"จุรินทร์"ตอบกระทู้ส.ส.ในสภา ยันเดินหน้าประกันรายได้ข้าว-พร้อมใช้ทุกมาตรการเสริม สั่งกรมการค้าภายในคลอด3มาตรการแล้ววานนี้
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) โดยมี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในที่ประชุม โดยมีการพิจารณาระเบียบ วาระ กระทู้ถามสด ที่ นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย ตั้งคำถาม ถาม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวกับปัญหาราคาข้าว ที่เข้าร่วมโครงการประกันรายได้ของเกษตรกร
โดย นายจุรินทร์ กล่าวว่า ช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ความชื้นสูง ทำให้คุณภาพจะต่ำกว่ามาตรฐาน ราคาข้าวก็จะมีราคาต่ำลง ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ก็ได้มีมาตรการเสริมโดยกรมการค้าภายในได้ประชุมระดมความคิดเห็นกับทั้งโรงสี สหกรณ์การเกษตร ธกส. สมาคมธนาคาร เมื่อวานนี้ (วันที่ 19 พ.ย.62) โดยมีอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธาน ซึ่งมาตรการเสริมประกอบด้วย
1.ใช้งบประมาณ 1,500 ล้านบาท ดำเนินการจ่ายขาดให้เกษตรกรเก็บข้าวไว้ 1 - 5 เดือนก่อนขาย ซึ่งการเก็บข้าวไว้ก่อนนี้จะได้รับเงินชดเชยในการเก็บค่าตันละ 1,500 บาท
2.ให้สถาบันเกษตรกรตันละ 1,500 บาท เพื่อแบ่งเป็นสองก้อน 1,000 บาท สำหรับสถาบันเกษตรกร และ 500 บาท สำหรับเกษตรกรที่เก็บข้าวไว้กับสถาบันเกษตรกร
3.อนุมัติสินเชื่อชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการ (โรงสี) ร้อยละ 3 ให้เพื่อช่วยเหลือลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวเกษตรกร เช่น กู้มา 4% สถาบันก็จ่าย 1% ส่วน 3% รัฐบาลเป็นผู้ออกให้
นอกจากนี้ พยายามเร่งรัดการส่งออกไป ทั้งจีน ตุรกี เยอรมัน อินเดีย ปรากฏผลว่า สามารถที่จะทำสัญญาระบายข้าวออกไปได้ ยกตัวอย่างเช่น ที่อินเดียซึ่งถือว่าเป็นตลาดใหม่ของเราก็สามารถดำเนินการขายได้จำนวนหนึ่ง และที่ตุรกีที่ผมเพิ่งกลับมาเมื่อวานเราสามารถขายข้าวได้ 11,000 ตัน ทั้งเป็นข้าวขาว และเป็นข้าวถุง และก่อนที่ตนมารัฐสภา กระทรวงพาณิชย์เชิญผู้นำเข้า 190 บริษัททั่วโลก มาพบกับผู้ส่งออกของเรา 176 บริษัท และเจรจาซื้อขายพืชเกษตรกันทั้งข้าว มัน ยาง ผลไม้แปรรูป และผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพ เฉพาะข้าวทำ MOU ได้ 146,000 ตันมูลค่า 4,000 ล้านบาท และตนเพิ่งได้พบสมาคมผู้นำเข้าข้าวจากฮ่องกงยังยืนยันว่าจะเร่งรัดการนำเข้าจากประเทศไทยเพราะข้าวไทยมีคุณภาพและเราเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันและปีหน้าจะช่วยซื้อข้าวไทยมากขึ้นจากคำร้องขอจากรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จากประเทศไทย
นอกจากนั้น นายจุรินทร์ ยังชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาข้าว เพื่อจ่ายส่วนต่างโครงการประกันรายได้ข้าว ซึ่งเป็นโครงการหลัก คือ ราคาอ้างอิง โดยคำนวณมาจาก 3 แหล่ง 1.ราคาข้าวสารและผลิตภัณฑ์ทอนจากข้าวเปลือก 2.ราคาข้าวเปลือกจากกรมการค้าภายใน 3.ราคาข้าวเปลือกจากสมาคมโรงสี ซึ่งเฉลี่ย 3 แหล่งนี้ใน 15 วันทำการ ไม่นับเสาร์ - อาทิตย์ การจ่ายเงินส่วนต่างนั้นที่ผ่านมามีการจ่ายเงินส่วนต่างไปแล้ว ทั้งปาล์ม ข้าว ยาง ซึ่งข้าวนั้นจ่ายงวดแรกไปตั้งแต่ วันที่ 15 ตุลาคม 2562 ซึ่งจะจ่ายทุกๆ 15 วัน
สำหรับการซื้อข้าวของโรงสีนั้น เป็นข้าวที่รับซื้อโดยระบุเปอร์เซ็นต์ความชื้นตามกำหนดที่ระบุของชั่งตวงวัด ของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งหากมีโรงใดมีการเอาเปรียบเกษตรกรสามารถแจ้งมาได้ที่ กรมการค้าภายใน หรือแจ้งมาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กรณีถ้าภัยแล้งนั้นในส่วนนี้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระทรวงพาณิชย์แต่ขอตอบเพียงว่าเงินภัยแล้ง รัฐบาลมีการการชดเชยภัยแล้ง และการชดเชยน้ำท่วม
"ถึงแม้ว่าจะประสบภัยแล้งหรือน้ำท่วมท่านก็จะได้เงินส่วนต่าง (โครงการประกันรายได้) โดยท่านจะต้องระบุลงทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรว่าข้าวนั้นปลูกกี่ไร่ เก็บเกี่ยววันไหน" นายจุรินทร์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี