โฆษก กมธ.งบฯ’ เผย กมธ. ทักท้วงงบกรมบัญชีกลางเพื่อรักษาระบบ ‘อี บิดดิ้ง’(E-Bidding)หลังมีเหตุแก๊งขโมยข้อมูลสร้างความไม่เชื่อมั่นในการประมูลงาน เตรียมพิจารณางบกระทรวงการต่างประเทศ เป็นคิวต่อไป
เมื่อเวลา 10.20 น.วันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 แถลงถึงความคืบหน้าการพิจารณางบประมาณ พ.ศ. 2563 ว่า ขณะนี้ทางกรรมาธิการฯ ได้ใช้เวลาพิจารณาไปแล้ว 113 ชั่วโมง จาก 240 ชั่วโมง คิดเป็นร้อยละ 47 ของเวลาการพิจารณาทั้งหมด โดยสัปดาห์นี้ได้พิจารณางบประมาณของกระทรวงการคลัง ที่ขอไว้ 249,675,980,400 บาท โดยเริ่มพิจารณาใน 3 หน่วยงาน 1 กองทุน คือ สำนักงานปลัดกระทรวงฯจำนวน 2,000,162,500 บาท สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำหรับกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม จำนวน 40,000,000,000 บาท กรมธนารักษ์ จำนวน 3,778,702,110 บาท กรมบัญชีกลาง จำนวน 2,032,785,770 บาทและพิจารณางบของงบกลาง ที่กรมบัญชีกลางรับผิดชอบอีก คือ
1) เงินเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ 265,716,318,000 บาท
2) เงินช่วยเหลือข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐ 4,940,000,000 บาท
3) เงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการ 10,464,600,000 บาท
4) เงินสำรองเงินสมทบและเงินชดเชยของข้าราชการ 62,780,000,000 บาท
5) เงินสมทบลูกจ้างประจำ 670,000,000 บาท
6) ค่าใช้จ่ายชดใช้เงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน 3,000,000,000 บาท
7) ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลข้าราชการ ลุกจ้าง และพนักงานของรัฐ จำนวน 71,200,000,000 บาท โดยกระทรวงการคลัง มี 16 หน่วยงาน 2 กองทุน มีงบกลาง 7 รายการ ที่ กรรมาธิการฯ จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จ
นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ทางกรรมาธิการฯ มีข้อสังเกตและทักท้วงต่อกรมบัญชีกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลควบคุมการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารวัตถุของภาครัฐ ผ่านระบบอี บิดดิ้ง (E - Bidding) ซึ่งแต่เดิมมีความเชื่อว่า มีประสิทธิภาพ แต่จากกรณีที่มีข่าวว่า มีการจับกุมแก๊งฮั้วประมูลงาน เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 ที่ จ.ยโสธร โดยมีการจ่ายเงิน ร้อยละ 1.5 ของมูลค่าโครงการ เพื่อให้รู้ข้อมูลภายในของการจัดซื่อจัดจ้าง ซึ่งขณะนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะมีแนวทางในการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างอย่างไร และกรมบัญชีกลาง มีการดำเนินการตรวจสอบอย่างไร
โดยอธิบดีกรมบัญชีกลาง ชี้แจงว่า เรื่องที่เกิดขึ้น เกิดจากการแฮกข้อมูลและนำไปใช้ในการฮั้ว ซึ่งปีนี้ได้ของบในการดูแล อี บิดดิ้ง 95 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบ ส่วนความคืบหน้าในคดีดังกล่าว ทางดีเอสไอ เป็นผู้ดำเนินการสอบสวน ขณะที่มีกรรมาธิการแย้งว่า ข้อมูลที่ถูกแฮกและนำมาใช้มีเพียง 10 % แต่ข้อมูลที่นำมาใช้ มีรายละเอียด ทั้งบริษัทที่เข้าร่วมประมูลและยอดเงินประมูล ต้องมีคนภายในของกรมเป็นผู้เกี่ยวข้อง หรืออาจมีการซื้อขายข้อมูลโดยอธิบดีกรมบัญชีกลาง รับปากว่า จะตั้งคณะกรรมการภายในเพื่อสอบสวน
ทั้งนี้ กมธ.ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ในกรณีดังกล่าว อาจจะมีการตั้ง กมธ. วิสามัญ ขึ้นศึกษาปัญหาดังกล่าว เป็นการเฉพาะ เพราะเนื่องจาก กระทบต่อความเชื่อมั่นและการป้องกันการทุจริต ในการประมูลทั่วประเทศ ที่ใช้ระบบ อี บิดดิ้ง ของกรมบัญชีกลาง โดยยืนยันว่า กมธ. เชื่อมั่นในระบบ แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องคนภายในองค์กร อีกทั้ง ระหว่างการชี้แจง ที่ปรึกษาของอธิบดีกรมบัญชีกลาง ได้ให้เจ้าหน้าที่ที่ติดตาม จดชื่อ กมธ. ที่ซักถามเรื่องนี้โดยละเอียดไว้ด้วย ซึ่ง กมธ. ยืนยันว่า ไม่พอใจในคำชี้แจงของอธิบดีกรมบัญชีกลาง จึงอาจจะเสนอตั้ง กมธ. ขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อไป ทั้งนี้ หลังจากพิจารณางบของกระทรวงการคลังเสร็จแล้ว ต่อไป จะเป็นคิวของกระทรวงการต่างประเทศ. ที่ขอลัดคิวของกระทรวงคมนาคม เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่ชี้แจง ติดภารกิจการประชุมในต่างประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี