ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า วิปฝ่ายค้านจะประชุมกันในวันที่ 26 พ.ย.นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการบุคคลที่จะมาดำรงประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวเห็นว่า นายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา มีความเหมาะสม แต่ในภาพรวมคิดว่า ประธาน กมธ.ดังกล่าวควรมาจากบุคคลที่เป็นกลางหรือฝ่ายค้านที่มีความตั้งใจอยากแก้รัฐธรรมนูญ เพราะเชื่อว่า จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญประสบความสำเร็จได้รับความร่วมมือ แต่หากได้บุคคลที่เป็นกลาง แต่ไม่มีเจตนาอยากแก้รัฐธรรมนูญ จะทำให้การแก้รัฐธรรมนูญเป็นไปได้ยาก เพราะคนที่จะมาเป็นประธาน กมธ.ต้องมีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการโน้มน้าวที่ประชุมให้สามารถดำเนินไปในทิศทางเดียวกันได้
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ส่วนตัวมีความเห็นเป็น 2 ทางเกี่ยวกับกรณีที่จะมีอดีต กรธ.เข้ามาเป็น กมธ.คือ 1.ถ้าเข้ามาช่วยกันผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเห็นว่า วิธีคิดตอนร่างรัฐธรรมนูญกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน มีผลให้รัฐธรรมนูญมีปัญหาจริง จะทำให้การแก้รัฐธรรมนูญเป็นไปได้ 2.ถ้าเข้ามาขัดขวาง จะมีผลให้การผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้ยาก มีอุปสรรคมากขึ้น
ทั้งนี้ กรอบการทำงานของ กมธ.ชุดนี้ ควรกำหนดไว้ไม่เกิน 90 วัน เพราะหากมีเวลาศึกษามากกว่านี้ หรือนานเกินไปจะทำให้การทำงานไม่เกิดประโยชน์ เนื่องจากเวลานี้ก็เริมรู้กันอยู่ว่า รัฐธรรมนูญมีปัญหาจุดใด ส่วนตัวคิดข้อสรุปของ กมธ.ชุดนี้จะออกมาใน 4 แนวทาง ได้แก่ 1.การเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ว่าด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การแก้รัฐธรรมนูญทำได้ง่ายขึ้น 2.การมาตรา 256 พร้อมกับแก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราบางประเด็น เช่น ระบบการเลือกตั้ง 3.การแก้มาตรา 279 ว่าด้วยการรับรองประกาศ คำสั่งของ คสช.ให้ชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้เป็นไปได้น้อยที่สุด 4.การแก้ไขมาตรา 256 พร้อมกับตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เป็นประเด็นความหวังสูงสุดของฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่า การแก้รัฐธรรมนูญจะเป็นไปได้อย่างไร หาก ส.ว.ไม่ให้ความร่วมมือ นพ.ชลน่าน ตอบว่า ยอมรับว่าเรื่อง ส.ว.เป็นปัญหาสำคัญ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้การแก้รัฐธรรมนูญจะทำได้ต่อเมื่อมีเสียง ส.ว.1 ใน 3 หรือ 84 คน จาก250 คน เห็นชอบด้วย อย่างไรก็ตาม คิดว่าในชั้น กมธ.จะพิจารณาแนวทางแก้รัฐธรรมนูญให้มีผลกระทบต่อ ส.ว.เช่น ไม่ให้เรื่องเกี่ยวกับ ส.ว.มีผลบังคับใช้ทันที่ แต่ให้มีผลบังคับใช้ในอนาคต หลังหมดบทเฉพาะกาลไปแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี