"อุเทน"เปิดตัวชิงผู้ว่าฯกทม. ชูนโยบาย"จากนี้กทม.รถต้องไม่ติด ทุจริตต้องหมดไป" ขอโอกาสทำงาน500วัน ลั่นทำไม่ได้พร้อมออกทันที ปลุกคนกรุงอย่าก้มหัวให้ความไม่ถูกต้อง พร้อมยกระดับการศึกษาการเรียนการสอนแบบอินเตอร์แต่เรียนฟรีและเท่าเทียม อาสาปราบหนูตามท่อระบายน้ำ เปลี่ยนต้นใบร่วงออก ลดปัญหาน้ำรอการระบาย
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ที่สโมสรหมู่บ้าน พาลาซโซ่ นายอุเทน ชาติภิญโญ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.แถลงข่าวเปิดตัวลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ก่อนจะแถลงข่าว นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมามอบกระเช้าดอกไม้ให้กำลังใจ
จากนั้น นายอุเทน แถลงว่า เหตุที่เสนอตัวขอลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ เนื่องจากเมื่อเดินออกจากนอกบ้าน แล้วเห็นถึงความไม่เป็นระเบียบ ปัญหาต่างๆ แล้วอยากจะเข้าไปแก้ไข คำว่า กลัว ผมรู้จักความหมาย แต่ไม่กลัวที่จะแก้ปัญหา เพราะเป็นคนเอาจริงกัดไม่ปล่อย เป็นเหมือนมดแดงแม้ถูกเด็ดหาง แต่ปากก็ยังกัดได้อยู่ คนที่รู้จักตน จะทราบดี รวมทั้งรู้จักคนจากหลายพรรคการเมือง มีเพื่อนทุกวงการ มีแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาใน กทม.ไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ปัญหาขยะ เรื่องรถติดโดยจะลดจำนวนป้ายรถเมล์ลงเนื่องจากมีจำนวนมากเกินไป และลดจุดกลับรถเพราะทำให้รถชะลอตัวและเกิดอุบัติเหตุส่วนรถที่จะเลี้ยวซ้ายต้องเลี้ยวได้จริง ไม่ใช่ต้องไปจอดต่อแถว โดยเรื่องนี้ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ส่วนแผงลอย มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่มาอยู่บนฟุตบาตต้องจริงจังกับการแก้ปัญหาด้วย
นายอุเทน กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องน้ำรอการระบาย เรื่องนี้จะแก้ไขโดยสั่งให้เปลี่ยนต้นไม้ตามริมทางที่ใบร่วงออกให้หมด นำต้นไม้ใบร่วงยากมาทดแทน เชื่อว่าจะแก้ปัญหานี้ได้ รวมถึงพนักงานของ กทม.ไม่ต้องมากวาดถนนให้ไปทำงานด้านอื่นแทน สามารถประหยัดงบประมาณจากการกวาดถนนได้ปีละเป็นพันล้านแล้วจะเงินนำส่วนนี้ไปพัฒนาด้านการศึกษาให้มีเป็นโรงเรียนอินเตอร์แบบเรียนฟรี ดำเนินการทันที 50 เขต ลูกผมหรือลูกคุณต้องได้เรียนอย่างเท่าเทียมกัน และขอเสนอให้ต่อไป ตำรวจในกทม.ต้องขึ้นตรงกับ ผู้ว่ากทม เท่านั้น การเปิดตัวในวันนี้ ก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องการเมืองมาก แต่ 5 ปี รัฐบาลมีอำนาจล้นฟ้า กลับจัดการแก้ไขปัญหาไม่ได้ จึงขอเสนอตัว และขอเวลาเพียง 500 วัน ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ พร้อมจะลาออกทันที และถ้าตนทำงานได้สำเร็จก็พร้อมลาออกเช่นกัน เพราะขั้นต่อไปอยากจะเป็นนายกฯ
"สร้างปัญหาให้เรามากแค่ไหน ตนไม่กลัวที่จะฆ่าสัตว์เหล่านี้ เอ็นจีโอจะมาดัดจริตว่าเป็นคนโหดร้าย ตนไม่กลัวแต่กลัวลูกหลานของเราจะเป็นโรคฉี่หนู และโรคที่เกิดจากเชื้อโรคเหล่านี้" นายอุเทน กล่าว
นายอุเทน กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ข้าราชการ กทม.ต้องร่วมมือกันทำงาน มาลงสัตยาบรรณ ร่วมแก้ปัญหา ตามความตั้งใจในนโยบายว่า "จากนี้ กทม.รถต้องไม่ติด ทุจริตต้องหมดไป" ขอฝากถึงคน กทม.ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ ผมขอเสนอตัวเป็นทางเลือกหนึ่งด้วยสไตล์ ดุเด็ดเผ็ดมัน คิดเป็นทำได้ ทำจริง ไม่เกรงใจใครพรรคพวกต้องมี แต่ความถูกต้องต้องมาก่อนพรรคพวก ตนมีความตั้งใจที่จะเข้ามาแก้ปัญหาให้คนกรุงเทพฯ เราต้องไม่ก้มหัวให้ความไม่ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การบริหารงานของผู้ว่าฯ คนปัจจุบัน มีสิ่งใดที่รู้สึกอึดอัดใจ และถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ จะแก้ไขปัญหานั้นอย่างไร นายอุเทน กล่าวว่า การทุจริตมีมากเกินเหตุ แม้แต่ตนยังถูกรังแก ดังนั้น การทุจริตต้องหมดไป ขอเวลาแค่ 500 วัน หลายคนบอกว่าอาจเปลืองตัว เปลืองเวลา ทำไม่ได้ สู้ไม่ได้ แต่ขอยืนยันว่าตนไม่เคยทำไม่ได้ แค่ไม่ได้ทำแค่นั้นเอง ถ้าให้ตนทำ คอยดูว่าจะทำได้หรือไม่ กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ถ้าเราไม่บังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้อง ก็ไม่มีใครเชื่อเรา
"พอผมจะเปิดตัว มีคนเด่นคนดังหลายคน ชวนตน บอกให้เป็นสต๊าฟ เป็นรองผู้ว่าฯ เป็นทีมงาน อย่างน้อยสามคน ถ้าเอ่ยชื่อจะรู้จักทุกคน ซึ่งตอบไปว่าถ้ามีเงื่อนไขที่ดี อาจจะไปอย่างนั้น เพราะเหนื่อยน้อยหน่อยและได้ทำงานตามปกติ ตนเปิดตัวทุกอย่างด้วยความจริงใจ ไม่ใช่ถึงเวลาเข้าไปแล้ว แล้วเข้าไปเปลี่ยน บางครั้งคนเราต้องยอมเปลี่ยน ไม่ใช่เปลี่ยนเพื่อหนี แต่เปลี่ยนเพื่อทำงาน นี่คือตัวตนของผม" นายอุเทน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี