‘เทวัญ’เผยดึงสตรีภาคธุรกิจนั่งกมธ.แก้รธน.สัดส่วนครม.
เมื่อเวลา 09.15 น.วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพิจารณาบุคคลมาทำหน้าที่คณะกรรมาธิการวิสามัญ(กมธ.) เพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี(ครม.) จำนวน 6 คน ว่า ขณะนี้ได้ตัวบุคคลที่จะมาทำหน้าที่ กมธ.ในสัดส่วนของครม.ครบแล้ว โดยเฉพาะในส่วนตัวแทนภาคธุรกิจที่เป็นสุภาพสตรีที่มาจากสภาสตรีแห่งชาติ เป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับจากภาคธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม วันนี้แต่ละพรรคจะมีการส่งชื่อกรรมาธิการฯ ในส่วนของพรรคการเมืองต่างๆ มายังตน ซึ่งตนจะนำไปหารือในที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) ก่อนที่จะนำรายชื่อทั้งหมดรายงานให้ที่ประชุม ครม.รับทราบในวันที่ 26 พฤศจิกายน จากนั้นจะเสนอญัตติต่อสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 27 พฤศจิกายน เพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
ผู้สื่อข่าวถามถึงการนัดหมายพบปะพูดคุยกับหัวหน้าและเลขาธิการพรรคร่วมรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี เพื่อเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงปลายเดือนธันวาคม นายเทวัญ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังไม่ได้นัดหมาย ซึ่งขณะนี้ก็ติดภารกิจ อยู่ที่สาธารณรัฐเกาหลี เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ ดังนั้น ก็ขอให้นายกฯ กลับมาก่อนแล้วค่อยหาเวลาที่สะดวกนัดหมายกัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อ หรือได้รับการประสานจากใคร ส่วนเรื่องการเตรียมพร้อมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขอให้ฝ่ายค้านกำหนดวันที่ชัดเจน เพราะตอนนี้มีเพียงกระแสข่าวว่าจะขอยื่นอภิปรายไม่ไว้ใจในช่วงปลายเดือนธันวาคม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี