เลขาฯส.ป.ก.รับปารีณาส่งหนังสือขอความเป็นธรรม “ธรรมนัส” สั่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบที่ดินฟาร์มไก่เขาสนฟาร์ม ใหม่ หวั่นทำไม่ละเอียดถูกฟ้องกลับ ชี้ปัญหาจากใช้แผนที่คนละฉบับ ย้ำฟันอาญาไม่ได้ หากมีหลักฐานถือครองมาก่อนประกาศปฏิรูป เผยแนวโน้มที่ดิน 46 ไร่ รุกป่า กลายเป็นที่ “ส.ป.ก.” 90% ยันทุกคนต้องใช้กฎหมาย ปฎิบัติมาตรฐานเดียวกัน ด้านป่าไม้เร่งหาหลักฐานก่อนแจ้งความดำเนินคดี
ความคืบหน้าการตรวจสอบที่ดินในครอบครองของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรีจำนวน 1,706 ไร่ หลังน.ส.ปารีณาเดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ชี้แจงถึงการเข้าตรวจสอบที่ดิน โดยอ้างว่า แผนที่ที่ส.ป.ก. และกรมป่าไม้ใช้ตรวจสอบแนวเขต ซึ่งมี 2 ฉบับ มาตราส่วนต่างกันอาจทำให้ผลตรวจสอบคลาดเคลื่อน หลังกรมป่าไม้เข้ารังวัดพื้นที่แล้วพบว่า ฟาร์มไก่ “เขาสนฟาร์ม 1” อยู่ในเขตป่าไม้ประมาณ 46 ไร่
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า น.ส. ปารีณาทำหนังสือถึงทั้งกรมป่าไม้และส.ป.ก. ให้ตรวจสอบแนวเขตใหม่ แต่ยังไม่ได้รับหนังสือ หากแจ้งมาจริงจะให้ความเป็นธรรมแก่น.ส. ปารีณา โดยมอบให้คณะทำงานตรวจสอบแผนที่ร่วมกับส.ป.ก. อีกครั้ง เพื่อยืนยันความถูกต้องของการกำหนดแนวเขตพื้นที่ของแต่ละหน่วยงาน แต่ยืนยันว่าจะไม่เข้าไปรังวัดแนวเขตในพื้นที่ซ้ำ เพราะตรวจสอบทั้งจากการนำชี้ของผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งใช้เครื่องวัดพิกัดดาวเทียมและแผนที่มาตรฐาน ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่จะแจ้งความดำเนินคดีตามพ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติและพ.ร.บ. ป่าไม้แน่นอน เนื่องจากพบว่าฟาร์มไก่เขาสนฟาร์ม อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 31-0-12 ไร่และอยู่ในพื้นที่ตามพ.ร.บ. ป่าไม้ 15-2-36 รวม 46-2-48 ไร่
อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวต่อว่า วันนี้คณะทำงานของกรมป่าไม้จะขอเอกสารเพิ่มเติมจากปศุสัตว์จังหวัดราชบุรีหาหลักฐานยืนยันว่า ผู้ครอบครองฟาร์มไก่ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 109 หมู่ที่ 6 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรีนั้นเป็นชื่อใคร โดยจะขอดูการขึ้นทะเบียนฟาร์มหรือการออกใบรับรองมาตรฐานฟาร์ม นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่า การออกเลขที่บ้านให้นั้น ออกให้แก่ใคร ซึ่งใช้ประกอบการทำบันทึกแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป
ด้านนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก.เปิดเผยว่า ตนไม่ได้พบกับน.ส.ปารีณาที่มายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อส.ป.ก. เมื่อเช้าวันที่ 25 พฤศจิกายน ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนด้านปัญหาที่ดินรับหนังสือไว้ ในหนังสือขอให้เลขาฯส.ป.ก. ตรวจสอบให้ชัดเจนว่า ที่ดินที่น.ส. ปารีณาครอบครองนั้นอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินหรือพื้นที่ป่าไม้กันแน่ เพราะส.ป.ก. ใช้แผนที่มาตราส่วน 1 : 100,000 แต่กรมป่าไม้ใช้แผนที่มาตราส่วน 1 : 400,000 จึงเกรงว่า การรังวัดแนวเขตอาจคลาดเคลื่อนหรือมีการทับซ้อนของแนวเขตง 2 หน่วยงาน จึงขอความเป็นธรรมเพื่อที่ตนเองจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย นอกจากนี้ น.ส. ปารีณายังยืนยันว่าครอบครัวเข้ามาใช้ประโยชน์ในที่ดินแปลงดังกล่าวก่อนกรมป่าไม้จะส่งมอบให้ส.ป.ก. ประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน 2536 เช่นเดียวกับชาวบ้านอีกหลายราย ฉะนั้น ส.ป.ก.จะเร่งประสานกรมป่าไม้ตั้งคณะทำงานร่วม เพื่อตรวจสอบแนวเขตใหม่ โดยใช้แผนที่เดียวกัน
เลขาฯส.ป.ก.กล่าวด้วยว่า สำหรับพื้นที่ที่ตรวจสอบแล้วพบว่า อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน จะนำเข้ากระบวนการจัดสรรสิทธิ์มอบส.ป.ก. 4-01 ให้ผู้มีคุณสมบัติตามกฎหมาย หากว่าน.ส. ปารีณาจะยื่นขอรับการจัดสรรสิทธิ์สามารถทำได้ แต่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินระดับจังหวัดต้องตรวจสอบคุณสมบัติอย่างละเอียดว่า เข้าเกณฑ์ทำประโยชน์ในพื้นที่ส.ป.ก. ได้หรือไม่ เป็นมาตรฐานเดียวกับราษฎรรายอื่น
ขณะที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการตรวจสอบการถือครองที่ดินของน.ส.ปารีณา ที่ยังไม่มีความชัดเจนแม้จะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบของกรมป่าไม้ไปแล้วครั้งหนึ่งว่า ตนมอบให้เลขาฯ ส.ป.ก. ไปดำเนินการแล้ว และน.ส.ปารีณายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อกรมป่าไม้และส.ป.ก.ให้ตรวจสอบแนวเขตใหม่ โดยทั้งสองหน่วยงานจะประชุม เพื่อให้การตรวจสอบแนวเขตดังกล่าวดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ตนเข้าใจว่าน.ส.ปารีณาเข้าใจไปเองว่ามีที่ดินในครอบครอง 1,700 ไร่ แต่ในข้อเท็จจริงมีประมาณ 600 ไร่
รมช.เกษตรฯกล่าวต่อว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินของส.ป.ก.วันนั้นทำแบบหยาบๆ ตนจึงสั่งการให้ทำให้ละเอียดก่อนดำเนินการใดๆ ถ้าทำไม่ละเอียดจะถูกฟ้องกลับ ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องไปรังวัดใหม่ และที่สำคัญแต่ละกระทรวงต่างก็อ้างแผนที่ของตัวเอง ซึ่งจะมีข้อพิพาทกันตลอด ฉะนั้น ตนยืนยันจะเดินหน้าทำแผนที่ One Map เพื่อให้การแก้ปัญหาไปทิศทางเดียวกัน ซึ่งใช้เวลาอีกไม่นาน
ส่วนต้องเชิญน.ส.ปารีณามาชี้แนวเขตหรือไม่นั้น รมช.เกษตรฯกล่าวว่า ส.ป.ก.ต้องดำเนินการเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงก่อน ถึงจะเรียกน.ส.ปารีณามาให้ข้อมูล เรามีแผนที่ของเราอยู่แล้ว เพียงแต่จะเอามาตรฐานของกรมป่าไม้หรือส.ป.ก.เท่านั้นเอง นอกจากนั้น ตนได้สั่งการให้เลขาฯส.ป.ก. ตรวจสอบการครอบครองที่ดินส.ป.ก. ทั้ง 72 จังหวัด ซึ่งไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้งใคร ทุกคนต้องใช้มาตรฐานเดียวกัน
ร.อ.ธรรมนัสกล่าวด้วยว่า กรณีน.ส.ปารีณา ต้องย้อนไปถึงสมัยนายทวี ไกรคุปต์ บิดา ถือครองที่ดินผืนนี้มาก่อนที่จะประกาศเป็นพื้นที่ส.ป.ก. เราได้รับส่งมอบมาจากกรมป่าไม้ โดยมีผู้อยู่อาศัยครอบครองอยู่ด้วย ดังนั้น จึงไม่สามารถดำเนินคดีอาญากับผู้ที่ครอบครองอยู่ก่อน ไม่ว่ากรณีใดๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อใช้แผนที่ one map แล้ว พื้นที่ 46 ไร่ที่พบว่ารุกที่ป่าสงวนมีแนวโน้มจะกลายเป็นที่ส.ป.ก. ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า 90%
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า กรมป่าไม้อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารหลักฐาน ให้รัดกุมก่อนแจ้งความดำเนินคดี คาดว่าต้องใช้เวลา 1-2 วัน ไม่น่ามีปัญหา ส่วนจะแจ้งความคดีอาญาด้วยหรือไม่ กรมป่าไม้ใช้กฏหมายอยู่ 2 ฉบับคือ กฏหมายป่าไม้ พ.ศ.2484 และกฎหมายป่าสงวน พ.ศ.2507 มีขั้นตอนการดำเนินการ และเจ้าหน้าที่รัฐจะดำเนินการหลังตรวจสอบเสร็จ เมื่อส่งเอกสาร แจ้งความตำรวจก็เริ่มเข้าขั้นตอนดำเนินคดีและผู้ที่ถูกร้องเรียนต้องหาหลักฐานพยานในขั้นตอบสืบสวนต่อไป
สำหรับท่าทีของแกนนพรรคพลังประชารัฐต่อกรณีครอบครองที่ดินของน.ส.ปารีณานั้น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐกล่าวว่า เรื่องคดีความต้องว่าไปตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ส่วนเรื่องบทบาทการทำงาน น.ส ปารีณาพิจารณาด้วยตัวเองได้อยู่แล้ว พรรคคงไม่ไปก้าวล่วงวิธีทำงานของแต่ละคน ยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมีทั้งผลบวกและลบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลและพรรค จะต้องพูดคุยกันในพรรค
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องให้ น.ส.ปารีณามีโอกาสใช้สิทธิ์ชี้แจงทำความเข้าใจ และพรรคพร้อมจะเข้าไปดูแลช่วยเหลือหากมีการร้องขอ
ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่ตนให้สัมภาษณ์จะไม่ปกป้องน.ส.ปารีณานั้น ไม่ได้หมายถึงการตัดหางปล่อยวัด แต่ตนบอกว่า ถ้าผิดก็ว่าไปตามกฎหมาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี