เอาแล้วไง!!‘ช่อ’ร้อง‘กกต.’สอบคุณสมบัติส.ส.‘มาดามเดียร์’แฉเหมือนกับ‘ธนาธร’เป๊ะ
วันศุกร์ ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562, 16.40 น.
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 ที่รัฐสภา น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวถึงกรณีที่ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ดำเนินการฟ้องร้องตนเอง กรณีที่ยกตัวอย่างกรณีการถือหุ้นสื่อ ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เชื่อมโยงกัยกรณีของ น.ส.วทันยา ว่า ตนได้มอบหมายให้ทนายความไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการเป็นส.ส.ตามรัฐธรรมนูญของน.ส.วทันยา ภายหลังได้ตรวจสอบว่าแม้น.ส.วทันยา จะเคยถือหุ้นบริษัทเครือเนชั่นและได้มีการโอนหุ้นดังกล่าวออกไปแล้ว แต่พบว่ามีการยื่นสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือแบบบมจ.6 ซึ่งเป็นแบบบมจ.6ที่ใช้กับการแจ้งเปลี่ยนชื่อผู้ถือหุ้นในบริษัทจำกัดมหาชน ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในช่วงเดือนก.ย.2562 ภายหลังรับสมัครเลือกตั้งเป็นเวลา 6 เดือน
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า กรณีของน.ส.วทันยา เทียบเคียงได้กับกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ต้องพ้นจากตำแหน่งส.ส.บัญชีรายชื่อ เพราะได้ยื่นสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นในบริษัทจำกัด หรือแบบบอจ.5 หลังจากการรับสมัครเลือกตั้ง อันเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายธนาธร ยังคงมีหุ้นในบริษัทที่ประกอบกิจการสื่อสารมวลชนในวันสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้น เมื่อนำทั้งสองกรณีมาเทียบเคียงกัน จึงเป็นที่มาของการยื่นให้กกต.ตรวจสอบและส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพของน.ส.วทันยา พร้อมกันนี้ขอให้มีคำสั่งให้น.ส.วทันยา ยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเช่นเดียวกับกรณีของนายธนาธร รวมไปถึงการดำเนินคดีในทางอาญาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.พ.ศ.2561 มาตรา 151 ด้วย โดยต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่1-20 ปี
"ถึงคุณวทันยาจะเข้ามาดำรงตำแหน่งส.ส.บัญชีรายชื่อภายหลัง แต่การวินิจฉัยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามจะต้องพิจารณา ณ วันที่มีการสมัครรับเลือกตั้ง ไม่ใช่วันที่ได้รับตำแหน่งส.ส.บัญชีรายชื่อ" น.ส.พรรณิการ์ กล่าว