จับตาประชุมสภา4ธ.ค.
เสียงปริ่มน้ำ
วิปชงขานชื่อเช็คเสียง
‘บิ๊กป้อม’เชื่อไม่มีปัญหา
รบ.แห่ร่วมมีทติ้งคึกคัก
คุก2นปช.ล้มถกอาเซียน
ศาลสั่งหมายจับ‘ไวพจน์’
แกนนำรัฐบาล พร้อมใจร่วมงานเลี้ยง พบปะแกนนำ“ประวิตร”ย้ำรัฐบาลทำงานราบรื่นดี เชื่อประชุมสภาฯไร้ปัญหาองค์ประชุม เผยคุยกับ ปชป.รู้เรื่องแล้ว ไม่มีโหวตสวน “บิ๊กสน” ยันพูดคุยปกติ ไม่มีต้องเคลียร์ใจ โยนวิป รบ.จัดการองค์ประชุมสภา“สุริยะ”มั่นใจ มีทติ้ง กระชับสัมพันธ์แก้สภาล่ม “จุรินทร์”พร้อมร่วมเลี้ยงพรรคร่วม เผยประชุมสส.ต้องลงมติทางเดียวกัน หลังมี6 สส.ปชป.แหกคอก โหวตหนุนตั้ง กมธ.ศึกษาฯผลกระทบม.44 ยังอุบบทลงโทษ รัฐบาลเสียววูบเหลือแค่ 250 เสียงเตรียมให้ขานชื่อเช็คองค์ประชุม สั่งวิป1คน ประกบส.ส. 6 คน ศาลสั่งจำคุก ‘สำเริง-วรชัย’4 ปี และออกหมายจับ’ไวพจน์’
เมื่อวันที่ 3ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)โดยก่อนการประชุม ผู้สื่อข่าวพยายามถามว่าจะไปรวมงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล ที่สโมสรราชพฤกษ์ ในช่วงค่ำวันที่ 3 ธ.ค.นี้หรือไม่ ปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ยักคิ้วให้ผู้สื่อข่าวและตอบสั้นๆว่า”ไม่รู้” ขณะที่ แหล่งข่าวใกล้ชิดของพล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่าเบื้องต้นหลังเสร็จภารกิจส่วนตัวพล.อ.ประยุทธ์จะแวะไปทักทาย และร่วมงานเลี้ยงแต่จะไม่อยู่ร่วมตลอดงาน
บิ๊กป้อมเชื่อไร้ปัญหา-เคลียร์ปชป.
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการนัดพบปะรับประทานอาหารระหว่างแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ช่วงเย็นว่าไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมงานและบันทึกภาพ เป็นเพียงการรับประทานอาหารร่วมกันเฉยๆ การทำงานภายในพรรคร่วมรัฐบาล ยังเป็นไปโดยราบรื่น ส่วนความเห็นต่างภายในเป็นเรื่องตัวบุคคลซึ่งสามารถพูดคุยกันได้ ส่วนปัญหาประชุมสภาผู้แทนราษฎรล่ม 2ครั้งจากการลงมติตั้ง คณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญศึกษาผลกระทบจากคำสั่ง คสช.และมาตรา44 รองนายกฯกล่าวว่า คงไม่มีเหตุการณ์ประชุมล่มเกิดขึ้นอีกและไม่ต้องขอเสียงจากฝ่ายค้าน ส่วนปัญหา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ บางส่วนโหวตสวนรัฐบาล ก็มีการพูดคุยกันแล้ว ไม่มีปัญหาแน่ ไม่มีการโหวตสวน
ปัดเลี้ยงงูเห่าพท.-จับตา’วิ่งไล่ลุง’
ส่วนกระแสข่าวว่าแกนนำพรรคพลังประชารัฐติดต่อ ส.ส.พรรคเพื่อไทยให้ยกมือสนับสนุนรัฐบาลในบางเรื่องประมาณ20กว่าคนในลักษณะฝากเลี้ยงกับพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้และไม่มีการเจรจากับพรรคเพื่อไทย ส่วนที่กรณีเครือข่ายต่อต้านรัฐบาลประกาศเตรียมจัดกิจกรรม‘วิ่งไล่ลุง’นั้น คงไม่มีใครจัด หากจะจัดต้อง ดูว่าผิดกฎหมายหรือไม่ หากไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ก็สามารถทำได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะการให้สัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินเข้ามากลางวงสัมภาษณ์ พร้อมกับถือไมค์ของผู้สื่อข่าวไปสัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร และกล่าวว่า”รุ่นพี่ผม”จากนั้นต่างฝ่ายต่างหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ก่อนแยกย้ายกันไป
บิ๊กสนพูดคุยปกติ ไม่ต้องเคลียร์ใจ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงานและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ให้สัมภาษณ์ถึงนัดพบปะทานอาหารเย็นของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่า เป็นการพบปะสังสรรค์และพูดคุยกัน เนื่องจากไม่มีโอกาสได้พบประกันตั้งแต่ตั้งรัฐบาลมา เพราะต่างคนต่างก็ทำงาน คงไม่มีอะไรที่ต้องเคลียร์ใจกันเพราะพรรคร่วมก็ทำงานด้วยกันได้ดี ไม่มีอะไรก็พูดคุยกัน หารือกันเป็นเรื่องๆไป เป็นวันที่แกนนำทุกพรรคมีโอกาสพบปะพร้อมๆกันซึ่งบรรยากาศพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด เป็นโอกาสที่หาได้น้อย
เล็งจัดพบปะสส.รัฐบาลทั้งหมด
เลขาธิการพรรค พปชร.ยังระบุว่า คงจะไม่ได้จัดครั้งนี้เพียงแค่ครั้งเดียว แต่คงจะจัดเป็นระยะๆ เพื่อให้ทุกพรรคได้มีโอกาสพูดคุยกันโดยหากคุยกันแล้วทุกคนประสงค์ อยากให้จัดอย่างไรต่อไปก็คงจะให้เป็นไปตามความต้องการของทุกฝ่ายเพราะพรรคร่วม คงต้องมีโอกาสพบกันเป็นระยะๆคงต้องมีการหารือกันในส่วนของการพบปะกันของ ส.ส.ด้วยเพราะถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มีการพบปะส.ส.ในฟากรัฐบาลทั้งหมดด้วยในอนาคต พร้อมยอมรับว่ายังไม่ได้คุยกันถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพราะเรื่องนั้น เป็นหน้าที่ของรัฐบาล
โยนวิปรบ.จัดการองค์ประชุมสภา
เมื่อถามว่า เมื่อคุยกันแล้วมั่นใจว่าการประชุมสภาในวันพรุ่งนี้(4 ธันวาคม)องค์ประชุมจะครบจนไม่ทำให้การประชุมล่มอีก นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า วิปรัฐบาลทำงานอยู่ ซึ่งน่าจะราบรื่น เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหากันได้ และเดินหน้าไปด้วยดี ทั้งนี้ ปกติวิปก็คุยกันอยู่แล้วเรื่องขององค์ประชุม และก็มีการประชุมพรรคร่วมก่อนการประชุมสภา ส่วนเรื่องความเห็นที่แตกต่างของพรรคร่วม ก็ถือเป็นเรื่องปกติของการทำงานร่วมกันของพรรคร่วม ที่บางครั้งบางตอนจะมีความเห็นที่แตกต่างกัน อย่าเพิ่งไปมองถึงเรื่องเสถียรภาพ และความไม่มั่นคง เพราะยังไม่ขนาดนั้น
เลขาธิการพรรค พปชร.ยังเห็นว่า คงไม่ต้องพิจารณาตัวประธานวิปรัฐบาลเพราะท่านก็ทำหน้าที่ของท่าน ทุกอย่างมีเหตุ มีผลอยู่ในเรื่องราวต่างๆเดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไป ส่วนความพร้อมของ พปชร.หลังนายกรุง ศรีวิไลย ส.ส.สมุทรปราการ พรรค พปชร.ต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่หลังมีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ต้องเป็นไปตามคำวินิจฉัย เดี๋ยวรอให้ชัดเจนจะมาปรึกษาหารือกัน หากมีการเลือกตั้งซ่อม
‘สุริยะ’มั่นใจแก้ปัญหาสภาล่มได้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะแกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ให้สัมภาษณ์ถึงการรับประทานอาหารร่วมของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลช่วงเย็นว่าแกนนำ พปชร.ทั้งที่เป็นรัฐมนตรีและส.ส.จะเดินทางไปร่วมงานทุกคน ก่อนหน้านี้เราไม่เคยได้มีการสังสรรค์กับพรรคร่วมรัฐบาล หากมีการพูดคุยกันอาจจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ตอนนี้ปัญหาก็ไม่ได้มีอะไรมาก เพียงแต่ต้องการกระชับความสัมพันธ์ให้แนบแน่นขึ้นระหว่างผู้บริหารพรรค และส่วนตัวเชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาสภาล่มได้
‘อนุทินควงศักดิ์ยามร่วมงานมีทติ้ง
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการรับประทานอาหารร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงเย็นว่ายืนยันว่า ตนจะเดินทางไปกับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เมื่อถามว่าจะทำให้สถานการณ์ในพรรคร่วมรัฐบาลดีขึ้นใช่หรือไม่นายอนุทินกล่าวว่ามันดีอยู่แล้ว ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย เรามาครบอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา
‘ศักดิ์สยาม’ลั่นรัฐบาลเข้มแข็ง
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ยืนยัน จะเดินทางไปร่วมรับประทานอาหารด้วย ปกติครม.ก็รับประทานอาหารร่วมกันภายหลังประชุมครม.ทุกครั้งอยู่แล้ว โดยมีรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลรับประทานอาหารด้วยกันทั้งหมด เราไม่ได้มีปัญหาอะไร รัฐบาลยังมีความเข้มแข็ง ส่วนตัว ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร
‘วราวุธ’นำแกนนำชทพ.พร้อมหน้า
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.)ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าตนพร้อมน.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ เลขาธิการพรรค นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายธีระ วงศ์สมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะเดินทางไปร่วมรับประทานอาหารช่วงเย็น ที่สโมสรราชพฤกษ์ กับพรรคร่วมรัฐบาล ตามที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค พปชร.ได้เชิญในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา และเชื่อว่าหากนายกฯไม่ติดภารกิจจะเดินทางมาร่วมงาน เพราะให้ความสำคัญกับการทำงานของ ครม.พร้อมชื่อมั่นทำงานร่วมงานรัฐบาลราบรื่น
จุรินทร์-ปชป.พร้อมร่วมมีทติ้งรบ.
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แกนนำรัฐบาลนัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลรับประทานอาหารร่วมกันในช่วงเย็นวันนี้ว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ได้ประสานให้รัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนไปร่วมงาน ในส่วนของตนก็จะไปร่วมงานด้วยเช่นกัน ส่วนจะทำให้ความระหองระแหงภายในรัฐบาลคลี่คลายลงหรือไม่นั้น ตนยังไม่ทราบว่าในวงรับประทานอาหารจะพูดคุยเรื่องใดบ้าง แต่อย่างน้อยได้พูดคุยร่วมกันบ้างก็ยังดี
ย้ำทุกพรรคต้องปฏิบัติตามมติวิป
เมื่อถามว่า การประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้ จะมีการพูดคุยถึงกรณีการโหวตตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)และการใช้อำนาจหัวหน้า คสช.ตามมาตรา 44นายจุรินทร์กล่าวว่าวิปของพรรคจะรายงานผลการหารือร่วมกับวิปรัฐบาลให้กับที่ประชุม ส.ส.พรรคได้รับทราบ ส่วนที่ก่อนหน้านี้ที่มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 6 คน โหวตสวนทางกับมติวิปรัฐบาลนั้น วันนี้ทางวิปพรรค คงได้พูดคุยกัน
เมื่อถามว่าส.ส.พรรคทุกคนต้องฟังวิปของพรรคใช่หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่าโดยหลักการทำงานในรัฐสภา ต้องมีมติวิปออกมาแล้ว แต่ละพรรคก็ปฏิบัติตามมติวิป เนื่องจากระบบรัฐสภา รัฐบาลต้องการเสียงข้างมากในสภาฯแต่ละมติจะกำหนดโดยวิปรัฐบาล แม้แต่ฝ่ายค้านก็มีมติของวิปฝ่ายค้านให้แต่ละพรรคการเมืองไปปฏิบัติ
ชี้สส.รัฐบาลโหวตทางเดียวกัน
เมื่อถามย้ำว่า หาก 6 ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ยังยืนยันจะลงมติตามเดิมทางพรรคจะให้เป็นเอกสิทธิ์หรือจะดำเนินการอย่างไร นายจุรินทร์กล่าวว่า ที่ประชุม ส.ส.จะพิจารณาในวันนี้ขอให้วิปพรรคได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่และไม่อยากให้จับจ้องมาที่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเพราะพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องทำงานร่วมกันและทำความเข้าใจกับ ส.ส.ในซีกของรัฐบาลเพื่อลงมติในทางเดียวกันซึ่งวิปของพรรคประชาธิปัตย์ก็มีหน้าที่เช่นนี้เช่นกัน เมื่อถามอีกว่าหากมีการแหกมติอีกจะมีบทลงโทษอย่างไร นายจุรินทร์กล่าวว่า “ผมยังไม่อยากพูดในตอนนี้ ขอให้วิปพรรค ได้ทำหน้าที่ก่อน”
ลุ้นโหวต4ธ.ค.จับตาสภาล่มรอบ3
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่าในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 4 ธ.ค.นี้ โดยมีวาระสำคัญคือการพิจารณาญัตติด่วนเรื่อ งการให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะ กมธ.วิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและการใช้อำนาจของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติตามมาตรา 44 ต่อ หลังเกิดเหตุองค์ประชุมล่มมา 2 ครั้ง โดยการประชุมสภาวันที่ 4 ธ.ค.ถูกจับตามองว่าจะสภาล่มครั้งที่ 3 หรือไม่ ขณะนี้จำนวน ส.ส.ในสภามีทั้งสิ้น 498 คน จากจำนวน 500 คนซึ่ง2คนขาดไปคือ1.นายนวัธ เตาะเจริญสุข อดีตส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก คดีจ้างวานฆ่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเลือกตั้งซ่อม 2.นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง คำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณา คดีทุจริตการเลือกตั้ง ต้องถูกหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น องค์ประชุมองค์ประชุมที่จะทำให้การประชุมสภาเนินการได้ จะต้องมีไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่คือ249 คน
รัฐบาลเสียววูบเหลือแค่250เสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยส.ส.ที่ซีกรัฐบาล ต้องระดมเข้าประชุมเพื่อไม่ให้องค์ประชุมล่ม คือ 249 เสียง ขณะนี้เสียงส.ส.ฝ่ายรัฐบาลมี 254 เสียง แต่มีแนวโน้มว่าส.ส.ฝ่ายรัฐบาล อาจขาดหายไป 4 เสียงได้แก่ 1นายชัย ชิด ชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ที่ป่วยอยู่ 2.นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อยู่ระหว่างพักฟื้นหลังบายพาสหัวใจ 3.นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ 4.นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ถูกพักการปฏิบัติหน้าที่ เสียงฝั่งรัฐบาลเหลือสูงสุดแค่ 250เสียง เกินองค์ประชุม249เสียง มาแค่คะแนนเดียว ซึ่งวิปรัฐบาลสั่งเช็คเสียงอย่างเข้มข้นและกำชับส.ส.ทุกคน ตลอดจนรัฐมนตรีที่เป็นส.ส. ห้ามขาดประชุมสภาวันที่ 4 ธ.ค.เด็ดขาด เพราะมีเสียงหมิ่นเหม่ สุ่มเสี่ยงต่อเหตุสภาล่มอีก
วิปวาง2ข้อสกัดสภาล่มคุมเข้มสส.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวิปรัฐบาลวันที่ 2ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้วางแนวทางป้องกัน เหตุองค์ประชุมล่มไว้ในเบื้องต้นคือ 1.การเสนอให้ตรวจสอบองค์ประชุม ด้วยการขานชื่อ เป็นรายบุคคล แทนการเสียบบัตรลงคะแนนเพื่อให้ส.ส.ที่ติดภารกิจประชุมคณะ กมธ.หรือคณะ กมธ.วิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี2563 สามารถมาแสดงตน เป็นองค์ประชุมได้ทัน รวมถึงป้องกันกรณีบัตรประจำตัว ส.ส.ขัดข้องในการเสียบบัตรแสดงตน
2.การกำหนดให้วิปรัฐบาล 1คน ทำหน้าที่ประสานงาน ส.ส.6 คน โดยเฉพาะพรรค พลังประชารัฐ กำหนดขั้นตอนว่า วิปรัฐบาล คนใดติดต่อ ส.ส.ไม่ให้ความร่วมมือต้องให้กรรมการบริหารพรรคหรือส.ส.อาวุโสมาช่วยเคลียร์ เกิดความเกรงใจ ให้ความสำคัญกับการประชุมสภาฯมากขึ้น
คุก’สำเริง-วรชัย’4ปี/หมายจับ’ไวพจน์’
วันเดียวกัน ศาลจังหวัดพัทยานัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.3537/2552 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.8488/2552ระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการจังหวัดพัทยาเป็นโจทก์ฟ้อง นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรองจำเลยที่1กับพวกรวม18คนจำเลย ซึ่งเป็นแกนนำและแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)กรณีร่วมชุมนุมบุกล้มประชุมอาเซียนปี2552โดยมีผู้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์จำเลยที่ 3ทนายจำเลยที่3,นายสำเริง ประจำเรือ จำเลยที่ 6และนายวรชัย เหมะ จำเลยที่13 มาศาล
ศาลฎีกามีคำสั่งว่าประเด็นที่1คือ พ.ต.ท.ไวพจน์ จำเลยที่3,นายสำเริง จำเลยที่6และนายวรชัย จำเลยที่13ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การเดิม จากปฎิเสธ เป็นรับสารภาพ ศาลฎีกามีคำสั่งว่าการแก้ไข หรือเพิ่มเติมคำให้การต้องกระทำก่อนศาลพิพากษา การที่จำเลยมายื่นในชั้นฎีกา เป็นการต้องห้ามยกคำร้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163 วรรคสอง ประเด็นที่2คือวันนี้ผู้รับมอบอำนาจจำเลยที่ 3ทนายจำเลยที่ 3,จำเลยที่ 6 และจำเลยที่ 13 ยื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำพิพากษาศาลฎีกาจำเลยที่ 3ให้เหตุผลว่าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่ระหว่างการประชุมพรรค ศาลฎีกามีคำสั่งว่าแม้จำเลยที่ 3 เป็น สส.แต่คดีนี้เสร็จการพิจารณาแล้ว ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560มาตรา125ประกอบกับการขอเลื่อนคดีมีลักษณะเป็นการประวิงคดีจึงไม่อนุญาตให้เลื่อนฟังคำพิพากษาศาลฎีกาของจำเลยที่ 6 และจำเลยที่ 13 พิพากษา นายสำเริง จำเลยที่6และนายวรชัย จำเลยที่ 13 จำคุกคนละ4ปี ปรับคนละ200บาท ส่วน พ.ต.ท.ไวพจน์ จำเลยที่3ให้เลื่อนฟังคำพิพากษาไปอ่านวันที่ 15ม.ค.2563 เวลา 09.00น.และให้ออกหมายจับจำเลยที่ 3 และปรับนายประกันเต็มตามสัญญาประกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี