อนค.เปิดเอกสารหลุด กกต.คดีเงินกู้อนาคตใหม่ มีธงชัดตัดสิทธิแกนนำพรรค 5 ปี ด้าน “พรรณิการ์” เผยแหล่งข่าวเผยมีใบสั่งอีกฉบับหวังโยงถึงขั้นยุบพรรค แย้งตามกฎหมายทำไม่ได้
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2562 ที่พรรคอนาคตใหม่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงกรณีมีเอกสารต้องสงสัย ว่าอาจจะหลุดออกมาจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุความเห็นของบุคคลระดับสูงในกกต. ในลักษณะที่มีการระบุให้ดำเนินคดีอาญาแก่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และกรรมการบริหารขของพรรคในคดีเงินกู้ของนายธนาธรให้ได้
โดยน.ส.พรรณิการ์ ระบุว่า กรณีเอกสารที่หลุดออกมานั้น ทำให้เกิดความน่าสงสัย ว่าการดำเนินการของ กกต.เป็นไปโดยมีธงทางการเมืองและใบสั่งทางการเมืองหรือไม่ เพราะรายละเอียดในเอกสารนี้ได้มีการชี้นำคดีไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าจะให้นายธนาธรและกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่มีความผิดในคดีอาญา ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี โดยความเห็นนี้มีมาตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน แต่กกต.มาเรียกพยานเอกสารจากพรรคในเดือนตุลาคม แต่ทั้งนี้ต้องอย่าลืมว่าใบสั่งทางการเมืองสามารถมีได้มากกว่าหนึ่งใบเสมอ ซึ่งทางพรรคอนาคตใหม่เองก็ได้รับรายงานมาจากแหล่งข่าวเช่นกัน ว่ากำลังมีความพยายามที่จะทำให้คดีนี้ นำไปสู่การวินิจฉัยโดยศาลรัฐธรรมนูญและนำไปสู่การยุบพรรคอนาคตใหม่ ทั้งๆที่คดีนี้ฐานความผิดไม่เกี่ยวข้องกับการยุบพรรคเลยแม้แต้น้อย ไม่สามารถนำไปสู่การยุบพรรคได้ตามตัวบทกฎหมาย
"สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้พรรคอนาคตใหม่มีข้อสังเกต ว่าในขณะนี้อาจมีใบสั่งทางการเมืองไม่ใช่แค่ใบเดียว แต่มีสองใบหรือไม่ กล่าวคือทั้งจะดำเนินคดีอาญาตัดสิทธิทางการเมืองนายธนาธรและกรรมการบริหารพรรค 5 ปี พร้อมกับนำเรื่องขึ้นสู่ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การยุบพรรคให้ได้ด้วย ตนจึงขอให้ประชาชนได้ช่วยกันจับตามองในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด"น.ส.พรรณิการ์ กล่าว
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ สิ่งที่น่าจะพอทำให้เห็นได้ว่าเรื่องของธงหรือใบสั่งทางการเมืองอาจจะเป็นเรื่องจริง คือกรณีที่ กกต.ไม่รอให้คณะอนุกรรมการสอบสวนคดีวี-ลัคสอบสวนให้แล้วเสร็จก่อน แต่กลับมีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญไป โดยที่ยังมีการเรียกพยานในคดีดังกล่าวไปสอบอยู่ ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ได้ยื่นฟ้อง กกต.ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบไปแล้ว
แต่ปรากฏว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กกต.กลับยังคงไม่ยอมรับ และออกมายืนยันว่าปฏิบัติหน้าที่โดยชอบแล้ว โดยอ้างว่าที่ กกต.เรียกตัวพยานมาสอบนั้นเป็นเรื่องคดีอาญา ซึ่งทางพรรคขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากเอกสารเรียกพยานมาสอบทุกฉบับ ไม่มีฉบับใดที่ระบุว่าเป็นการสอบในคดีอาญาตามมาตรา 151 ดังที่ กกต.กล่าวอ้าง ในทางกลับกัน เอกสารทุกฉบับระบุว่าเป็นการสอบในความผิดฐานมีลักษณะต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ซึ่งก็คือตามคดีที่ กกต.ส่งฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญไป ไม่มีฉบับใดที่พูดถึงความผิดตามมาตรา 151 เลย
“กกต.พูดแบบนี้ต่อสังคมหมายความว่าอย่างไร นี่เป็นหลักฐานที่ชัดเจน ว่ามีความเป็นไปได้ว่า กกต.มีธงทางการเมือง อนุฯยังสอบไม่เสร็จกลับส่งเรื่องสู่ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ทั้งๆที่อนุฯสอบประเด็นเดียวกัน ไม่ใช่คดีอาญา ขอให้ กกต.ตอบเรื่องนี้ด้วย เพื่อความกระจ่างต่อสังคม ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.เป็นไปโดยชอบ ไม่มีธงทางการเมืองแบบที่สังคมกำลังสงสัย” น.ส.พรรณิการ์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี