าที่ของเราอย่ามาบอกว่าไม่ใช่หน้าที่ ขอให้มาแบบลูกผู้ชาย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ยังมาเลย ทำไมคนอื่นยึกยักนัก ดังนั้นอย่าเอาการเมืองมาเล่นหากตนไม่มีอำนาจแล้วจะเชิญมาทำไม ไม่มีสาระจะเชิญมาทำไม
ใครก็เปลี่ยนไม่ได้ โควต้าฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่าการที่นายสิระ เสนอให้ปลดประธานกมธ.ทำได้หรือไม่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่าทำไม่ได้ เห็นเขาบอกว่าเมื่อปลดแล้วก็จะเป็นประธานเอง แต่ตำแหน่งนี้เป็นโควตาฝ่ายค้าน นายสิระอยู่ฝ่ายรัฐบาล จะมาเป็นประธานกมธ.ป.ป.ช.ได้อย่างไร ไม่รู้ประชาชนชาวหลักสี่ เลือกมาได้อย่างไรคนอย่างนี้ นายสิระไม่รู้อะไรสักอย่าง ตำแหน่งประธานกมธ.เขาเลือกกันในสภาฯ ตนจำได้หมดว่าพรรคไหนได้โควตา กมธ.กี่คณะ แล้วนายสิระไปหลับที่ไหน ประธานกมธ.ป.ป.ช.เป็นของฝ่ายค้าน ใครจะมาเปลี่ยน แม้แต่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังเปลี่ยนไม่ได้เลย
ดัดหลัง’ปารีณา’ไล่บี้สอบปมที่ดิน
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังกล่าวถึงการทำหน้าที่กมธ.ของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ว่าก่อนเข้ามาก็ในกมธ.ก็ซ่า บอกจะขุดคุยเรื่องการจัดซื้อรถมอเตอร์ไซด์ไทเกอร์ โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไปฟังๆเขามาแล้ว ก็เอามาพูดต่อ ตนถามในที่ประชุมว่าไม่เอาเรื่องมอเตอร์ไซด์ไทเกอร์ มาเสนอหรือ ตนจะบรรจุวาระให้ก็ไม่ตอบ
นั่งประชุมอยู่ดีๆก็มานั่งเล่นโทรศัพท์ ไม่สนใจอะไรเลย มาถึง ก็มายกมือค้าน ไม่ให้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร มาชี้แจง พอเสร็จแล้ว ก็เก็บของใส่กระเป๋าเดินออกจากห้อง ตนยังถามเลยว่าประชุมยังไม่เสร็จเลย จะรีบกลับไปทำไมมาช่วยทำงานก่อน เขายังไม่รู้เลยว่าเขาจะตั้ง กมธ.สอบตัวเอง ยืนยันว่ากมธ.จะเดินหน้าตรวจสอบที่ดินของนางสาวปารีณาต่อไป
‘สิระ’แจง6เหตุผลไม่เหมาะนั่งปธ.
ด้าน นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ กมธ.ปปช.สภาผู้แทนฯกล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวช ประธานคณะกมธ.ปปช.ยืนยันว่าไม่สามารถปลดจาก ประธานกมธ.ได้ว่า กมธ.สามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้ หากเห็นว่า ประธาน มีความไม่เหมาะสม ก็สามารถโหวตเปลี่ยนแปลงได้ อยากให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ไปศึกษาข้อบังคับให้ดี ขณะนี้การทำงานของคณะกมธ.มีการ นำประเด็นส่วนตัว มาใช้ในกมธ.ทำให้ไม่สามารถทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมได้เต็มที่ ทำให้เสียโอกาสและในการเป็นประธาน ก็มีความไม่เหมาะสมในหลายประเด็น
“ความไม่เหมาะสมของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เท่าที่ได้สัมผัสในการเข้าประชุมคณะกมธ.เพียงครั้งเดียว 1.ปกปิดข้อมูล กรณีตัวแทนนายกรัฐมนตรี นำข้อมูลมาชี้แจง กมธ.ขอดูข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาแต่ไม่ได้ดู 2.พฤติกรรมไม่เหมาะสม กรณีชี้หน้า กมธ.ในที่ประชุม ถามกลับไปว่าถ้าประธาน โดนชี้หน้าบ้างจะรู้สึกอย่างไร3.ไม่เปิดโอกาสให้สมาชิกได้แสดงความคิดเห็นตามอำนาจหน้าที่ 4.แถลงข่าวประจาน กมธ.ในขณะกมธ.ไม่อยู่ด้วย 5.ใช้วาจาไม่เหมาะสมกับคณะกมธ.6.ไม่ให้เกียรติ กมธ.”นายสิระ ย้ำ
ถ้าไม่มีใครเหมาะพร้อมนั่งปธ.เอง
นอกจากนี้ นายสิระยังระบว่า พฤติกรรมที่กล่าวมา สร้างความอึดอัดให้กับคณะ กมธ. แม้จะซีกฝ่ายค้านก็ตาม ส่วนใหญ่จึงเห็นด้วยให้มีการเปลี่ยนแปลงตัว ประธาน ซึ่งหากตำแหน่งประธาน เป็นของพรรคเสรีรวมไทย ก็ส่งคนใหม่ มาเป็น แต่หากไม่มีใคร ก็พร้อมจะเป็นประธานเอง
ปารีณาลุยงานกมธ.ให้สอบปมที่ดิน
ด้านน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐกล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เสนอตรวจสอบ ที่ดินฟาร์มไก่ จ.ราชบุรีว่า ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ แต่เห็นว่าการที่ประธานหยิบยกเรื่องนี้มาสอบ ขณะที่ตนไม่อยู่ ในห้องประชุม เพราะอารมณ์แปรปรวน น่าจะเป็นนิสัยของประธานแต่ละคน แต่ตน ก็ทนได้ และขอยืนยันว่าจะทำหน้าที่ในกมธ.ต่อไป
จับตาสัปดาห์โหวตเปลี่ยนปธ.
“โดยสัปดาห์หน้า จะเสนอให้เปลี่ยนตัวประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช.ใหม่ ซึ่งมั่นใจว่าเสียงในที่ประชุมจะเพียงพอเพราะได้มีการพูดคุยกับเพื่อนกรรมาธิการคนอื่นแล้วและเห็นตรงกันว่าควรเปลี่ยนตัวประธานซึ่งกมธ.หลายคน ก็รู้สึกไม่ไหวแล้ว ส่วนตัวไม่กังวลว่าจะถูกสมาชิกลงมติห้ามเข้าร่วมประชุมเหมือนกระแสที่ออกมาด้วย ขอให้ติดตามดูในสัปดาห์หน้าว่าจะเป็นอย่างไร”
ซัดทำงานสภาไม่เหมือน สตช.
“ก็เห็นกันอยู่ค่ะนี่ถ้าตั้งกล้องตลอดนะโอ้โหหลายชอตเลยจะเห็นว่าคอยจับผิดอย่าง สมาชิกคนอื่นลุกออกไปแล้ว พอดีฉันลุกบ้างก็รีบถามว่าไปไหน พอบอกว่า จะไปธุระก็ย้อนถามกลับว่าประชุมยังไม่เสร็จเลยและบอกให้เจ้าหน้าที่บันทึกไว้เลยนะซึ่งการทำงานที่สภากับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มันต่างกันส.ส.แต่ละคนมีเอกสิทธิ์ มีสิทธิ์ที่จะลงมติ หรือ เลือกกับงานอะไรก็ได้ การที่มีตำแหน่งประธาน ไม่สามารถไปบังคับให้ทำตามใจประธานได้ ดังนั้น ขอให้รอดูในสัปดาห์หน้าแล้วกัน”น.ส.ปารีณา กล่าว
ขู่ฟ้อง’ชวน’ให้ปราม’เสรีพิศุทธ์’
น.ส.ปารีณา กล่าวว่า สำหรับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ทำผิดกฎหมายหลายเรื่อง อาทิการเชิญนายกรัฐมนตรีและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีมาชี้แจง แม้จะมีอำนาจ แต่ผู้ที่ถูกเชิญก็มีสิทธิ์มอบตัวแทนมาชี้แจงและ กมธ.ไม่มีสิทธิ์ ไปบังคับ เบื้องต้นจะร้องเรียน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรแต่ยังไม่ขอดำเนินคดีอื่นๆเนื่องจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อายุเยอะแล้ว จึงขอแค่ตักเตือนและหวังว่า จะเรียนรู้และปรับเปลี่ยนตัวเองหรือให้มีการอบรม เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ดีกว่านี้พร้อมเตือน กรรมาธิการคนอื่น อย่าตามใจประธาน เพราะอาจเข้าข่ายกระทำความผิดไปด้วย
อัดอารมณ์แปรปรวนกว่าผู้หญิง
เมื่อถามว่าจะถูกมองว่าเป็นคนสร้างความขัดแย้งภายในกรรมาธิการหรือไม่ หลังจากเข้าไปทำหน้าที่ได้เพียง 1วัน น.ส.ปารีณา กล่าวว่าตนเป็นส.ส.และ กมธ.ในสภาตั้งแต่ 2548 รวมแล้ว12ปี ไม่เคยสอบตก ไม่เคยมีปัญหา แต่ กมธ.ชุดที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นประธาน มีปัญหามาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่มีกมธ.ขอลาออก เพราะทนพฤติกรรมของ ประธานไม่ไหว อึดอัด พอมีคนใหม่เข้ามาประธาน ก็เหวี่ยงอีก จะเห็นได้จากที่เป็นข่าวตามสื่อและสังคมจะเป็นผู้ตัดสินว่า”ใครที่อารมณ์แปรปรวน แปรปรวนยิ่งกว่าตอนที่ผู้หญิง
‘ชวน’ชี้เปลี่ยนตัวปธ.เรื่องในกมธ.
ที่รัฐสภา เกียกกาย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวถึงกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กมธ.ปปช.ระบุว่าจะเตรียมล่าชื่อปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกจากตำแหน่งประธาน กมธ.ปปช.สภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมนั้นว่าสามารถทำได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมาธิการในคณะนั้น เพราะเมื่อกรรมาธิการแต่ละชุดได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่ก็จะไปเลือกประธานกรรมาธิการกันเอง
ผู้ตรวจฯนัดถกปม กมธ.เรียกแจง
วันเดียวกัน นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าวว่าที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินเมื่อวันที่12พ.ย.มีมติรับคำร้องที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ยื่นขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาและเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ.2554มาตรา5มาตรา 8และมาตรา13ที่ให้อำนาจคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา มีอำนาจออกคำสั่งเรียกเอกสารจากบุคคลหรือเรียกบุคคลใดมาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมาธิการ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ2560มาตรา129ไว้พิจารณาและมีคำสั่งให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานทำการศึกษาประเด็นข้อกฎหมายต่างๆโดยเร็วและให้มีการเสนอเรื่องต่อที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาในวันที่ 15พ.ย.เวลา13.00น.
ลุ้นมติส่งศาล รธน.วินิจฉัยหรือไม่
เมื่อถามว่าผู้ตรวจฯรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.ของสภาผู้แทนราษฎรที่มีมติเรียกนายกรัฐมนตรี มาชี้แจง ประเด็นถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนในวันที่20 พ.ย.ต้องระงับไว้ก่อนหรือไม่ เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าวว่ามติของผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ได้มีผลผูกพันทุกองค์กรซึ่งองค์กรที่มีหน้าที่ จะชี้ว่าพระราชบัญญัติฉบับนี้ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่คือศาลรัฐธรรมนูญ จึงเป็นดุลยพินิจของคณะกรรมาธิการฯว่าจะเห็นอย่างไร เมื่อผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติรับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาและให้สำนักงาน เร่งศึกษาข้อกฎหมายต่างๆและเสนอต่อที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินในวันที่ 15 พ.ย.นี้เพราะเห็นว่าเรื่องดังกล่าว กำลังเป็นประเด็นที่มีการโต้แย้งกันอยู่ รวมทั้งสังคมให้ความสนใจซึ่งในการประชุมวันน่าจะทราบว่า ผู้ตรวจฯจะมีมติอย่างไร
คาดเลือกซ่อมขอนแก่น22ธ.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงาน กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ออกเอกสารประชาสัมพันธ์ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพการเป็นส.ส.ของนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.เขต 7 จ.ขอนแก่นสิ้นสุดลง ซึ่งกกต.ต้องจัดการเลือกตั้งส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่างภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 27 ธันวาคมนี้ คาดว่า กกต.จะกำหนดให้วันที่ 22 ธันวาคม 2562 เป็นวันเลือกตั้ง ส.ส.เขต 7 ขอนแก่น และจะเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน- 2 ธันวาคม 2562
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงาน กกต. ได้ประสานไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยได้แจ้งการสิ้นสภาพความเป็น ส.ส.ของนายนวัธ เพื่อขอให้พิจารณาเสนอทูลเกล้าฯ ให้มีการตรา พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งส.ส.ขอนแก่น เขต 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้คาดว่าน่าจะมีการนำเข้าที่ประชุม ครม.ในวันที่อังคารที่ 19 พ.ย. นี้
เล็งส่ง’สมศักดิ์ คุณเงิน’สู้ขอนแก่น
นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะแกนนำภาคอีสาน กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส.ขอนแก่น เขต 7ว่าตนรับผิดชอบดูแลพื้นที่ภาคอีสาน ได้เตรียมเสนอชื่อ นายสมศักดิ์ คุณเงิน อดีตผู้สมัครคนเดิม ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมเขตดังกล่าวเพื่อให้ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค กรรมการบริหารพรรค พิจารณา เพราะเป็นคนที่พร้อมมากที่สุด การเลือกตั้งที่ผ่านมา คะแนนแพ้นายนวัธ เพียง3พันกว่าคะแนน คาดว่าพรรคจะพิจารณาและเปิดชื่อได้หลังมีพระราชกฤษฎีกาประกาศเลือกตั้งออกมาก่อนจึงจะเปิดชื่อบุคคลที่พรรคจะส่งลงสมัคร
ส่วนที่มีข่าวพรรคเพื่อไทย อาจจะส่ง นายอดิศร เพียงเกษ ลงสมัครนั้น ก็ไม่น่ากังวลอะไร ทั้งสองคน ถือเป็นเพื่อนกันมาก่อน และเชื่อมั่นการลงพื้นที่พบประชาชนและการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลจะทำให้ผู้ที่พรรคส่งลงสมัครได้รับการยอมรับจากประชาชน
นายกฯนัดแกนนำรบ.ถกรับซักฟอก
ด้าน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของรัฐบาลในการรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นการตรวจสอบในสภา เชื่อว่าทุกคนมีความพร้อม ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้นโยบายตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาว่าทุกคนจะต้องตั้งใจทำงาน ทำด้วยความทุ่มเท รอบคอบ และสามารถชี้แจงสังคมได้ตลอดเวลา เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นผู้ไหนที่ถูกยื่นอภิปราย ทุกคนก็มีเหตุผลในการทำงาน พรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาล ก็มีความพร้อม ทุกครั้งที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ก็มีการพูดจาทบทวนให้คำแนะนำอย่างครบถ้วน พรรคร่วมรัฐบาลทำงานกันอย่างเป็นทีมและมีความเข้มแข็งจุดแข็งของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ ที่จะรักษาเสถียรภาพรัฐบาลไว้ให้ได้
นายพุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ แกนนำของแต่ละพรรคจะมีการหารือร่วมกันก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจในเร็วๆนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกำลังหาเวลาที่สะดวกเพื่อพบปะพูดคุยกับหัวหน้าและเลขาธิการพรรคร่วมรัฐบาล โดยเป็นการพูดคุยปกติเพราะเราทำงานร่วมกันมาระยะหนึ่งแล้ว นายกฯอยากพบปะพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการบ้างกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ครั้งต่อไปอาจจะมีโอกาสพบปะพูดคุยกับ ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล เพราะยังไม่มีการพบปะพูดคุยกัน เนื่องจากเมื่อเข้ามาต้องเร่งการทำงาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี