วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การจ้างงาน ปัญหากำลังซื้อของประชาชน และแนวทางการลงทุนภาครัฐช่วงเศรษฐกิจขาลงว่า ปัญหาปัจจุบันเหมือนห่วงโซ่ ประชาชนขาดกำลังซื้อ ภาคเอกชนจึงไม่ลงทุน เพราะลงทุนไปก็ไม่มีคนซื้อ เมื่อเอกชนไม่ลงทุน ก็ไม่เกิดการจ้างงาน ประชาชนก็ยิ่งไม่มีงานทำ ก็ยิ่งไม่มีกำลังซื้อหนักเข้าไปอีก เป็นวงจรแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถามว่าแก้วงจรนี้อย่างไร จะหวังให้เอกชนลงทุนในภาวะแบบนี้ก็คงยาก การลงทุนภาครัฐจึงต้องเป็นคำตอบในการสร้างงานให้ประชาชนในระยะเริ่มแรก แต่การลงทุนภาครัฐอย่างที่ทำๆกันมา มันยังไม่เหมาะสมกับสภาวการณ์ ต้องมาคิดกันใหม่ ปัจจุบันการลงทุนภาครัฐ ส่วนมากเป็นเมกะโปรเจกต์ ทุนใหญ่ไม่กี่บริษัทที่ได้รับประโยชน์ ห่วงโซ่การผลิตจึงแคบมาก การจ้างงานจึงเกิดในวงแคบ ประชาชนเลยรู้สึกว่าไม่มีงานทำ ผลต่อระบบเศรษฐกิจเกิดขึ้นช้า กว่าเม็ดเงินจะเข้าสู่ระบบใช้เวลา 1-2 ปี เป็นอย่างน้อย
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ในสภาวะเช่นนี้ เราต้องการ “ความรวดเร็ว” ของเม็ดเงินพุ่งสู่มือประชาชนผ่านการจ้างงาน เราต้องการเห็นผู้ได้รับประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐให้มากรายที่สุด รัฐบาลควรขับเคลื่อนด้วย “การลงทุนภาครัฐขนาดเล็ก แต่มากโครงการ” แทนโครงการขนาดใหญ่ไม่กี่โครงการ ซอยผู้ได้ประโยชน์ให้แก่บริษัทให้มากรายที่สุด สร้างห่วงโซ่การผลิตที่กว้างขึ้น.. SMEs อุตสาหกรรมกลางน้ำจะเกิดขึ้นเป็นทวีคูณ และจะเกิด “การจ้างงานในวงกว้างและทั่วถึงให้กับประชาชน” เกิดกำลังซื้อขึ้นรวดเร็ว และเงินเข้าสู่ระบบเร็วกว่า การลงทุนภาครัฐเป็นเครื่องสำคัญ แต่ต้องใช้ให้เหมาะกับสภาวการณ์ ซึ่งถ้ารัฐบาลยังคงทำแบบเดิมอยู่ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือ กำลังซื้อจะไม่ฟื้น ประชาชนอดตายก่อน ภาคเอกชนรายเล็กอดตายตาม และในที่สุดภาคเอกชนขนาดใหญ่ก็จะไม่รอด ถ้าถึงขั้นนั้นแล้ว ก็พยุงเศรษฐกิจจะยิ่งยากเป็นทวีคูณ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี