“ญาติวีรชนพ.ค.35” ชี้สัญญาณอันตรายรัฐบาลเสื่อม-เศรษฐกิจทรุด การเมืองใกล้ “ลงท้องถนน” เตือนทุกฝ่ายระวัง “คุมไม่อยู่” ซ้ำรอยประวัติศาสตร์ จี้ ประยุทธ์เร่งสร้างปรองดองก่อนนองเลือด
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2562 นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 และอดีตกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่า บ้านเมืองยังวนเวียนอยู่ในความขัดแย้งทางความคิดของคนในชาติเหมือนเดิมและยังไม่เห็นหนทางสู่ความสงบเพราะผู้รับผิดชอบบ้านเมืองแก้ไขปัญหาผิดพลาดและกำลังหลงทางจึงมีแนวโน้มว่าจะเกิดความขัดแย้งขึ้นอีกและส่งผลกระทบแทบทุกด้านจึงขอแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์บ้านเมืองดังนี้
1.กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ลาออกจากที่ปรึกษากรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯกลับไปอยู่กับประชาชนเพื่อรณรงค์ในเรื่องต่างๆเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมเพราะตนเองมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคดีความทางการเมืองจึงขอให้กำลังใจสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ให้อดทนอดกลั้นรักษาแนวทางประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาด้วยอดุมคติที่มั่นคง แต่เป็นห่วงในการเคลื่อนไหวนอกสภาด้วยการปลุกมวลชนให้ลุกขึ้นสู้กับเผด็จการนั้นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษและอย่าให้ซ้ำรอยประวัติศาสตร์ ยิ่งสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ที่ประชาชนกำลังประสบความทุกข์ยากจากภาวะเศรษฐกิจหากมาร่วมผสมโรงกับเหตุทางการเมืองจะทำให้สถานการณ์ร้อนแรงขึ้น หากลงท้องถนนเมื่อไหร่ก็จะสร้างความเดือดร้อนและสุ่มเสี่ยงเกิดความรุนแรงขึ้นได้และคราวนี้จะควบคุมสถานการณ์ได้ยากหาก “เอาไม่อยู่”ใครจะรับเป็นผู้รับผิดชอบ
2.ความขัดแย้งทางการเมืองในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา องค์กรอิสระมีบทบาทสำคัญในการเข้ามาจัดการปัญหาความขัดแย้ง ทางการเมือง ซึ่งคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 ได้มีส่วนร่วมในการผลักดันให้เกิดองค์กรอิสระ9องค์กรตามรัฐธรรมนูญฉบับปี40 เป็นเหมือน”องค์กรสวรรค์”มีหน้าที่ปกปักรักษาชาติบ้านเมือง หรือคอยตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ แต่บัดนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าองค์กรอิสระต่างๆไม่ได้ทำหน้าที่ให้เป็นไปตามภารกิจของตนเอง โดยเฉพาะ “ตุลาการภิวัฒน์” ที่หลายฝ่ายเชื่อว่า จะเป็นกลไกในการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง กลับกลายเป็นเพียง “วาทกรรม” เท่านั้น เพราะคำวินิจฉัยในคดีความต่างๆไม่ได้ยึดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริงกลับทำเหมือนองค์กรทั่วไป ถูกมองว่าปกป้องแต่กลุ่มผู้มีอำนาจจัดการฝั่งตรงข้ามไร้บรรทัดฐานไม่เป็นที่เชื่อถือ “2มาตรฐาน” แทนที่องค์กรอิสระจะเป็นกลไกคลี่คลายความขัดแย้งกลับซ้ำเติมความขัดแย้งเสียเอง ดังนั้นต้องทบทวนบทบาทหน้าที่ของตัวเองใหม่
3.บทบาทของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทำตัวเสื่อมลงทุกวัน ไม่ได้ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของสาธารณะ ส.ส.บางคนบุกรุกป่าก็เพิกเฉยไม่เคารพกฎหมายบ้านเมืองสำคัญตัวเองผิดคิดว่าได้รับเลือกตั้งมาแล้วมีอภิสิทธิ์ชนทำอะไรก็ไม่ผิดโดยมีรัฐบาลฝ่ายตัวเองคอยหาทางอุ้มให้พ้นผิด ในส่วนคณะกรรมาธิการโดยเฉพาะคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ก็ไม่รู้หน้าที่ของตัวเองในการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นซึ่งมีมากมาย อาทิ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ อีอีซี ,โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ,รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน,การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 หรือ เทอร์มินอล 2 โครงการเหล่านี้มีการทุจริตเอื้อประโยชน์กลุ่มทุน และคนในรัฐบาลคนใดได้รับประโยชน์อย่างไรบ้างรวมทั้งการยื้อเวลาแบน3สารพิษ เพื่อรอให้หมดสต๊อกก่อน ใครได้ประโยชน์ ทำไมไม่ตรวจสอบ ดังนั้นขอให้ทำหน้าที่คุ่มค้าภาษีของประชาชนด้วยอย่าทำตัวเหมือนอยู่ใน “โรงเหล้าเถื่อน”
4. วิกฤติทางการเมืองที่ยังติดหล่ม เพราะผลพวงจากการรัฐประหารของคสช.ไม่ได้รักษาสัญญาประชาคมที่จะสร้างความสมานฉันท์สามัคคีและปฏิรูปประเทศทุกด้านร่างรัฐธรรมนูญมาสืบทอดอำนาจตัวเองตอนนี้เริ่มส่งผลกระทบแทบทุกด้าน ด้านการเมืองก็ยังวนเวียนอยู่ในวงจรอุบาทว์ กระบวนการยุติธรรมก็ไม่เป็นที่เชื่อถือยอมรับ ประชาชนไม่รับความยุติธรรมก็เพิ่งพาใครไม่ได้ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็ถึงทางตันประชาชนระดับล่างเดือดร้อนกันทั่วหน้า แต่กลุ่มทุนใหญ่รวยขึ้น ประชาชนทุกภาคส่วนทุกเสื้อสีกำลังอึดอัดกับสถานการณ์ เริ่มมีกระแสออกมาไล่รัฐบาล ดังนั้นขอให้เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่าเล่นเกมเตะถ่วง และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของหัวหน้าคสช. ตามมาตรา 44 เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการรัฐประหาร รวมทั้งปรับปรุงแก้ไขกฎหมายต่างๆให้สอดคล้องกับสถานการณ์ แล้วเริ่มต้นแก้ไขปัญหาให้ถูกทางมิเช่นนั้นบ้านเมืองจะเสียหายเกินกว่ารัฐบาลจะรับผิดชอบได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี